ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇮🇳

อินเดีย อัตราดอกเบี้ยรีเวิร์สรีโป

ราคา

3.35 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
+0 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+0 %

มูลค่าปัจจุบันของอัตราดอกเบี้ยรีเวิร์สรีโปในอินเดียอยู่ที่3.35% อัตราดอกเบี้ยรีเวิร์สรีโปในอินเดียลดลงมาอยู่ที่3.35%เมื่อวันที่1/5/2567 หลังจากที่เคยอยู่ที่3.35%เมื่อวันที่1/4/2567 ตั้งแต่1/7/2543ถึง1/6/2567ค่าเฉลี่ย GDP ในอินเดียอยู่ที่5.41% จุดสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่13.5%เมื่อวันที่1/8/2543 ขณะที่มูลค่าต่ำสุดอยู่ที่3.25%เมื่อวันที่1/4/2552

แหล่งที่มา: Reserve Bank of India

อัตราดอกเบี้ยรีเวิร์สรีโป

  • แม็กซ์

อัตราย้อนกลับรีโพ

อัตราดอกเบี้ยรีเวิร์สรีโป ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/5/25673.35 %
1/4/25673.35 %
1/3/25673.35 %
1/2/25673.35 %
1/1/25673.35 %
1/12/25663.35 %
1/11/25663.35 %
1/10/25663.35 %
1/9/25663.35 %
1/8/25663.35 %
1
2
3
4
5
...
29

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราดอกเบี้ยรีเวิร์สรีโป

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇮🇳
การเติบโตของเครดิต
12.8 %13 %frequency_biweekly
🇮🇳
งบดุลของธนาคารกลาง
38.609 ชีวภาพ. INR36.201 ชีวภาพ. INRรายเดือน
🇮🇳
เงินสำรองต่างประเทศ
704.89 ล้านล้าน USD692.3 ล้านล้าน USDfrequency_weekly
🇮🇳
ปริมาณเงิน M0
46.682 ชีวภาพ. INR46.675 ชีวภาพ. INRรายเดือน
🇮🇳
ปริมาณเงิน M1
60.85 ชีวภาพ. INR61.047 ชีวภาพ. INRรายเดือน
🇮🇳
ปริมาณเงิน M2
63.11 ชีวภาพ. INR63.307 ชีวภาพ. INRรายเดือน
🇮🇳
ปริมาณเงิน M3
256.14 ชีวภาพ. INR257.011 ชีวภาพ. INRfrequency_biweekly
🇮🇳
ส่วนแบ่งของเงินสดในการสำรอง
4.5 %4.5 %frequency_daily
🇮🇳
อัตราดอกเบี้ย
6.5 %6.5 %frequency_daily
🇮🇳
อัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคาร
7.28 %7.28 %frequency_daily

อัตราดอกเบี้ย Reverse Repo Rate ในประเทศอินเดีย เป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ ซึ่งในปัจจุบันต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ย Repo Rate 50 จุดพื้นฐาน ซึ่งใช้สำหรับการที่ธนาคารกลางดูดซับสภาพคล่องในตลาดเป็นการชั่วคราวจากธนาคารพาณิชย์ โดยใช้หลักทรัพย์ของรัฐบาลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ภายใต้ระบบการปรับสภาพคล่อง (liquidity adjustment facility)

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร อัตราดอกเบี้ยรีเวิร์สรีโป

"Reverse Repo Rate คือหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธนาคารกลาง (เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย) สามารถบริหารจัดการสภาพคล่องในระบบการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้การจัดการนี้ ธนาคารพาณิชย์จะสามารถฝากเงินในระยะสั้นกับธนาคารกลาง โดยธนาคารกลางจะคืนดอกเบี้ยในอัตราที่เรียกว่า 'Reverse Repo Rate' พื้นฐานการทำงานของ Reverse Repo Rate คือกระบวนการที่ธนาคารกลางทำสัญญาในการรับซื้อทรัพย์สินทางการเงินจากธนาคารพาณิชย์ในราคาหนึ่ง แล้วต่อมาในวันกำหนดชำระคืน ธนาคารพาณิชย์จะต้องซื้อทรัพย์สินทางการเงินนั้นกลับไปพร้อมจ่ายดอกเบี้ย ปฏิบัตินี้มีเป้าหมายเพื่อควบคุมสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ ป้องกันไม่ให้มีเงินเข้าสู่ระบบมากเกินไปซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อได้ Reverse Repo Rate ถูกใช้ในหลากหลายสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ เมื่อระบบการเงินมีสภาพคล่องมากเกินไป ธนาคารกลางอาจต้องการดูดซับสภาพคล่องนี้ออกจากระบบ เพื่อลดอัตราเงินเฟ้อและรักษาเสถียรภาพทางการเงิน อีกทั้ง การปรับ Reverse Repo Rate ขึ้นหรือลงสามารถแสดงถึงนโยบายการเงินที่ธนาคารกลางต้องการใช้ ตัวอย่างเช่น หากธนาคารกลางต้องการให้ระบบการเงินมีสภาพคล่องที่ลดลง อาจปรับ Reverse Repo Rate ขึ้น ให้ธนาคารพาณิชย์มีแรงจูงใจที่จะนำเงินฝากกับธนาคารกลางมากขึ้น อีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องพิจารณาคือบทบาทของ Reverse Repo Rate ต่ออัตราดอกเบี้ยอื่น ๆ ในตลาดการเงิน เมื่อธนาคารกลางปรับ Reverse Repo Rate ขึ้น จะมีแรงกดดันให้อัตราดอกเบี้ยในตลาดโดยรวมปรับตัวขึ้นตาม เนื่องจากธนาคารพาณิชย์จะต้องหาแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนต่ำกว่าเป็นทางเลือก จึงอาจส่งผลให้การกู้ยืมจากภาคธุรกิจและประชาชนในระดับต่ำลง ตามด้วยการปรับลดการลงทุนและการใช้จ่าย การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้นโยบายทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับ Reverse Repo Rate กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตามอง ไม่เพียงเท่านั้น การใช้ Reverse Repo Rate ยังเป็นกลไกที่สำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือในตลาดการเงิน ทำให้ผู้ลงทุนหรือผู้กำกับดูแลทราบถึงความตั้งใจของธนาคารกลางในการจัดการเสถียรภาพทางการเงิน การทำงานที่ชัดเจนและสม่ำเสมอของ Reverse Repo Rate จะนำไปสู่การสร้างความไว้วางใจในระบบเศรษฐกิจ และช่วยให้การลงทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้กระบวนการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลการเงิน การใช้ Reverse Repo Rate เป็นตัวชี้วัดหนึ่งที่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับการเปลี่ยนแปลงในตัวชี้วัดเศรษฐกิจอื่น ๆ เช่น GDP ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ข้อมูลเหล่านี้เมื่อใช้งานร่วมกัน สามารถช่วยให้การวิเคราะห์เศรษฐกิจมีความแม่นยำยิ่งขึ้น เนื่องจากเราสามารถเห็นภาพรวมของสภาพเศรษฐกิจภายใต้บริบทที่ครบถ้วนและเชื่อมโยงกัน หนึ่งในความท้าทายที่มากับการใช้ Reverse Repo Rate คือการปรับตัวให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งธนาคารกลางต้องทำการประเมินสภาพคล่องในระบบและตรวจสอบการเคลื่อนไหวของตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะตัดสินใจปรับ Reverse Repo Rate เพื่อให้การตัดสินใจนั้นมีผลกระทบเชิงบวกต่อเป้าหมายทางเศรษฐกิจ เพื่อที่จะทำให้การบริหารจัดการสภาพคล่องมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความโปร่งใสในการสื่อสารระหว่างธนาคารกลางและภาคการเงินเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม การสื่อสารเกี่ยวกับความตั้งใจในการใช้นโยบาย Reverse Repo Rate ต้องทำอย่างชัดเจนและโปร่งใส เพื่อให้ภาคธุรกิจและประชาชนทราบทิศทางทางการเงินและสามารถปรับตัวให้เหมาะสม ในสรุป การมีความรู้และความเข้าใจในถ้อยคำและแนวคิดเกี่ยวกับ Reverse Repo Rate เป็นปัจจัยหลักที่ผู้ที่สนใจในเรื่องเศรษฐกิจการเงินควรให้ความสำคัญ เพราะมันเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีผลกระทบอย่างมากต่อเสถียรภาพทางการเงินและเศรษฐกิจของชาติ การทำความเข้าใจในบทบาทและผลกระทบของ Reverse Repo Rate จะช่วยให้การวิเคราะห์และการคาดการณ์เศรษฐกิจเป็นไปอย่างมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนักวิเคราะห์เศรษฐกิจ นักลงทุน หรือผู้สนใจทั่วไป ข้อมูลและการวิเคราะห์เกี่ยวกับ Reverse Repo Rate จะเป็นประโยชน์ในหลากหลายด้าน ทั้งในการตัดสินใจทางธุรกิจ การวางแผนทางการเงินส่วนบุคคล หรือแม้กระทั่งการทำความเข้าใจนโยบายทางการเงินของประเทศ ความรู้เหล่านี้ถือเป็นทรัพยากรที่มีค่ายิ่งในการที่จะทำให้เราสามารถพร้อมรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น เว็บไซต์ Eulerpool จึงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลและการวิเคราะห์เกี่ยวกับ Reverse Repo Rate และแนวโน้มต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจในแบบที่เข้าถึงง่ายและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นในด้านข้อมูลเชิงตัวเลข การวิเคราะห์สภาพเศรษฐกิจ หรือการเปรียบเทียบแนวโน้มทางการเงินในระดับท้องถิ่นและระดับโลก"