Terminal Access

ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

Bloomberg Fair Value
20M Securities
50Y History
10Y Estimates
8.000+ News Daily
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇮🇩

อินโดนีเซีย ดุลการค้า

ราคา

3.117 ล้านล้าน USD
การเปลี่ยนแปลง +/-
-375.5 ล้าน USD
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-11.36 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน อินโดนีเซีย คือ 3.117 ล้านล้าน USD ดุลการค้าใน อินโดนีเซีย ลดลงไปที่ 3.117 ล้านล้าน USD ในวันที่ 1/2/2568 หลังจากที่เป็น 3.492 ล้านล้าน USD ในวันที่ 1/1/2568 ตั้งแต่ 1/1/2503 ถึง 1/2/2568 ค่าเฉลี่ย GDP ใน อินโดนีเซีย คือ 910.11 ล้าน USD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/4/2565 ด้วยค่า 7.56 ล้านล้าน USD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/4/2562 ด้วยค่า -2.33 ล้านล้าน USD

แหล่งที่มา: Statistics Indonesia

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/2/25683.117 ล้านล้าน USD
1/1/25683.492 ล้านล้าน USD
1/12/25672.24 ล้านล้าน USD
1/11/25674.367 ล้านล้าน USD
1/10/25672.483 ล้านล้าน USD
1/9/25673.231 ล้านล้าน USD
1/8/25672.775 ล้านล้าน USD
1/7/25675.009 ล้านล้าน USD
1/6/25672.395 ล้านล้าน USD
1/5/25672.925 ล้านล้าน USD
1
2
3
4
5
...
68

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇮🇩
กระแสเงินทุน
606 ล้าน USD6.581 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇮🇩
การขายอาวุธ
17 ล้าน SIPRI TIV9 ล้าน SIPRI TIVประจำปี
🇮🇩
การผลิตน้ำมันดิบ
598 BBL/D/1K593 BBL/D/1Kรายเดือน
🇮🇩
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
245.8 IDR Trillion232.7 IDR Trillionควอร์เตอร์
🇮🇩
การส่งออกเทียบปีต่อปี
14.05 %4.56 %รายเดือน
🇮🇩
การโอนเงิน
4.075 ล้านล้าน USD3.982 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇮🇩
เงื่อนไขการซื้อขาย
113.2 points112.05 pointsรายเดือน
🇮🇩
ดัชนีการก่อการร้าย
4.17 Points3.993 Pointsประจำปี
🇮🇩
ต่างประเทศตรง YoY
33.3 %18.6 %ควอร์เตอร์
🇮🇩
ทองคำสำรอง
78.57 Tonnes78.57 Tonnesควอร์เตอร์
🇮🇩
นำเข้า
18.864 ล้านล้าน USD18 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇮🇩
นำเข้า YoY
2.3 %-2.73 %รายเดือน
🇮🇩
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
-1.145 ล้านล้าน USD-2.008 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇮🇩
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
1.244 ล้าน 1.092 ล้าน รายเดือน
🇮🇩
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
-0.3 % of GDP1 % of GDPประจำปี
🇮🇩
รายได้จากการท่องเที่ยว
4.074 ล้านล้าน USD5.164 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇮🇩
ส่งออก
21.981 ล้านล้าน USD21.428 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇮🇩
หนี้สินต่างประเทศ
424.849 ล้านล้าน USD428.136 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์

ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1970 ประเทศอินโดนีเซียได้บันทึกการค้าเกินดุลอย่างต่อเนื่องเนื่องจากการเติบโตที่แข็งแกร่งของการส่งออก อย่างไรก็ตามระหว่างปี 2012 ถึง 2014 ประเทศเริ่มบันทึกการค้าเป็นขาดดุล เนื่องจากการส่งออกลดลงอันเป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง ในปี 2015 การค้ากลับมาเป็นเกินดุลอีกครั้งเนื่องจากการนำเข้าลดลงเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การขาดดุลการค้าที่ใหญ่ที่สุดถูกบันทึกกับประเทศจีน ประเทศไทย ญี่ปุ่น เยอรมนี และเกาหลีใต้ อินโดนีเซียบันทึกการค้าเกินดุลส่วนใหญ่กับประเทศอินเดีย สหรัฐอเมริกา และมาเลเซีย

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว