ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇨🇭

สวิตเซอร์แลนด์ อัตราเงินเฟ้อรายเดือน (MoM)

ราคา

0.3 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
-0.3 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-66.67 %

ค่าอัตราเงินเฟ้อรายเดือนปัจจุบันในสวิตเซอร์แลนด์อยู่ที่0.3% อัตราเงินเฟ้อรายเดือนในสวิตเซอร์แลนด์ลดลงเหลือ0.3%เมื่อ1/2/2567 หลังจากที่เคยอยู่ที่0.6%เมื่อ1/2/2567 จาก1/2/2493ถึง1/5/2567 GDP เฉลี่ยในสวิตเซอร์แลนด์อยู่ที่0.18% ค่าสูงสุดตลอดกาลถูกบันทึกเมื่อ1/11/2516ที่2.1% ขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกที่1/7/2547อยู่ที่-1%

แหล่งที่มา: Swiss Federal Statistical Office

อัตราเงินเฟ้อรายเดือน (MoM)

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ MoM

อัตราเงินเฟ้อรายเดือน (MoM) ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/25670.3 %
1/2/25670.6 %
1/1/25670.2 %
1/10/25660.1 %
1/8/25660.2 %
1/6/25660.1 %
1/5/25660.3 %
1/3/25660.2 %
1/2/25660.7 %
1/1/25660.6 %
1
2
3
4
5
...
58

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อรายเดือน (MoM)

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇨🇭
CPI Transport
110.7 points112.3 pointsรายเดือน
🇨🇭
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
-1.9 %-1.8 %รายเดือน
🇨🇭
ความคาดหวังเงินเฟ้อ
1.65 %1.84 %ควอร์เตอร์
🇨🇭
เงินเฟ้อด้านอาหาร
0.2 %-0.1 %รายเดือน
🇨🇭
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
107.7 points107.4 pointsรายเดือน
🇨🇭
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับเทียบแล้ว
107.5 points107.86 pointsรายเดือน
🇨🇭
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
113.6 points113.7 pointsรายเดือน
🇨🇭
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน
105 points105.21 pointsรายเดือน
🇨🇭
ต้นทุนการผลิต
107.2 points107.5 pointsรายเดือน
🇨🇭
ตัวคูณ GDP
105.6 points105.5 pointsควอร์เตอร์
🇨🇭
ราคานำเข้า
107.5 points107.95 pointsรายเดือน
🇨🇭
ราคาส่งออก
99.9 points101.4 pointsรายเดือน
🇨🇭
อัตราเงินเฟ้อ
1.4 %1.4 %รายเดือน
🇨🇭
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากัน YoY
1.5 %1.4 %รายเดือน
🇨🇭
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากันรายเดือน
-0.1 %0.3 %รายเดือน
🇨🇭
อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน
-0.3 %0.6 %รายเดือน
🇨🇭
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
1 %1.1 %รายเดือน

ในสวิตเซอร์แลนด์ หมวดหมู่ที่สำคัญที่สุดในดัชนีราคาผู้บริโภคได้แก่: ที่อยู่อาศัยและพลังงาน (27 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักรวม) และการดูแลสุขภาพ (18 เปอร์เซ็นต์). การขนส่งคิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์; อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 12 เปอร์เซ็นต์; ร้านอาหารและโรงแรม 7 เปอร์เซ็นต์; และการสันทนาการและวัฒนธรรม 7 เปอร์เซ็นต์. ดัชนียังรวมถึง: สินค้าและบริการเบ็ดเตล็ด (6 เปอร์เซ็นต์); สินค้าและบริการครัวเรือน (4 เปอร์เซ็นต์); และเสื้อผ้าและรองเท้า (3 เปอร์เซ็นต์). การสื่อสาร, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ และการศึกษา คิดเป็นส่วนที่เหลืออีก 6 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักรวม.

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อรายเดือน (MoM)

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate MoM) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญในทางเศรษฐศาสตร์มหภาคที่ถูกใช้เพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาในระยะเวลาเดือนต่อเดือน อัตราเงินเฟ้อ MoM เป็นมาตรวัดที่สามารถให้ข้อมูลที่มีค่ามากแก่นักเศรษฐศาสตร์ นักวิเคราะห์การลงทุน และนักกฎหมายการเงิน มันจะบ่งชี้ถึงแนวโน้มทางด้านราคาและสถานะของเศรษฐกิจในระยะสั้น ซึ่งสามารถให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสภาพทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน อัตราเงินเฟ้อ MoM คือการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคารวมของสินค้าและบริการในช่วงเวลาเดือนต่อเดือน โดยปกติแล้วจะคำนวณจากดัชนีราคาผู้บริโภคหรือ CPI (Consumer Price Index) การวัดค่าเงินเฟ้อ MoM จะช่วยให้ทราบถึงเส้นแนวโน้มในระยะสั้น ที่สามารถสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในด้านอุปสงค์และอุปทาน รวมถึงปัจจัยภายนอก เช่น การเปลี่ยนแปลงของราคาเชื้อเพลิง วัตถุดิบ และสินค้านำเข้า การวิเคราะห์อัตราเงินเฟ้อ MoM นั้นเป็นสิ่งที่ท้าทายมาก เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อระดับราคา การประเมินค่าเงินเฟ้อ MoM มักมาพร้อมกับการวัดและการตรวจสอบตัวแปรต่างๆ ทั้งหมดนี้เชื่อมโยงกับการวิเคราะห์ข้อมูลงบประมาณของรัฐบาล การวิเคราะห์เศรษฐกิจระหว่างประเทศ และการพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ที่สามารถส่งผลต่อเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและนานาชาติ หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่ออัตราเงินเฟ้อ MoM คือการเปลี่ยนแปลงในระดับอุปสงค์และอุปทาน ทั้งนี้เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงระดับอุปสงค์หรืออุปทานสามารถส่งผลต่อราคาสินค้าและบริการ ตัวอย่างเช่น ถ้าอุปสงค์ของสินค้าบางประเภทเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่าการเพิ่มขึ้นของอุปทาน ก็อาจจะทำให้ราคาสินค้าดังกล่าวเพิ่มขึ้น และในทางตรงกันข้าม ถ้าอุปทานของสินค้าบางประเภทธรรมดาอาจจะทำให้ราคาลดลง อีกทั้ง การเปลี่ยนแปลงในด้านของนโยบายการเงินของธนาคารกลางก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง ธนาคารกลางอาจจะใช้มาตรการเชิงการเงินหลากหลายรูปแบบเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ เช่น การปรับอัตราดอกเบี้ย การออกพันธบัตร หรือการใช้มาตรการทางการเงินอื่น ๆ ซึ่งเป็นการกระทำที่มีผลโดยตรงต่อระดับราคาในเดือนนั้นๆ นอกจากนี้ ปัจจัยเชิงภายนอกอย่างเช่น การค้านานาชาติ และความไม่แน่นอนทางการเมืองก็เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลอย่างมากต่ออัตราเงินเฟ้อ MoM ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของอัตราภาษีนำเข้าหรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินก็สามารถทำให้ต้นทุนของสินค้านำเข้าและผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบจากต่างประเทศมีการเปลี่ยนแปลง การวิเคราะห์อัตราเงินเฟ้อ MoM ผ่านข้อมูลของ eulerpool เป็นขั้นตอนที่มีความซับซ้อน แต่ก็มีความสำคัญมากสำหรับการวางแผนทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่มีความแปรปรวนมาก การติดตามข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ MoM อย่างใกล้ชิดจะช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและมีจังหวะการทำงานที่มากขึ้น ผู้ใช้ข้อมูลบนเว็บไซต์ eulerpool สามารถเข้ามาตรวจสอบข้อมูลและการวิเคราะห์ที่ครอบคลุม เพื่อทำการตัดสินใจทางการเงินและการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ อีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่ออัตราเงินเฟ้อ MoM คือนโยบายทางการคลังของรัฐบาล เช่น งบประมาณรายจ่ายของรัฐ การจัดสรรงบประมาณในแต่ละหน่วยงาน และการดำเนินการในด้านสังคม การที่รัฐบาลลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานหรือมีนโยบายแจกเงินให้กับประชาชนนั้น อาจจะทำให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นและอาจจะก่อให้เกิดเงินเฟ้อ การรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ MoM นั้นถือว่าเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลายในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นนักวิเคราะห์ทางการเงิน นักวิเคราะห์การลงทุน นักวิจัยทางด้านเศรษฐศาสตร์ หรือแม้กระทั่งนักการเมือง ข้อมูลจาก eulerpool สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็นสำหรับการทำความเข้าใจสถานะเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ในสรุป การวัดและการวิเคราะห์อัตราเงินเฟ้อ MoM เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการประเมินสถานะของเศรษฐกิจในระยะสั้น ข้อมูลจาก eulerpool นั้นสามารถช่วยให้นักเศรษฐศาสตร์และนักการเงินดึงข้อมูลที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้ นำมาวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจสถานะทางเศรษฐกิจในปัจจุบันและการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในด้านของนโยบายการเงิน การคลัง ร่วมถึงปัจจัยภายนอกอย่างการค้านานาชาติและปัจจัยทางการเมือง การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ MoM จะ کمکให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการทางเศรษฐกิจ