ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร โปรตุเกส การใช้จ่ายของรัฐบาล
ราคา
ในปัจจุบันค่าของการใช้จ่ายของรัฐบาลในโปรตุเกสคือ9.134 ล้านล้านEUR การใช้จ่ายของรัฐบาลในโปรตุเกสเพิ่มขึ้นเป็น9.134 ล้านล้านEURเมื่อ1/12/2566หลังจากที่มันคือ9.103 ล้านล้านEURเมื่อ1/9/2566 จาก1/3/2538ถึง1/3/2567 GDP เฉลี่ยในโปรตุเกสคือ8.18 ล้านล้านEUR มูลค่าสูงสุดที่เคยอยู่ในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นเมื่อ1/3/2567ที่มีมูลค่า9.13 ล้านล้านEUR ในขณะที่ค่าต่ำสุดเคยถูกบันทึกไว้เมื่อ1/3/2538ที่มีมูลค่า6.2 ล้านล้านEUR
การใช้จ่ายของรัฐบาล ·
แม็กซ์
รัฐบาลใช้จ่าย | |
---|---|
1/3/2538 | 6.2 ล้านล้าน EUR |
1/6/2538 | 6.27 ล้านล้าน EUR |
1/9/2538 | 6.34 ล้านล้าน EUR |
1/12/2538 | 6.4 ล้านล้าน EUR |
1/3/2539 | 6.45 ล้านล้าน EUR |
1/6/2539 | 6.48 ล้านล้าน EUR |
1/9/2539 | 6.5 ล้านล้าน EUR |
1/12/2539 | 6.51 ล้านล้าน EUR |
1/3/2540 | 6.52 ล้านล้าน EUR |
1/6/2540 | 6.57 ล้านล้าน EUR |
1/9/2540 | 6.66 ล้านล้าน EUR |
1/12/2540 | 6.78 ล้านล้าน EUR |
1/3/2541 | 6.92 ล้านล้าน EUR |
1/6/2541 | 7.05 ล้านล้าน EUR |
1/9/2541 | 7.14 ล้านล้าน EUR |
1/12/2541 | 7.2 ล้านล้าน EUR |
1/3/2542 | 7.25 ล้านล้าน EUR |
1/6/2542 | 7.29 ล้านล้าน EUR |
1/9/2542 | 7.34 ล้านล้าน EUR |
1/12/2542 | 7.42 ล้านล้าน EUR |
1/3/2543 | 7.51 ล้านล้าน EUR |
1/6/2543 | 7.6 ล้านล้าน EUR |
1/9/2543 | 7.69 ล้านล้าน EUR |
1/12/2543 | 7.77 ล้านล้าน EUR |
1/3/2544 | 7.83 ล้านล้าน EUR |
1/6/2544 | 7.89 ล้านล้าน EUR |
1/9/2544 | 7.95 ล้านล้าน EUR |
1/12/2544 | 8.01 ล้านล้าน EUR |
1/3/2545 | 8.06 ล้านล้าน EUR |
1/6/2545 | 8.11 ล้านล้าน EUR |
1/9/2545 | 8.16 ล้านล้าน EUR |
1/12/2545 | 8.19 ล้านล้าน EUR |
1/3/2546 | 8.23 ล้านล้าน EUR |
1/6/2546 | 8.25 ล้านล้าน EUR |
1/9/2546 | 8.29 ล้านล้าน EUR |
1/12/2546 | 8.34 ล้านล้าน EUR |
1/3/2547 | 8.4 ล้านล้าน EUR |
1/6/2547 | 8.47 ล้านล้าน EUR |
1/9/2547 | 8.55 ล้านล้าน EUR |
1/12/2547 | 8.63 ล้านล้าน EUR |
1/3/2548 | 8.71 ล้านล้าน EUR |
1/6/2548 | 8.75 ล้านล้าน EUR |
1/9/2548 | 8.77 ล้านล้าน EUR |
1/12/2548 | 8.76 ล้านล้าน EUR |
1/3/2549 | 8.73 ล้านล้าน EUR |
1/6/2549 | 8.71 ล้านล้าน EUR |
1/9/2549 | 8.71 ล้านล้าน EUR |
1/12/2549 | 8.72 ล้านล้าน EUR |
1/3/2550 | 8.75 ล้านล้าน EUR |
1/6/2550 | 8.77 ล้านล้าน EUR |
1/9/2550 | 8.78 ล้านล้าน EUR |
1/12/2550 | 8.78 ล้านล้าน EUR |
1/3/2551 | 8.78 ล้านล้าน EUR |
1/6/2551 | 8.79 ล้านล้าน EUR |
1/9/2551 | 8.84 ล้านล้าน EUR |
1/12/2551 | 8.91 ล้านล้าน EUR |
1/3/2552 | 8.99 ล้านล้าน EUR |
1/6/2552 | 9.06 ล้านล้าน EUR |
1/9/2552 | 9.09 ล้านล้าน EUR |
1/12/2552 | 9.08 ล้านล้าน EUR |
1/3/2553 | 9.03 ล้านล้าน EUR |
1/6/2553 | 9.01 ล้านล้าน EUR |
1/9/2553 | 8.88 ล้านล้าน EUR |
1/12/2553 | 8.78 ล้านล้าน EUR |
1/3/2554 | 8.69 ล้านล้าน EUR |
1/6/2554 | 8.7 ล้านล้าน EUR |
1/9/2554 | 8.55 ล้านล้าน EUR |
1/12/2554 | 8.45 ล้านล้าน EUR |
1/3/2555 | 8.37 ล้านล้าน EUR |
1/6/2555 | 8.35 ล้านล้าน EUR |
1/9/2555 | 8.25 ล้านล้าน EUR |
1/12/2555 | 8.19 ล้านล้าน EUR |
1/3/2556 | 8.15 ล้านล้าน EUR |
1/6/2556 | 8.11 ล้านล้าน EUR |
1/9/2556 | 8.05 ล้านล้าน EUR |
1/12/2556 | 8.16 ล้านล้าน EUR |
1/3/2557 | 8.1 ล้านล้าน EUR |
1/6/2557 | 8.07 ล้านล้าน EUR |
1/9/2557 | 8.04 ล้านล้าน EUR |
1/12/2557 | 8.05 ล้านล้าน EUR |
1/3/2558 | 8.08 ล้านล้าน EUR |
1/6/2558 | 8.16 ล้านล้าน EUR |
1/9/2558 | 8.14 ล้านล้าน EUR |
1/12/2558 | 8.16 ล้านล้าน EUR |
1/3/2559 | 8.2 ล้านล้าน EUR |
1/6/2559 | 8.23 ล้านล้าน EUR |
1/9/2559 | 8.17 ล้านล้าน EUR |
1/12/2559 | 8.19 ล้านล้าน EUR |
1/3/2560 | 8.2 ล้านล้าน EUR |
1/6/2560 | 8.21 ล้านล้าน EUR |
1/9/2560 | 8.22 ล้านล้าน EUR |
1/12/2560 | 8.24 ล้านล้าน EUR |
1/3/2561 | 8.24 ล้านล้าน EUR |
1/6/2561 | 8.26 ล้านล้าน EUR |
1/9/2561 | 8.26 ล้านล้าน EUR |
1/12/2561 | 8.3 ล้านล้าน EUR |
1/3/2562 | 8.36 ล้านล้าน EUR |
1/6/2562 | 8.42 ล้านล้าน EUR |
1/9/2562 | 8.47 ล้านล้าน EUR |
1/12/2562 | 8.53 ล้านล้าน EUR |
1/3/2563 | 8.4 ล้านล้าน EUR |
1/6/2563 | 8.13 ล้านล้าน EUR |
1/9/2563 | 8.64 ล้านล้าน EUR |
1/12/2563 | 8.71 ล้านล้าน EUR |
1/3/2564 | 8.62 ล้านล้าน EUR |
1/6/2564 | 8.89 ล้านล้าน EUR |
1/9/2564 | 9 ล้านล้าน EUR |
1/12/2564 | 8.9 ล้านล้าน EUR |
1/3/2565 | 9 ล้านล้าน EUR |
1/6/2565 | 8.94 ล้านล้าน EUR |
1/9/2565 | 8.95 ล้านล้าน EUR |
1/12/2565 | 9.02 ล้านล้าน EUR |
1/3/2566 | 9 ล้านล้าน EUR |
1/6/2566 | 9.04 ล้านล้าน EUR |
1/9/2566 | 9.1 ล้านล้าน EUR |
1/12/2566 | 9.13 ล้านล้าน EUR |
การใช้จ่ายของรัฐบาล ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2566 | 9.134 ล้านล้าน EUR |
1/9/2566 | 9.103 ล้านล้าน EUR |
1/6/2566 | 9.037 ล้านล้าน EUR |
1/3/2566 | 9.005 ล้านล้าน EUR |
1/12/2565 | 9.022 ล้านล้าน EUR |
1/9/2565 | 8.951 ล้านล้าน EUR |
1/6/2565 | 8.941 ล้านล้าน EUR |
1/3/2565 | 8.996 ล้านล้าน EUR |
1/12/2564 | 8.904 ล้านล้าน EUR |
1/9/2564 | 9.003 ล้านล้าน EUR |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การใช้จ่ายของรัฐบาล
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇵🇹 การใช้จ่ายทางทหาร | 4.223 ล้านล้าน USD | 3.567 ล้านล้าน USD | ประจำปี |
🇵🇹 ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลต่อ GDP | 42.3 % of GDP | 44.1 % of GDP | ประจำปี |
🇵🇹 คำขอลี้ภัย | 155 persons | 155 persons | รายเดือน |
🇵🇹 งบประมาณของรัฐ | 1.2 % of GDP | -0.3 % of GDP | ประจำปี |
🇵🇹 ดัชนีการทุจริต | 61 Points | 62 Points | ประจำปี |
🇵🇹 มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล | -6.796 ล้านล้าน EUR | -5.737 ล้านล้าน EUR | รายเดือน |
🇵🇹 รัฐบาลใช้จ่าย | 22.985 ล้านล้าน EUR | 16.299 ล้านล้าน EUR | รายเดือน |
🇵🇹 รายได้ของรัฐ | 17.248 ล้านล้าน EUR | 13.328 ล้านล้าน EUR | รายเดือน |
🇵🇹 หนี้สาธารณะ | 263.085 ล้านล้าน EUR | 279.951 ล้านล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
🇵🇹 หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ | 99.1 % of GDP | 112.4 % of GDP | ประจำปี |
🇵🇹 อันดับคอร์รัปชั่น | 34 | 33 | ประจำปี |
การใช้จ่ายของรัฐบาลหมายถึงการใช้จ่ายของภาครัฐสำหรับสินค้าและบริการ และเป็นส่วนสำคัญของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) นโยบายการใช้จ่ายของรัฐบาลเช่นการกำหนดเป้าหมายงบประมาณ การปรับปรุงการเก็บภาษี การเพิ่มการใช้จ่ายสาธารณะและงานสาธารณะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร การใช้จ่ายของรัฐบาล
การใช้จ่ายของรัฐบาล: ภาพรวมทางเศรษฐศาสตร์มหภาค เว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลเชิงลึกทางเศรษฐศาสตร์มหภาคที่เตรียมความรู้และข้อมูลการวิเคราะห์ที่แม่นยำสำหรับผู้เยี่ยมชมทุกระดับ ในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจที่ซับซ้อน สิ่งที่สำคัญมากคือการมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้จ่ายของรัฐบาล ที่ผ่านมา การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นหนึ่งในกลไกที่สำคัญที่สุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจและควบคุมสภาวะเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพ การใช้จ่ายของรัฐบาล หมายถึง เงินที่รัฐบาลทำการใช้ในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างสาธารณูปโภค การสนับสนุนสาธารณสุข การศึกษา การวิจัยและพัฒนา รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลังหรือการใช้เงินทุนสำรอง หนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการใช้จ่ายของรัฐบาลคือรายได้ของรัฐบาล ซึ่งหลักๆ มาจากการเก็บภาษี การขายสินทรัพย์รัฐบาล และการกู้ยืมเงิน เมื่อรัฐบาลมีรายได้มาก รัฐบาลสามารถใช้จ่ายมากขึ้น เช่นกัน เมื่อมีสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ การกู้ยืมเงินก็เป็นวิธีหนึ่งที่รัฐบาลใช้เพื่อกระตุ้นการลงทุนและการใช้จ่ายในภาคส่วนต่างๆ ในภาพรวมทางเศรษฐศาสตร์มหภาค การใช้จ่ายของรัฐบาลมีผลกระทบที่กว้างขวางและซับซ้อนในหลายด้าน ด้านหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงในประสิทธิภาพการผลิต (productivity) ของประเทศ การใช้จ่ายในโครงการโครงสร้างพื้นฐานเช่น ถนน ทางด่วน สะพาน หรือสนามบิน สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าและลดต้นทุน ทำให้เกิดการเจริญเติบโตในระยะยาว นอกจากนี้ การใช้จ่ายในด้านการศึกษาและการฝึกอบรมยังเป็นการลงทุนที่ยั่งยืนในทุนมนุษย์ ทำให้ประชากรมีความสามารถมากขึ้น ซึ่งมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานและการผลิตของภาคแรงงานในอนาคต การเพิ่มการลงทุนในด้านสาธารณสุขก็จะเป็นการลดต้นทุนทางสังคมและเศรษฐกิจในระยะยาว เนื่องจากผลสุขภาพของประชากรดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายที่มากเกินไปยังทำให้เกิดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้เช่นเดียวกัน หากรัฐบาลใช้จ่ายเกินกว่าปริมาณที่ควรจะเป็น อาจทำให้เกิดการขาดดุลงบประมาณ (budget deficits) ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและระดับหนี้สาธารณะ อีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลคือ การใช้จ่ายของรัฐบาลยังส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ เมื่อรัฐบาลใช้จ่ายมากขึ้น ความต้องการสินค้าหรือบริการต่างๆ จะเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาอาจปรับตัวสูงขึ้น มีผลทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นได้ การควบคุมและจัดการการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจกับการควบคุมเงินเฟ้อ นโยบายการคลัง (fiscal policy) เป็นเครื่องมือหนึ่งที่รัฐบาลใช้ในการควบคุมการใช้จ่าย การบริหารนโยบายการคลังที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนได้ รัฐบาลสามารถเพิ่มหรือลดภาษี ปรับเปลี่ยนระดับของการใช้จ่ายในการลงทุนในโครงการต่างๆ เพื่อปรับปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจตามความจำเป็นในสถานการณ์ที่ต่างกัน องค์กรทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) หรือ ธนาคารโลก (World Bank) มักมีคำแนะนำในด้านการใช้จ่ายของรัฐบาลและนโยบายการคลัง เพื่อให้ประเทศต่างๆ มีการบริหารการเงินที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในยุคปัจจุบัน การใช้จ่ายของรัฐบาลไม่ได้มาแค่ในรูปแบบของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานหรือการให้บริการสาธารณะเพียงอย่างเดียว การวิจัยและพัฒนาในด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ และการสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อการนวัตกรรมยังเป็นสิ่งที่รัฐบาลมองเห็นความสำคัญเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต นอกจากนี้ ความตื่นตัวต่อสิ่งแวดล้อมยังเป็นเรื่องที่รัฐบาลหลายประเทศให้ความสำคัญ การลงทุนในโครงการพลังงานสะอาดหรือการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว (green economy) เป็นแนวทางหนึ่งที่รัฐบาลหลายประเทศสนใจทำ แม้ว่าการใช้จ่ายของรัฐบาลจะมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การมีการใช้จ่ายอย่างเป็นระบบและมียุทธศาสตร์เป็นสิ่งที่จำเป็น ถ้ารัฐบาลใช้จ่ายเงินไม่ดีพอ การเงินของประเทศอาจเสี่ยงต่อการเกิดวิกฤติ การศึกษาและความเข้าใจในเชิงลึกเกี่ยวกับปัจจัยและผลกระทบของการใช้จ่ายของรัฐบาลจะทำให้สามารถวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในสรุป การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารเศรษฐกิจมหภาค มีผลกระทบทั้งในด้านการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพการผลิต ระดับชีวิตของประชาชน ตลอดจนความคุมค่าของเงินเฟ้อ การมีข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเป็นสิ่งจำเป็นในการวิเคราะห์และวางแผน ซึ่งทางเว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้คุณมีความรู้และเครื่องมือในการประเมินและติดตามการใช้จ่ายของรัฐบาลอย่างมืออาชีพ