ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇪🇪

เอสโตเนีย การใช้จ่ายของรัฐบาล

ราคา

1.313 ล้านล้าน EUR
การเปลี่ยนแปลง +/-
+204.8 ล้าน EUR
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+16.92 %

ในปัจจุบันค่าของการใช้จ่ายของรัฐบาลในเอสโตเนียคือ1.313 ล้านล้านEUR การใช้จ่ายของรัฐบาลในเอสโตเนียเพิ่มขึ้นเป็น1.313 ล้านล้านEURเมื่อ1/12/2566หลังจากที่มันคือ1.108 ล้านล้านEURเมื่อ1/9/2566 จาก1/3/2538ถึง1/3/2567 GDP เฉลี่ยในเอสโตเนียคือ900.41 ล้านEUR มูลค่าสูงสุดที่เคยอยู่ในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นเมื่อ1/12/2564ที่มีมูลค่า1.37 ล้านล้านEUR ในขณะที่ค่าต่ำสุดเคยถูกบันทึกไว้เมื่อ1/9/2540ที่มีมูลค่า580.1 ล้านEUR

แหล่งที่มา: Statistics Estonia

การใช้จ่ายของรัฐบาล

  • แม็กซ์

รัฐบาลใช้จ่าย

การใช้จ่ายของรัฐบาล ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/12/25661.313 ล้านล้าน EUR
1/9/25661.108 ล้านล้าน EUR
1/6/25661.147 ล้านล้าน EUR
1/3/25661.097 ล้านล้าน EUR
1/12/25651.373 ล้านล้าน EUR
1/9/25651.12 ล้านล้าน EUR
1/6/25651.127 ล้านล้าน EUR
1/3/25651.091 ล้านล้าน EUR
1/12/25641.373 ล้านล้าน EUR
1/9/25641.114 ล้านล้าน EUR
1
2
3
4
5
...
12

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การใช้จ่ายของรัฐบาล

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇪🇪
การใช้จ่ายทางทหาร
1.19 ล้านล้าน USD818.3 ล้าน USDประจำปี
🇪🇪
ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลต่อ GDP
43.7 % of GDP39.8 % of GDPประจำปี
🇪🇪
คำขอลี้ภัย
90 persons125 personsรายเดือน
🇪🇪
งบประมาณของรัฐ
-3.4 % of GDP-1 % of GDPประจำปี
🇪🇪
ดัชนีการทุจริต
76 Points74 Pointsประจำปี
🇪🇪
มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล
-701.1 ล้าน EUR-205 ล้าน EURควอร์เตอร์
🇪🇪
รัฐบาลใช้จ่าย
3.936 ล้านล้าน EUR4.863 ล้านล้าน EURควอร์เตอร์
🇪🇪
รายได้ของรัฐ
3.559 ล้านล้าน EUR4.198 ล้านล้าน EURควอร์เตอร์
🇪🇪
หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ
19.6 % of GDP18.5 % of GDPประจำปี
🇪🇪
อันดับคอร์รัปชั่น
12 14 ประจำปี

การใช้จ่ายของรัฐบาลหมายถึงรายจ่ายสาธารณะในการจัดซื้อสินค้าหรือบริการและเป็นองค์ประกอบสำคัญของ GDP นโยบายการใช้จ่ายของรัฐบาล เช่น การกำหนดเป้าหมายงบประมาณ การปรับภาษี การเพิ่มรายจ่ายสาธารณะและการดำเนินงานสาธารณะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร การใช้จ่ายของรัฐบาล

การใช้จ่ายของรัฐบาล: ภาพรวมทางเศรษฐศาสตร์มหภาค เว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลเชิงลึกทางเศรษฐศาสตร์มหภาคที่เตรียมความรู้และข้อมูลการวิเคราะห์ที่แม่นยำสำหรับผู้เยี่ยมชมทุกระดับ ในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจที่ซับซ้อน สิ่งที่สำคัญมากคือการมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้จ่ายของรัฐบาล ที่ผ่านมา การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นหนึ่งในกลไกที่สำคัญที่สุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจและควบคุมสภาวะเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพ การใช้จ่ายของรัฐบาล หมายถึง เงินที่รัฐบาลทำการใช้ในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างสาธารณูปโภค การสนับสนุนสาธารณสุข การศึกษา การวิจัยและพัฒนา รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลังหรือการใช้เงินทุนสำรอง หนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการใช้จ่ายของรัฐบาลคือรายได้ของรัฐบาล ซึ่งหลักๆ มาจากการเก็บภาษี การขายสินทรัพย์รัฐบาล และการกู้ยืมเงิน เมื่อรัฐบาลมีรายได้มาก รัฐบาลสามารถใช้จ่ายมากขึ้น เช่นกัน เมื่อมีสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ การกู้ยืมเงินก็เป็นวิธีหนึ่งที่รัฐบาลใช้เพื่อกระตุ้นการลงทุนและการใช้จ่ายในภาคส่วนต่างๆ ในภาพรวมทางเศรษฐศาสตร์มหภาค การใช้จ่ายของรัฐบาลมีผลกระทบที่กว้างขวางและซับซ้อนในหลายด้าน ด้านหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงในประสิทธิภาพการผลิต (productivity) ของประเทศ การใช้จ่ายในโครงการโครงสร้างพื้นฐานเช่น ถนน ทางด่วน สะพาน หรือสนามบิน สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าและลดต้นทุน ทำให้เกิดการเจริญเติบโตในระยะยาว นอกจากนี้ การใช้จ่ายในด้านการศึกษาและการฝึกอบรมยังเป็นการลงทุนที่ยั่งยืนในทุนมนุษย์ ทำให้ประชากรมีความสามารถมากขึ้น ซึ่งมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานและการผลิตของภาคแรงงานในอนาคต การเพิ่มการลงทุนในด้านสาธารณสุขก็จะเป็นการลดต้นทุนทางสังคมและเศรษฐกิจในระยะยาว เนื่องจากผลสุขภาพของประชากรดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายที่มากเกินไปยังทำให้เกิดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้เช่นเดียวกัน หากรัฐบาลใช้จ่ายเกินกว่าปริมาณที่ควรจะเป็น อาจทำให้เกิดการขาดดุลงบประมาณ (budget deficits) ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและระดับหนี้สาธารณะ อีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลคือ การใช้จ่ายของรัฐบาลยังส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ เมื่อรัฐบาลใช้จ่ายมากขึ้น ความต้องการสินค้าหรือบริการต่างๆ จะเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาอาจปรับตัวสูงขึ้น มีผลทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นได้ การควบคุมและจัดการการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจกับการควบคุมเงินเฟ้อ นโยบายการคลัง (fiscal policy) เป็นเครื่องมือหนึ่งที่รัฐบาลใช้ในการควบคุมการใช้จ่าย การบริหารนโยบายการคลังที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนได้ รัฐบาลสามารถเพิ่มหรือลดภาษี ปรับเปลี่ยนระดับของการใช้จ่ายในการลงทุนในโครงการต่างๆ เพื่อปรับปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจตามความจำเป็นในสถานการณ์ที่ต่างกัน องค์กรทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) หรือ ธนาคารโลก (World Bank) มักมีคำแนะนำในด้านการใช้จ่ายของรัฐบาลและนโยบายการคลัง เพื่อให้ประเทศต่างๆ มีการบริหารการเงินที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในยุคปัจจุบัน การใช้จ่ายของรัฐบาลไม่ได้มาแค่ในรูปแบบของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานหรือการให้บริการสาธารณะเพียงอย่างเดียว การวิจัยและพัฒนาในด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ และการสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อการนวัตกรรมยังเป็นสิ่งที่รัฐบาลมองเห็นความสำคัญเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต นอกจากนี้ ความตื่นตัวต่อสิ่งแวดล้อมยังเป็นเรื่องที่รัฐบาลหลายประเทศให้ความสำคัญ การลงทุนในโครงการพลังงานสะอาดหรือการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว (green economy) เป็นแนวทางหนึ่งที่รัฐบาลหลายประเทศสนใจทำ แม้ว่าการใช้จ่ายของรัฐบาลจะมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การมีการใช้จ่ายอย่างเป็นระบบและมียุทธศาสตร์เป็นสิ่งที่จำเป็น ถ้ารัฐบาลใช้จ่ายเงินไม่ดีพอ การเงินของประเทศอาจเสี่ยงต่อการเกิดวิกฤติ การศึกษาและความเข้าใจในเชิงลึกเกี่ยวกับปัจจัยและผลกระทบของการใช้จ่ายของรัฐบาลจะทำให้สามารถวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในสรุป การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารเศรษฐกิจมหภาค มีผลกระทบทั้งในด้านการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพการผลิต ระดับชีวิตของประชาชน ตลอดจนความคุมค่าของเงินเฟ้อ การมีข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเป็นสิ่งจำเป็นในการวิเคราะห์และวางแผน ซึ่งทางเว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้คุณมีความรู้และเครื่องมือในการประเมินและติดตามการใช้จ่ายของรัฐบาลอย่างมืออาชีพ