ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
fair value · 20 million securities worldwide · 50 year history · 10 year estimates · leading business news

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇰🇪

เคนยา ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จากการทำเหมืองแร่

ราคา

27.593 ล้านล้าน KES
การเปลี่ยนแปลง +/-
+1.02 ล้านล้าน KES
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+3.77 %

มูลค่าปัจจุบันของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จากการทำเหมืองแร่ใน เคนยา คือ 27.593 ล้านล้าน KES ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จากการทำเหมืองแร่ใน เคนยา เพิ่มขึ้นเป็น 27.593 ล้านล้าน KES เมื่อ 1/9/2566 หลังจากที่เคยเป็น 26.573 ล้านล้าน KES เมื่อ 1/6/2566 ตั้งแต่ 1/3/2552 ถึง 1/12/2566 ค่าเฉลี่ยของการผลิตมวลรวมในประเทศ (GDP) ใน เคนยา อยู่ที่ 20.73 ล้านล้าน KES มูลค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/3/2565 โดยมีค่า 30.02 ล้านล้าน KES ขณะที่ค่าต่ำสุดที่บันทึกไว้เมื่อ 1/3/2552 โดยมีค่า 9.32 ล้านล้าน KES

แหล่งที่มา: Kenya National Bureau of Statistics

ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จากการทำเหมืองแร่

  • แม็กซ์

ผลิตภัณฑ์มวลรวมในภาคเหมืองแร่

ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จากการทำเหมืองแร่ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/9/256627.593 ล้านล้าน KES
1/6/256626.573 ล้านล้าน KES
1/3/256626.706 ล้านล้าน KES
1/12/256527.069 ล้านล้าน KES
1/9/256527.385 ล้านล้าน KES
1/6/256528.988 ล้านล้าน KES
1/3/256530.015 ล้านล้าน KES
1/12/256430.009 ล้านล้าน KES
1/9/256423.512 ล้านล้าน KES
1/6/256424.917 ล้านล้าน KES
1
2
3
4
5
...
6

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จากการทำเหมืองแร่

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇰🇪
BIP
107.44 ล้านล้าน USD113.42 ล้านล้าน USDประจำปี
🇰🇪
GDP จากบริษัทสาธารณูปโภค
64.342 ล้านล้าน KES65.702 ล้านล้าน KESควอร์เตอร์
🇰🇪
GDP จากภาคการขนส่ง
257.365 ล้านล้าน KES260.593 ล้านล้าน KESควอร์เตอร์
🇰🇪
การเติบโตของ BIP ตลอดทั้งปี
5.6 %4.9 %ประจำปี
🇰🇪
การลงทุนทางการเงินรวม
1.897 ชีวภาพ. KES1.861 ชีวภาพ. KESประจำปี
🇰🇪
จีดีพีจากภาคเกษตรกรรม
416.131 ล้านล้าน KES365.473 ล้านล้าน KESควอร์เตอร์
🇰🇪
จีดีพีต่อหัว ที่ปรับเป็นความซื้อขายแลกเปลี่ยน
5,699.82 USD5,513.86 USDประจำปี
🇰🇪
จีดีพีที่ราคาคงที่
2.665 ชีวภาพ. KES2.53 ชีวภาพ. KESควอร์เตอร์
🇰🇪
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัว
1,813.76 USD1,754.59 USDประจำปี
🇰🇪
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในภาคบริการ
79.842 ล้านล้าน KES74.355 ล้านล้าน KESควอร์เตอร์
🇰🇪
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในภาคบริการสาธารณะ
159.261 ล้านล้าน KES155.106 ล้านล้าน KESควอร์เตอร์
🇰🇪
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในสาขาการก่อสร้าง
148.962 ล้านล้าน KES153.38 ล้านล้าน KESควอร์เตอร์
🇰🇪
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในอุตสาหกรรมการผลิต
220.028 ล้านล้าน KES208.58 ล้านล้าน KESควอร์เตอร์
🇰🇪
อัตราการเติบโตของ GDP
1.5 %1.4 %ควอร์เตอร์
🇰🇪
อัตราการเติบโตของ GDP ประจำปี
5.1 %6 %ควอร์เตอร์

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน แอฟริกา

คืออะไร ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จากการทำเหมืองแร่

ในการวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจในหมวดหมู่ "GDP จากการทำเหมือง" (Gross Domestic Product from Mining) ซึ่งถือเป็นแนวโน้มสำคัญที่สามารถสะท้อนสถานะการเงินและเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ การทำเหมืองมักจะมีการระบุถึงการขุดเกลือ ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน เหมืองแร่เหล็ก และทรัพยากรสำคัญอื่น ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้มักถูกนับเป็นส่วนหนึ่งของ GDP ของประเทศนั้น ๆ การทำเหมืองเป็นกิจกรรมที่มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยทั่วไปแล้ว, การขุดค้นและสกัดทรัพยากรธรรมชาติในปริมาณมากมักจะส่งผลโดยตรงต่อ GDP ของประเทศ การมีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และมีการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพสามารถเป็นแหล่งสร้างรายได้หลักของหลายประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่พัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมการทำเหมือง หนึ่งในเหตุผลที่การทำเหมืองมีอิทธิพลอย่างมากต่อ GDP ของประเทศคือการสร้างงานทำที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมนี้ ตั้งแต่การขุดค้นไปจนถึงการแปรรูปและจำหน่ายทรัพยากรธรรมชาติที่ได้ การทำเหมืองเสนอผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม และทำให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ความสามารถในการสร้างงานทำที่มีรายได้ดีทำให้ประชาชนมีเงินพอใช้จ่าย และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างหาก อีกทั้งความสำคัญของการทำเหมืองยังอยู่ที่การเป็นแหล่งรายได้สำหรับรัฐบาลผ่านการเก็บภาษีในรูปแบบต่างๆ เช่น ภาษีการขุดค้น ภาษีน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ภาษีสิทธิสำรวจ และอื่น ๆ รายได้จากภาษีเหล่านี้สามารถนำไปใช้เพื่อส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการบริการสังคมตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเป็นการต่อยอดอีกรอบหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมการทำเหมืองยังมีการขยายตัวที่ต้องการอินฟราสตรักเจอร์ที่เข้มแข็ง เช่น การคมนาคม ขนส่ง, ระบบไฟฟ้า และน้ำ ซึ่งอินฟราสตรักเจอร์เหล่านี้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาและเติบโตของประเทศ พร้อมทั้งยึดถือหลักการปฏิบัติในเชิงสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดความยั่งยืนและลดผลกระทบทางลบต่อธรรมชาติ สำหรับบางประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์อย่างเช่น รัสเซีย, แคนาดา, ออสเตรเลีย, และชิลี การทำเหมืองเป็นหนึ่งในเสาหลักที่ช่วยยกระดับ GDP ของประเทศและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การผลิตและส่งออกทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้นอกจากจะสร้างรายได้โดยตรงแล้ว ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในเวทีการค้าต่างประเทศ ซึ่งเป็นแรงดึงดูดการลงทุนจากภายนอก นอกจากสภาพเศรษฐกิจในระดับประเทศ การทำเหมืองยังมีบทบาทสำคัญในเวทีเศรษฐกิจโลก เรียกตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของความต้องการของทรัพยากรธรรมชาติส่วนใหญ่เกิดจากการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนา เช่น ประเทศจีน และอินเดีย ซึ่งต้องการทรัพยากรในการพัฒนาอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐานในประเทศตัวเอง การทำเหมืองมีส่วนเอื้อให้ GDP ของประเทศไทยคล้ายกับกลุ่มประเทศเหล่านี้ในการสร้างสรรค์รายได้จากการขายทรัพยากรออกไป นอกจากนี้ การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับ "GDP จากการทำเหมือง" เป็นสิ่งสำคัญที่กลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ นักลงทุน และภาคธุรกิจต้องพิจารณาเพื่อเข้าใจการแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศและการวางแผนธุรกิจ ข้อมูลดังกล่าวช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนทางการเงิน การวางแผนโครงการ การทำเหมืองที่ยั่งยืนและการตลาดทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีกลยุทธ์ ในส่วนของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การทำเหมืองก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน เช่น ในประเทศไทย การทำเหมืองทองคำ การทำเหมืองถ่านหิน และการผลิตก๊าซธรรมชาติเป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถเป็นตัวชี้วัดกระแสการเติบโตของเศรษฐกิจไทยได้ ในด้านความยั่งยืน การทำเหมืองควรจะต้องพิจารณาถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง การจัดการสิ่งแวดล้อมและควบคุมกระบวนการทำเหมืองเป็นที่สำคัญเพื่อให้มั่นใจได้ว่าการทำเหมืองนั้นจะไม่สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติควรจะต้องมีความยั่งยืนและประหยัดเพื่อให้มีทรัพยากรสำหรับคนรุ่นถัดไป สุดท้ายนี้, เว็บไซต์ของเราที่ "eulerpool" เมื่อเผยแพร่ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ "GDP จากการทำเหมือง" เราหวังที่จะให้ผู้ใช้สามารถได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและครอบคลุม ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการวิเคราะห์และตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพในทุกมิติของเศรษฐกิจ ข้อมูลที่ครอบคลุมทั้งกระบวนการทำเหมือง ภาษี รายได้ การจ้างงาน และผลกระทบทางเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่ผู้ใช้สามารถพึ่งพาได้เพื่อเป็นแนวทางในการทำความเข้าใจเศรษฐกิจภาพรวมอย่างลึกซึ้งและแบบครบวงจร