ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ศรีลังกา รายได้ของรัฐบาล
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของรายได้ของรัฐบาลใน ศรีลังกา อยู่ที่ 1.464 ชีวภาพ. LKR รายได้ของรัฐบาลใน ศรีลังกา เพิ่มขึ้นเป็น 1.464 ชีวภาพ. LKR เมื่อ 1/1/2564 หลังจากที่เคยอยู่ที่ 1.373 ชีวภาพ. LKR เมื่อ 1/1/2563 จาก 1/1/2523 ถึง 1/1/2565 GDP เฉลี่ยใน ศรีลังกา อยู่ที่ 578.19 ล้านล้าน LKR โดยที่ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/1/2565 ด้วย 2.01 ชีวภาพ. LKR ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกเมื่อ 1/1/2523 ด้วย 15.64 ล้านล้าน LKR
รายได้ของรัฐบาล ·
แม็กซ์
รายได้ของรัฐ | |
---|---|
1/1/2523 | 15.64 ล้านล้าน LKR |
1/1/2524 | 17.5 ล้านล้าน LKR |
1/1/2525 | 19.59 ล้านล้าน LKR |
1/1/2526 | 26.79 ล้านล้าน LKR |
1/1/2527 | 37.35 ล้านล้าน LKR |
1/1/2528 | 39.56 ล้านล้าน LKR |
1/1/2529 | 40.99 ล้านล้าน LKR |
1/1/2530 | 46.82 ล้านล้าน LKR |
1/1/2531 | 48.34 ล้านล้าน LKR |
1/1/2532 | 60.39 ล้านล้าน LKR |
1/1/2533 | 74.66 ล้านล้าน LKR |
1/1/2534 | 84.05 ล้านล้าน LKR |
1/1/2535 | 94.01 ล้านล้าน LKR |
1/1/2536 | 106.52 ล้านล้าน LKR |
1/1/2537 | 118.3 ล้านล้าน LKR |
1/1/2538 | 145.29 ล้านล้าน LKR |
1/1/2539 | 154.02 ล้านล้าน LKR |
1/1/2540 | 172.37 ล้านล้าน LKR |
1/1/2541 | 182.23 ล้านล้าน LKR |
1/1/2542 | 202.67 ล้านล้าน LKR |
1/1/2543 | 216.43 ล้านล้าน LKR |
1/1/2544 | 239.8 ล้านล้าน LKR |
1/1/2545 | 268.97 ล้านล้าน LKR |
1/1/2546 | 284.42 ล้านล้าน LKR |
1/1/2547 | 320.15 ล้านล้าน LKR |
1/1/2548 | 412.39 ล้านล้าน LKR |
1/1/2549 | 507.9 ล้านล้าน LKR |
1/1/2550 | 595.56 ล้านล้าน LKR |
1/1/2551 | 686.48 ล้านล้าน LKR |
1/1/2552 | 725.57 ล้านล้าน LKR |
1/1/2553 | 834.19 ล้านล้าน LKR |
1/1/2554 | 983 ล้านล้าน LKR |
1/1/2555 | 1.07 ชีวภาพ. LKR |
1/1/2556 | 1.15 ชีวภาพ. LKR |
1/1/2557 | 1.2 ชีวภาพ. LKR |
1/1/2558 | 1.46 ชีวภาพ. LKR |
1/1/2559 | 1.69 ชีวภาพ. LKR |
1/1/2560 | 1.84 ชีวภาพ. LKR |
1/1/2561 | 1.93 ชีวภาพ. LKR |
1/1/2562 | 1.9 ชีวภาพ. LKR |
1/1/2563 | 1.37 ชีวภาพ. LKR |
1/1/2564 | 1.46 ชีวภาพ. LKR |
รายได้ของรัฐบาล ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/1/2564 | 1.464 ชีวภาพ. LKR |
1/1/2563 | 1.373 ชีวภาพ. LKR |
1/1/2562 | 1.899 ชีวภาพ. LKR |
1/1/2561 | 1.932 ชีวภาพ. LKR |
1/1/2560 | 1.84 ชีวภาพ. LKR |
1/1/2559 | 1.694 ชีวภาพ. LKR |
1/1/2558 | 1.461 ชีวภาพ. LKR |
1/1/2557 | 1.205 ชีวภาพ. LKR |
1/1/2556 | 1.153 ชีวภาพ. LKR |
1/1/2555 | 1.068 ชีวภาพ. LKR |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ รายได้ของรัฐบาล
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇱🇰 การใช้จ่ายทางทหาร | 1.166 ล้านล้าน USD | 1.002 ล้านล้าน USD | ประจำปี |
🇱🇰 งบประมาณของรัฐ | -10.2 % of GDP | -11.7 % of GDP | ประจำปี |
🇱🇰 ดัชนีการทุจริต | 34 Points | 36 Points | ประจำปี |
🇱🇰 มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล | -2.46 ชีวภาพ. LKR | -2.058 ชีวภาพ. LKR | ประจำปี |
🇱🇰 รัฐบาลใช้จ่าย | 4.473 ชีวภาพ. LKR | 3.522 ชีวภาพ. LKR | ประจำปี |
🇱🇰 รัฐบาลใช้จ่าย | 1.893 ชีวภาพ. LKR | 1.727 ชีวภาพ. LKR | ประจำปี |
🇱🇰 หนี้สาธารณะ | 28.696 ชีวภาพ. LKR | 28.02 ชีวภาพ. LKR | ควอร์เตอร์ |
🇱🇰 หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ | 113.8 % of GDP | 100.1 % of GDP | ประจำปี |
🇱🇰 อันดับคอร์รัปชั่น | 115 | 101 | ประจำปี |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร รายได้ของรัฐบาล
รัฐบาลไทยสามารถสร้างรายได้จากหลายแหล่งเพื่อเป็นทุนในการบริหารประเทศและการพัฒนาสาธารณูปโภคต่างๆ แหล่งที่มาของรายได้นี้เรียกรวมว่า 'รายได้ของรัฐบาล' ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศ การดำเนินนโยบายการเงินและการคลัง รวมถึงการจัดตั้งกองทุนสำหรับโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ รายได้ของรัฐบาลไทยเกิดจากแหล่งที่มาหลายชุด ซึ่งถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบและมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติ หนึ่งในแหล่งที่มาหลักของรายได้รัฐบาลคือภาษี ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ที่ประชาชนและบริษัทต่างๆ ต้องเสียเพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล ภาษีแบ่งได้เป็นหลายประเภท ได้แก่ ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ภาษีนิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีสินทรัพย์ และภาษีศุลกากร ซึ่งแต่ละประเภทของภาษีมีระเบียบและข้อกำหนดที่เฉพาะเจาะจง การจัดเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยสร้างเงินทุนให้รัฐบาลนำไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาประเทศได้ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความยุติธรรมและความเสมอภาคในสังคมให้เกิดขึ้นเมื่อทุกคนมีส่วนร่วมในการจ่ายภาษีตามความสามารถของตน นอกจากภาษีแล้ว รัฐบาลยังมีรายได้จากการให้บริการสาธารณะและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รัฐบาลอาจเรียกเก็บค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางการเงิน ค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต และค่าธรรมเนียมสาธารณูปโภคอื่นๆ เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินงานของรัฐ เช่นเดียวกันการให้สัมปทานแก่บริษัทเอกชนในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติก็เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ เช่น ทรัพยากรป่าไม้ เหมืองแร่ และพลังงาน ซึ่งรัฐบาลสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือส่วนแบ่งรายได้จากการดำเนินงานเหล่านี้ อีกแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลคือการลงทุนในกิจการรัฐและการออกพันธบัตรรัฐบาล เมื่อลงทุนในกิจการรัฐบาล หน่วยงานราชการสามารถนำกำไรจากการดำเนินงานมาใช้ในการบริหารและพัฒนาประเทศ เช่น รัฐบาลอาจลงทุนในกิจการที่มีศักยภาพการทำกำไร หรือสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน ระบบขนส่งมวลชน และเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ การออกพันธบัตรรัฐบาลก็เป็นวิธีการหนึ่งในการระดมทุนจากประชาชนและนักลงทุน ซึ่งการออกพันธบัตรนี้โดยปกติจะมีการระบุอัตราดอกเบี้ยและช่วงเวลาการชำระคืนอย่างชัดเจน ในการจัดทำงบประมาณรัฐบาล การบริหารรายได้มีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายอย่างเป็นระเบียบและไม่มีการขาดทุน การจัดทำงบประมาณแบบสมดุลและมีการพยากรณ์รายได้และค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินในระยะยาว ซึ่งการจัดทำงบประมาณและการบริหารการคลังที่ดีสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีเสถียรภาพและเติบโตได้อย่างยั่งยืน แม้ว่าแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลจะมีหลากหลาย รัฐบาลไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการรายได้ให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส เช่น การป้องกันการทุจริตและการเลี่ยงภาษี ซึ่งเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อความสามารถในการเก็บรายได้ นอกจากนี้ยังต้องดูแลไม่ให้การเก็บภาษีเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับประชาชนและไม่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม การนำเทคโนโลยีและระบบการจัดการที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารจัดการรายได้จึงมีความสำคัญมากขึ้น เพื่อให้มีการตรวจสอบและประเมินผลที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ในยุคโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกยังมีผลกระทบต่อรายได้ของรัฐบาลอย่างมีนัยสำคัญ การเปลี่ยนแปลงของตลาดการเงินโลก การค้าระหว่างประเทศ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทำให้รัฐบาลต้องมีการปรับนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการรายได้อย่างยืดหยุ่นและรวดเร็ว เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ การที่ไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และการทำข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ หมายความว่ารัฐบาลไทยต้องปรับตัวเพื่อให้มีศักยภาพการแข่งขันและสามารถเพิ่มรายได้จากการขยายตลาดการค้าและการลงทุน การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศและการพัฒนาภาคการผลิตในประเทศให้มีความสามารถในการแข่งขันยังเป็นอีกแนวทางที่สามารถสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล สรุปแล้ว รายได้ของรัฐบาลไทยมาจากหลายแหล่งที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งภาษี ค่าธรรมเนียม สัมปทาน การลงทุนและการออกพันธบัตร ซึ่งการบริหารจัดการรายได้เหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความมั่นคงและการพัฒนาประเทศในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การปรับนโยบายและวิธีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสก็ยังเป็นความท้าทายสำคัญที่รัฐบาลต้องเผชิญ เพื่อให้สามารถสร้างและจัดการรายได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป