ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร โคโซโว เงินเฟ้ออาหาร
ราคา
ค่า เงินเฟ้ออาหาร ใน โคโซโว ปัจจุบันเป็น 1.5 % เงินเฟ้ออาหาร ใน โคโซโว ลดลงเหลือ 1.5 % เมื่อ 1/5/2567 หลังจากที่มันเป็น 2.2 % เมื่อ 1/4/2567 จาก 1/5/2546 ถึง 1/6/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน โคโซโว คือ 3.91 % ระดับสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/5/2551 โดยมีค่าเป็น 26.7 % ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/5/2552 โดยมีค่าเป็น -7.7 %
เงินเฟ้ออาหาร ·
แม็กซ์
เงินเฟ้อด้านอาหาร | |
---|---|
1/5/2546 | 1.5 % |
1/6/2546 | 1.6 % |
1/9/2546 | 0.9 % |
1/10/2546 | 1.3 % |
1/11/2546 | 3.1 % |
1/12/2546 | 2.2 % |
1/1/2547 | 1.7 % |
1/2/2547 | 2.7 % |
1/3/2547 | 0.8 % |
1/4/2547 | 0.2 % |
1/6/2547 | 0.4 % |
1/7/2547 | 3.9 % |
1/8/2547 | 3.5 % |
1/6/2548 | 1.1 % |
1/10/2548 | 2.7 % |
1/11/2548 | 2.6 % |
1/12/2548 | 3.4 % |
1/1/2549 | 2.9 % |
1/2/2549 | 3.1 % |
1/3/2549 | 1.7 % |
1/4/2549 | 3.5 % |
1/5/2549 | 4.7 % |
1/6/2549 | 5.3 % |
1/7/2549 | 5.2 % |
1/8/2549 | 5.2 % |
1/9/2549 | 4.6 % |
1/10/2549 | 1.9 % |
1/11/2549 | 2.3 % |
1/12/2549 | 3 % |
1/1/2550 | 4.9 % |
1/2/2550 | 4.4 % |
1/3/2550 | 2.9 % |
1/4/2550 | 1.7 % |
1/5/2550 | 2.2 % |
1/6/2550 | 2.5 % |
1/7/2550 | 3.2 % |
1/8/2550 | 13.5 % |
1/9/2550 | 13.5 % |
1/10/2550 | 21.5 % |
1/11/2550 | 20.1 % |
1/12/2550 | 19.2 % |
1/1/2551 | 19.4 % |
1/2/2551 | 20.2 % |
1/3/2551 | 23.8 % |
1/4/2551 | 26.2 % |
1/5/2551 | 26.7 % |
1/6/2551 | 25.8 % |
1/7/2551 | 24.6 % |
1/8/2551 | 11.8 % |
1/9/2551 | 11.8 % |
1/10/2551 | 5.6 % |
1/11/2551 | 3.5 % |
1/12/2551 | 0.8 % |
1/2/2553 | 1 % |
1/4/2553 | 1.2 % |
1/5/2553 | 2.5 % |
1/6/2553 | 2.6 % |
1/7/2553 | 2.7 % |
1/8/2553 | 10 % |
1/9/2553 | 9 % |
1/10/2553 | 9.28 % |
1/11/2553 | 9.79 % |
1/12/2553 | 10.55 % |
1/1/2554 | 12 % |
1/2/2554 | 16.6 % |
1/3/2554 | 18.98 % |
1/4/2554 | 19.2 % |
1/5/2554 | 18.3 % |
1/6/2554 | 16.4 % |
1/7/2554 | 15.2 % |
1/8/2554 | 8.3 % |
1/9/2554 | 7.3 % |
1/10/2554 | 6.9 % |
1/11/2554 | 5.53 % |
1/12/2554 | 3.88 % |
1/1/2555 | 2.2 % |
1/8/2555 | 1.5 % |
1/9/2555 | 3.5 % |
1/10/2555 | 4.8 % |
1/11/2555 | 4.8 % |
1/12/2555 | 5.1 % |
1/1/2556 | 5.6 % |
1/2/2556 | 3.9 % |
1/3/2556 | 3.1 % |
1/4/2556 | 3 % |
1/5/2556 | 3.7 % |
1/6/2556 | 4.9 % |
1/7/2556 | 3.7 % |
1/8/2556 | 1.8 % |
1/8/2557 | 0.2 % |
1/9/2557 | 1.6 % |
1/10/2557 | 1.4 % |
1/11/2557 | 1.2 % |
1/12/2557 | 0.9 % |
1/1/2558 | 1.4 % |
1/2/2558 | 1.9 % |
1/3/2558 | 1.2 % |
1/4/2558 | 1.4 % |
1/5/2558 | 0.5 % |
1/6/2558 | 0.3 % |
1/10/2559 | 0.3 % |
1/11/2559 | 0.4 % |
1/12/2559 | 0.7 % |
1/1/2560 | 1.1 % |
1/2/2560 | 1 % |
1/3/2560 | 1 % |
1/4/2560 | 1.7 % |
1/5/2560 | 1.9 % |
1/6/2560 | 1 % |
1/7/2560 | 1.5 % |
1/8/2560 | 1.4 % |
1/9/2560 | 1.3 % |
1/10/2560 | 2.3 % |
1/11/2560 | 2.1 % |
1/12/2560 | 1.5 % |
1/1/2561 | 0.5 % |
1/2/2561 | 0.6 % |
1/3/2561 | 0.7 % |
1/4/2561 | 0.3 % |
1/6/2561 | 0.9 % |
1/7/2561 | 1.9 % |
1/8/2561 | 2 % |
1/9/2561 | 1.4 % |
1/10/2561 | 1.4 % |
1/11/2561 | 2.7 % |
1/12/2561 | 4.7 % |
1/1/2562 | 6.2 % |
1/2/2562 | 6.4 % |
1/3/2562 | 6.7 % |
1/4/2562 | 7.1 % |
1/5/2562 | 6.5 % |
1/6/2562 | 5.9 % |
1/7/2562 | 5.2 % |
1/8/2562 | 5.6 % |
1/9/2562 | 4.9 % |
1/10/2562 | 4.4 % |
1/11/2562 | 3.4 % |
1/12/2562 | 2 % |
1/1/2563 | 1.8 % |
1/2/2563 | 1.3 % |
1/3/2563 | 1.8 % |
1/4/2563 | 2.2 % |
1/5/2563 | 2.7 % |
1/6/2563 | 2.4 % |
1/7/2563 | 1.7 % |
1/8/2563 | 0.8 % |
1/9/2563 | 0.9 % |
1/10/2563 | 1.9 % |
1/11/2563 | 1.9 % |
1/12/2563 | 1 % |
1/2/2564 | 0.7 % |
1/3/2564 | 0.1 % |
1/6/2564 | 0.2 % |
1/7/2564 | 1.6 % |
1/8/2564 | 3.6 % |
1/9/2564 | 4.1 % |
1/10/2564 | 4.2 % |
1/11/2564 | 6.7 % |
1/12/2564 | 8.1 % |
1/1/2565 | 8.8 % |
1/2/2565 | 9.7 % |
1/3/2565 | 13 % |
1/4/2565 | 15.1 % |
1/5/2565 | 17.1 % |
1/6/2565 | 17.6 % |
1/7/2565 | 20 % |
1/8/2565 | 19.3 % |
1/9/2565 | 19.3 % |
1/10/2565 | 20.4 % |
1/11/2565 | 17.9 % |
1/12/2565 | 17.8 % |
1/1/2566 | 17.9 % |
1/2/2566 | 17.1 % |
1/3/2566 | 13.4 % |
1/4/2566 | 10.6 % |
1/5/2566 | 9.4 % |
1/6/2566 | 8.7 % |
1/7/2566 | 6.1 % |
1/8/2566 | 5.5 % |
1/9/2566 | 5.5 % |
1/10/2566 | 3.9 % |
1/11/2566 | 3.5 % |
1/12/2566 | 3 % |
1/1/2567 | 2.4 % |
1/2/2567 | 1.5 % |
1/3/2567 | 1.6 % |
1/4/2567 | 2.2 % |
1/5/2567 | 1.5 % |
เงินเฟ้ออาหาร ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/5/2567 | 1.5 % |
1/4/2567 | 2.2 % |
1/3/2567 | 1.6 % |
1/2/2567 | 1.5 % |
1/1/2567 | 2.4 % |
1/12/2566 | 3 % |
1/11/2566 | 3.5 % |
1/10/2566 | 3.9 % |
1/9/2566 | 5.5 % |
1/8/2566 | 5.5 % |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ เงินเฟ้ออาหาร
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇽🇰 CPI Transport | 123.1 points | 121 points | รายเดือน |
🇽🇰 การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต | 0.9 % | -0.9 % | ควอร์เตอร์ |
🇽🇰 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) | 129.6 points | 129.6 points | รายเดือน |
🇽🇰 ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง | 122.2 points | 121.7 points | รายเดือน |
🇽🇰 ต้นทุนการผลิต | 129.1 points | 129.6 points | ควอร์เตอร์ |
🇽🇰 ราคานำเข้า | 166 points | 161.8 points | ควอร์เตอร์ |
🇽🇰 อัตราเงินเฟ้อ | 1.4 % | 2.2 % | รายเดือน |
🇽🇰 อัตราเงินเฟ้อ MoM | 0.2 % | 0.3 % | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร เงินเฟ้ออาหาร
ฟู้ดอินเฟลชัน หรืออัตราเงินเฟ้อในภาคอาหาร เป็นประเด็นที่มีความสำคัญในด้านเศรษฐกิจมหภาค (Macroeconomics) โดยเฉพาะในเว็บไซต์แบบมืออาชีพอย่าง Eulerpool ซึ่งเรามุ่งเน้นการแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ถูกต้องและทันสมัย ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจและวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ในบทความนี้ เราจะแนะนำและอธิบายถึงฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยอย่างละเอียด เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ฟู้ดอินเฟลชัน หมายถึงการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการในภาคอาหารเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นผลมาจากหลายปัจจัย รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง การเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) การขาดแคลนวัตถุดิบ ภัยธรรมชาติ และการปรับตัวของกำลังการผลิต อุปสงค์และอุปทานในตลาด เป็นที่รู้กันดีว่าภาคอาหารมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักในการวัดฟู้ดอินเฟลชัน ดังนั้น อัตราการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการในหมวดอาหารจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อระดับราคาสินค้าและบริการทั้งหมดในสังคม หน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ติดตามและรายงานฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยคือตารางดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเผยแพร่โดยกระทรวงพาณิชย์ โดยอีกส่วนหนึ่งของข้อมูลนั้นยังมาจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (National Statistical Office) ซึ่งเน้นการรวบรวมข้อมูลและทำการวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ การวัดอัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารจะใช้สถิติจากหลายหมวดหมู่ ยกตัวอย่างเช่น ราคาข้าวและเมล็ดพืช ราคาผักและผลไม้ และราคาผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เป็นต้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุมาจากปัจจัยหลายประการ เช่น ภัยธรรมชาติที่ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง ปัญหาการขนส่งสินค้า การเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบที่นำเข้า และการปรับตัวของระบบซับพลายเชน (Supply Chain) ในภาคอาหาร ยกตัวอย่างเช่น ปีที่ผ่านมา ราคาข้าวที่เป็นสินค้าที่มีความสำคัญในชีวิตประจำวันของคนไทย ได้เพิ่มขึ้นกว่า 10% เนื่องจากปัญหาการเก็บเกี่ยวที่ไม่สมบูรณ์และการลดลงของพื้นที่เพาะปลูก ขณะเดียวกัน ราคาผักและผลไม้ก็เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7-8% เนื่องจากภาวะภัยแล้งและอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ ปัญหาฟู้ดอินเฟลชันมีผลกระทบต่อทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิต ฝ่ายผู้บริโภคมักจะพบกับการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาสินค้าในภาคอาหารเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องปรับการใช้ชีวิตและการตัดสินใจในการจับจ่ายใช้สอย ขณะเดียวกัน ฝ่ายผู้ผลิตก็ต้องเผชิญกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งอาจะทำให้พวกเขาต้องหาวิธีการลดต้นทุนหรือปรับตัวในการผลิตเพื่อความอยู่รอด ความสำคัญของการติดตามและวิเคราะห์อัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารจึงไม่สามารถมองข้ามได้ เนื่องจากมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ในการติดตามฟู้ดอินเฟลชัน หน่วยงานต่างๆ และภาคธุรกิจมักใช้เครื่องมือและดัชนีต่างๆ เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดทั่วไปที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ในดัชนีนี้ มีการแบ่งแยกข้อมูลเป็นหมวดหมู่อย่างละเอียด เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ยารักษาโรค เสื้อผ้า และเครื่องพักอาศัย ซึ่งหมวดอาหารก็จะมีการรายงานแยกย่อยเพิ่มเติม เพื่อให้เห็นความแปรปรวนของราคาที่ชัดเจนขึ้น การเข้าใจฟู้ดอินเฟลชันยังเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายการเงินและการคลังของประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับเงินเฟ้อ โดยการปรับนโยบายดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน และการใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การทราบข้อมูลเกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันจึงเป็นส่วนสำคัญในการทำให้การดำเนินนโยบายมีประสิทธิภาพ สุดท้ายนี้ ความรู้เกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันยังเป็นประโยชน์ต่อบุคคลทั่วไปโดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับความไม่แน่นอน การทราบถึงสาเหตุและผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารสามารถช่วยให้คุณสามารถรับมือและวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยเป็นหัวข้อที่ต้องการความสนใจและการวิเคราะห์อย่างละเอียด ด้วยความสำคัญที่มีผลกระทบต่อทั้งภาพรวมเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน การเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันจะช่วยให้คุณสามารถประเมินสถานการณ์และเตรียมตัวในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ดีขึ้น ทาง Eulerpool เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เป็นที่น้ำหนึงใจเดียวกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ