ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
นิวซีแลนด์ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศใน นิวซีแลนด์ คือ 2.777 ล้านล้าน NZD การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศใน นิวซีแลนด์ เพิ่มขึ้นเป็น 2.777 ล้านล้าน NZD ในวันที่ 1/12/2567 หลังจากที่มันอยู่ที่ 2.281 ล้านล้าน NZD เมื่อวันที่ 1/6/2567 ตั้งแต่ 1/6/2543 ถึง 1/12/2567 GDP เฉลี่ยใน นิวซีแลนด์ คือ 835.33 ล้าน NZD มูลค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1/12/2565 ด้วย 5.76 ล้านล้าน NZD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อวันที่ 1/12/2546 ด้วย -7.32 ล้านล้าน NZD
การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ·
แม็กซ์
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | |
---|---|
1/9/2543 | 2.76 ล้านล้าน NZD |
1/3/2544 | 3.1 ล้านล้าน NZD |
1/3/2545 | 2.07 ล้านล้าน NZD |
1/6/2545 | 1.58 ล้านล้าน NZD |
1/9/2545 | 540 ล้าน NZD |
1/12/2545 | 1.99 ล้านล้าน NZD |
1/3/2546 | 797 ล้าน NZD |
1/6/2546 | 1.17 ล้านล้าน NZD |
1/9/2546 | 193 ล้าน NZD |
1/3/2547 | 1.05 ล้านล้าน NZD |
1/6/2547 | 1.32 ล้านล้าน NZD |
1/9/2547 | 133 ล้าน NZD |
1/12/2547 | 996 ล้าน NZD |
1/3/2548 | 491 ล้าน NZD |
1/6/2548 | 1.36 ล้านล้าน NZD |
1/9/2548 | 572 ล้าน NZD |
1/12/2548 | 266 ล้าน NZD |
1/3/2549 | 300 ล้าน NZD |
1/9/2549 | 1.89 ล้านล้าน NZD |
1/12/2549 | 2.76 ล้านล้าน NZD |
1/3/2550 | 1.83 ล้านล้าน NZD |
1/6/2550 | 2.5 ล้านล้าน NZD |
1/9/2550 | 916 ล้าน NZD |
1/12/2550 | 701 ล้าน NZD |
1/3/2551 | 337 ล้าน NZD |
1/6/2551 | 939 ล้าน NZD |
1/9/2551 | 1.05 ล้านล้าน NZD |
1/12/2551 | 1.47 ล้านล้าน NZD |
1/3/2552 | 843 ล้าน NZD |
1/12/2552 | 451 ล้าน NZD |
1/3/2553 | 306 ล้าน NZD |
1/12/2553 | 1.42 ล้านล้าน NZD |
1/3/2554 | 1.32 ล้านล้าน NZD |
1/6/2554 | 1.75 ล้านล้าน NZD |
1/9/2554 | 1 ล้าน NZD |
1/3/2555 | 1.06 ล้านล้าน NZD |
1/6/2555 | 382 ล้าน NZD |
1/9/2555 | 2.77 ล้านล้าน NZD |
1/12/2555 | 531 ล้าน NZD |
1/3/2556 | 466 ล้าน NZD |
1/9/2556 | 833 ล้าน NZD |
1/12/2556 | 129 ล้าน NZD |
1/3/2557 | 1.05 ล้านล้าน NZD |
1/6/2557 | 945 ล้าน NZD |
1/12/2557 | 2.93 ล้านล้าน NZD |
1/3/2558 | 974 ล้าน NZD |
1/6/2558 | 713 ล้าน NZD |
1/3/2559 | 2.3 ล้านล้าน NZD |
1/9/2559 | 147 ล้าน NZD |
1/12/2559 | 968 ล้าน NZD |
1/3/2560 | 1.16 ล้านล้าน NZD |
1/6/2560 | 1.42 ล้านล้าน NZD |
1/12/2560 | 1.78 ล้านล้าน NZD |
1/3/2561 | 797 ล้าน NZD |
1/9/2561 | 1.87 ล้านล้าน NZD |
1/12/2561 | 2.5 ล้านล้าน NZD |
1/6/2562 | 4.59 ล้านล้าน NZD |
1/9/2562 | 879 ล้าน NZD |
1/12/2562 | 238 ล้าน NZD |
1/3/2563 | 1.06 ล้านล้าน NZD |
1/6/2563 | 1.98 ล้านล้าน NZD |
1/9/2563 | 1.12 ล้านล้าน NZD |
1/12/2563 | 3.22 ล้านล้าน NZD |
1/3/2564 | 3.18 ล้านล้าน NZD |
1/6/2564 | 1.32 ล้านล้าน NZD |
1/12/2564 | 2.13 ล้านล้าน NZD |
1/3/2565 | 2.67 ล้านล้าน NZD |
1/6/2565 | 5.64 ล้านล้าน NZD |
1/9/2565 | 2.57 ล้านล้าน NZD |
1/12/2565 | 5.76 ล้านล้าน NZD |
1/6/2566 | 882 ล้าน NZD |
1/9/2566 | 907 ล้าน NZD |
1/12/2566 | 2.39 ล้านล้าน NZD |
1/3/2567 | 1.91 ล้านล้าน NZD |
1/6/2567 | 2.28 ล้านล้าน NZD |
1/12/2567 | 2.78 ล้านล้าน NZD |
การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2567 | 2.777 ล้านล้าน NZD |
1/6/2567 | 2.281 ล้านล้าน NZD |
1/3/2567 | 1.912 ล้านล้าน NZD |
1/12/2566 | 2.388 ล้านล้าน NZD |
1/9/2566 | 907 ล้าน NZD |
1/6/2566 | 882 ล้าน NZD |
1/12/2565 | 5.761 ล้านล้าน NZD |
1/9/2565 | 2.572 ล้านล้าน NZD |
1/6/2565 | 5.639 ล้านล้าน NZD |
1/3/2565 | 2.666 ล้านล้าน NZD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇳🇿 กระแสเงินทุน | -3.423 ล้านล้าน NZD | 2.912 ล้านล้าน NZD | ควอร์เตอร์ |
🇳🇿 การขายอาวุธ | 20 ล้าน SIPRI TIV | 29 ล้าน SIPRI TIV | ประจำปี |
🇳🇿 เงื่อนไขการซื้อขาย | 1,476 points | 1,432 points | ควอร์เตอร์ |
🇳🇿 ดัชนีการก่อการร้าย | 0.217 Points | 1.947 Points | ประจำปี |
🇳🇿 ดัชนีราคาการค้านมระดับโลก | 1.6 % | 1.1 % | frequency_weekly |
🇳🇿 นำเข้า | 6.23 ล้านล้าน NZD | 6.6 ล้านล้าน NZD | รายเดือน |
🇳🇿 ยอดการค้า | 510 ล้าน NZD | -544 ล้าน NZD | รายเดือน |
🇳🇿 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | -7.037 ล้านล้าน NZD | -10.58 ล้านล้าน NZD | ควอร์เตอร์ |
🇳🇿 ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า | 354,408 | 370,238 | รายเดือน |
🇳🇿 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | -6.9 % of GDP | -8.8 % of GDP | ประจำปี |
🇳🇿 รายได้จากการท่องเที่ยว | 4.119 ล้านล้าน NZD | 2.803 ล้านล้าน NZD | ควอร์เตอร์ |
🇳🇿 ส่งออก | 6.74 ล้านล้าน NZD | 6.06 ล้านล้าน NZD | รายเดือน |
🇳🇿 หนี้สินต่างประเทศ | 403.539 ล้านล้าน NZD | 387.953 ล้านล้าน NZD | ควอร์เตอร์ |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ออสเตรเลีย
คืออะไร การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment หรือ FDI) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญในด้านเศรษฐกิจมหภาคที่มีบทบาทสำคัญต่อนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ในปัจจุบัน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีความหมายถึงการลงทุนโดยหน่วยงานหรือบุคคลจากประเทศหนึ่งเข้าไปลงทุนในกิจการของประเทศอื่น โดยมีการถือหุ้นหรือสิทธิ์ในการบริหารจัดการกิจการนั้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งต่างกับการลงทุนทางการเงินที่เน้นการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อหากำไรในระยะสั้น ปัจจัยที่ทำให้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีความสำคัญมากในระบบเศรษฐกิจมหภาค ประเทศที่ได้รับการลงทุนจากต่างประเทศมักจะได้รับประโยชน์ทั้งในด้านการเพิ่มพูนทุนทรัพย์สิน การสร้างงานใหม่ การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการเพิ่มผลผลิต ผู้ลงทุนต่างประเทศมักจะมองหาสิ่งที่พวกเขาสามารถได้รับจากการลงทุน เช่น ผลตอบแทนที่สูงขึ้น การกระจายความเสี่ยง การเข้าถึงแหล่งทรัพยากร หรือการขยายตลาดใหม่ ซึ่งทุกปัจจัยเหล่านี้มีผลกับการตัดสินใจทางเศรษฐกิจในระดับมหภาค ในมุมมองของประเทศที่รับการลงทุน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศนั้นสามารถกระตุ้นให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ นักวิจัยและนักเศรษฐศาสตร์หลายคนชี้ว่า FDI สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ ผ่านการนำความรู้และเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้ นอกจากนั้น การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศยังสามารถช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน โรงงาน และระบบสื่อสาร ซึ่งจะช่วยให้ภาคส่วนต่าง ๆ ของเศรษฐกิจสามารถขยับขยายและพัฒนาได้เร็วขึ้น อีกประเด็นที่สำคัญคือผลกระทบต่อการว่างงาน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมักจะนำไปสู่การสร้างงานใหม่ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน เมื่อมีการสร้างงานใหม่ขึ้น ไม่เพียงแต่จะช่วยลดอัตราการว่างงาน แต่ยังช่วยให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น และก่อให้เกิดการใช้จ่ายภายในประเทศที่มากขึ้น การใช้จ่ายนี้เองจะนำไปสู่การหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพและสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอันยั่งยืน สำหรับประเทศไทย การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศถือเป็นแหล่งทุนที่สำคัญที่ช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตและพัฒนาต่อไปได้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีนโยบายที่เปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาอย่างรวดเร็ว รัฐบาลไทยได้มีการออกกฎหมายและนโยบายที่ส่งเสริมและสร้างความเอื้อต่อการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลดภาษี การให้สิทธิเข้าถึงทรัพยากรอย่างเป็นธรรม และการส่งเสริมการลงทุนในคลัสเตอร์ที่มีศักยภาพสูง นอกจากนี้ ยังมีการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zones หรือ SEZ) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการให้สิทธิพิเศษในการลงทุน เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ เขตเศรษฐกิจพิเศษเหล่านี้มักจะมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี และสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมให้บริการ การลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจในการเข้ามาลงทุนและสามารถลดความเสี่ยงในระดับหนึ่ง เมื่อพูดถึงปัจจัยที่ดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในประเทศไทย มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา ความเป็นกลางทางการเมือง ศักยภาพทางเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐานที่เติบโต และการเปิดเสรีทางการค้าเป็นเพียงบางส่วนของปัจจัยที่ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายการลงทุนที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม การมีนโยบายที่ชัดเจนและความโปร่งใสในการบริหารจัดการเป็นสิ่งที่จะไม่สามารถละเลยได้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในประเทศไทยไม่ได้มีเพียงแต่ผลบวกเท่านั้น ยังมีผลกระทบบางประการที่ต้องระมัดระวัง เช่น การเข้าไปควบคุมกิจการที่อาจจะผูกขาดตลาด หรือการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเกินกว่าความจำเป็น รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงจำเป็นที่จะต้องมีการควบคุมและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การลงทุนเหล่านี้มีประโยชน์สูงสุดแก่เศรษฐกิจและประชาชนในประเทศ นอกจากนี้ การพัฒนาเจ้าหน้าที่และบุคลากรที่มีความสามารถเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญในการรับมือกับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ การมีบุคลากรที่มีทักษะและความสามารถสูงจะทำให้ประเทศมีโอกาสในการเจรจาและบริหารจัดการการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีการพัฒนาทางทักษะที่คงอยู่และลดการพึ่งพาทรัพยากรจากต่างประเทศ สุดท้ายนี้ การมีข้อมูลครบถ้วนและเชื่อถือได้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการพิจารณาการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เว็บไซต์ eulerpool ของเราเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ในการนำเสนอข้อมูลด้านเศรษฐกิจมหภาค ทีมงานของเรามุ่งมั่นในการให้ข้อมูลที่ครบถ้วน และถูกต้องที่สุดเพื่อช่วยให้นักลงทุนและผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างง่ายดาย การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเป็นหนึ่งในเครื่องหมายที่จะบอกถึงสุขภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นการทำความเข้าใจและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อให้เราสามารถอยู่รอดและเติบโตในโลกเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว