ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇨🇱

ชิลี การใช้จ่ายของรัฐบาล

ราคา

8.429 ชีวภาพ. CLP
การเปลี่ยนแปลง +/-
-577.069 ล้านล้าน CLP
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-6.62 %

มูลค่าปัจจุบันของการใช้จ่ายของรัฐบาลใน ชิลี คือ 8.429 ชีวภาพ. CLP การใช้จ่ายของรัฐบาลใน ชิลี ลดลงเหลือ 8.429 ชีวภาพ. CLP เมื่อ 1/9/2566 หลังจากที่เคยเป็น 9.006 ชีวภาพ. CLP เมื่อ 1/6/2566 ตั้งแต่ 1/3/2539 ถึง 1/12/2566 GDP เฉลี่ยใน ชิลี อยู่ที่ 5.17 ชีวภาพ. CLP ระดับสูงสุดตลอดเวลาถึงเมื่อ 1/12/2566 ด้วย 9.15 ชีวภาพ. CLP ขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ 1/3/2539 ด้วย 2.49 ชีวภาพ. CLP

แหล่งที่มา: Central Bank of Chile

การใช้จ่ายของรัฐบาล

  • แม็กซ์

รัฐบาลใช้จ่าย

การใช้จ่ายของรัฐบาล ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/9/25668.429 ชีวภาพ. CLP
1/6/25669.006 ชีวภาพ. CLP
1/3/25666.92 ชีวภาพ. CLP
1/12/25658.724 ชีวภาพ. CLP
1/9/25658.086 ชีวภาพ. CLP
1/6/25658.845 ชีวภาพ. CLP
1/3/25656.699 ชีวภาพ. CLP
1/12/25648.908 ชีวภาพ. CLP
1/9/25647.864 ชีวภาพ. CLP
1/6/25648.283 ชีวภาพ. CLP
1
2
3
4
5
...
12

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การใช้จ่ายของรัฐบาล

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇨🇱
การใช้จ่ายทางทหาร
5.492 ล้านล้าน USD4.649 ล้านล้าน USDประจำปี
🇨🇱
งบประมาณของรัฐ
-2.5 % of GDP1.1 % of GDPประจำปี
🇨🇱
ดัชนีการทุจริต
66 Points67 Pointsประจำปี
🇨🇱
มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล
2.496 ชีวภาพ. CLP-2.009 ชีวภาพ. CLPรายเดือน
🇨🇱
รัฐบาลใช้จ่าย
5.944 ชีวภาพ. CLP6.308 ชีวภาพ. CLPรายเดือน
🇨🇱
รายได้ของรัฐ
8.819 ชีวภาพ. CLP5.155 ชีวภาพ. CLPรายเดือน
🇨🇱
หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ
38 % of GDP36.3 % of GDPประจำปี
🇨🇱
อันดับคอร์รัปชั่น
29 27 ประจำปี

การใช้จ่ายภาครัฐหมายถึงการใช้จ่ายของภาครัฐเพื่อสินค้าและบริการและเป็นองค์ประกอบหลักของ GDP นโยบายการใช้จ่ายภาครัฐเช่นการกำหนดเป้าหมายงบประมาณ การปรับปรุงระบบภาษี การเพิ่มการใช้จ่ายสาธารณะ และการลงทุนในงานสาธารณะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากในการมีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ

คืออะไร การใช้จ่ายของรัฐบาล

การใช้จ่ายของรัฐบาล: ภาพรวมทางเศรษฐศาสตร์มหภาค เว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลเชิงลึกทางเศรษฐศาสตร์มหภาคที่เตรียมความรู้และข้อมูลการวิเคราะห์ที่แม่นยำสำหรับผู้เยี่ยมชมทุกระดับ ในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจที่ซับซ้อน สิ่งที่สำคัญมากคือการมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้จ่ายของรัฐบาล ที่ผ่านมา การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นหนึ่งในกลไกที่สำคัญที่สุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจและควบคุมสภาวะเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพ การใช้จ่ายของรัฐบาล หมายถึง เงินที่รัฐบาลทำการใช้ในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างสาธารณูปโภค การสนับสนุนสาธารณสุข การศึกษา การวิจัยและพัฒนา รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลังหรือการใช้เงินทุนสำรอง หนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการใช้จ่ายของรัฐบาลคือรายได้ของรัฐบาล ซึ่งหลักๆ มาจากการเก็บภาษี การขายสินทรัพย์รัฐบาล และการกู้ยืมเงิน เมื่อรัฐบาลมีรายได้มาก รัฐบาลสามารถใช้จ่ายมากขึ้น เช่นกัน เมื่อมีสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ การกู้ยืมเงินก็เป็นวิธีหนึ่งที่รัฐบาลใช้เพื่อกระตุ้นการลงทุนและการใช้จ่ายในภาคส่วนต่างๆ ในภาพรวมทางเศรษฐศาสตร์มหภาค การใช้จ่ายของรัฐบาลมีผลกระทบที่กว้างขวางและซับซ้อนในหลายด้าน ด้านหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงในประสิทธิภาพการผลิต (productivity) ของประเทศ การใช้จ่ายในโครงการโครงสร้างพื้นฐานเช่น ถนน ทางด่วน สะพาน หรือสนามบิน สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าและลดต้นทุน ทำให้เกิดการเจริญเติบโตในระยะยาว นอกจากนี้ การใช้จ่ายในด้านการศึกษาและการฝึกอบรมยังเป็นการลงทุนที่ยั่งยืนในทุนมนุษย์ ทำให้ประชากรมีความสามารถมากขึ้น ซึ่งมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานและการผลิตของภาคแรงงานในอนาคต การเพิ่มการลงทุนในด้านสาธารณสุขก็จะเป็นการลดต้นทุนทางสังคมและเศรษฐกิจในระยะยาว เนื่องจากผลสุขภาพของประชากรดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายที่มากเกินไปยังทำให้เกิดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้เช่นเดียวกัน หากรัฐบาลใช้จ่ายเกินกว่าปริมาณที่ควรจะเป็น อาจทำให้เกิดการขาดดุลงบประมาณ (budget deficits) ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและระดับหนี้สาธารณะ อีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลคือ การใช้จ่ายของรัฐบาลยังส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ เมื่อรัฐบาลใช้จ่ายมากขึ้น ความต้องการสินค้าหรือบริการต่างๆ จะเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาอาจปรับตัวสูงขึ้น มีผลทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นได้ การควบคุมและจัดการการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจกับการควบคุมเงินเฟ้อ นโยบายการคลัง (fiscal policy) เป็นเครื่องมือหนึ่งที่รัฐบาลใช้ในการควบคุมการใช้จ่าย การบริหารนโยบายการคลังที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนได้ รัฐบาลสามารถเพิ่มหรือลดภาษี ปรับเปลี่ยนระดับของการใช้จ่ายในการลงทุนในโครงการต่างๆ เพื่อปรับปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจตามความจำเป็นในสถานการณ์ที่ต่างกัน องค์กรทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) หรือ ธนาคารโลก (World Bank) มักมีคำแนะนำในด้านการใช้จ่ายของรัฐบาลและนโยบายการคลัง เพื่อให้ประเทศต่างๆ มีการบริหารการเงินที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในยุคปัจจุบัน การใช้จ่ายของรัฐบาลไม่ได้มาแค่ในรูปแบบของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานหรือการให้บริการสาธารณะเพียงอย่างเดียว การวิจัยและพัฒนาในด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ และการสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อการนวัตกรรมยังเป็นสิ่งที่รัฐบาลมองเห็นความสำคัญเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต นอกจากนี้ ความตื่นตัวต่อสิ่งแวดล้อมยังเป็นเรื่องที่รัฐบาลหลายประเทศให้ความสำคัญ การลงทุนในโครงการพลังงานสะอาดหรือการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว (green economy) เป็นแนวทางหนึ่งที่รัฐบาลหลายประเทศสนใจทำ แม้ว่าการใช้จ่ายของรัฐบาลจะมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การมีการใช้จ่ายอย่างเป็นระบบและมียุทธศาสตร์เป็นสิ่งที่จำเป็น ถ้ารัฐบาลใช้จ่ายเงินไม่ดีพอ การเงินของประเทศอาจเสี่ยงต่อการเกิดวิกฤติ การศึกษาและความเข้าใจในเชิงลึกเกี่ยวกับปัจจัยและผลกระทบของการใช้จ่ายของรัฐบาลจะทำให้สามารถวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในสรุป การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารเศรษฐกิจมหภาค มีผลกระทบทั้งในด้านการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพการผลิต ระดับชีวิตของประชาชน ตลอดจนความคุมค่าของเงินเฟ้อ การมีข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเป็นสิ่งจำเป็นในการวิเคราะห์และวางแผน ซึ่งทางเว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้คุณมีความรู้และเครื่องมือในการประเมินและติดตามการใช้จ่ายของรัฐบาลอย่างมืออาชีพ