ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇳🇿

นิวซีแลนด์ ผลผลิตการก่อสร้าง

ราคา

2.16 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
-8.21 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-131.05 %

มูลค่าปัจจุบันของผลผลิตการก่อสร้างใน นิวซีแลนด์ คือ 2.16 % ผลผลิตการก่อสร้างใน นิวซีแลนด์ ลดลงเหลือ 2.16 % ณ วันที่ 1/9/2566 หลังจากที่อยู่ที่ 10.37 % ณ วันที่ 1/6/2566 ตั้งแต่วันที่ 1/6/2509 ถึงวันที่ 1/3/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน นิวซีแลนด์ อยู่ที่ 9.05 % ค่าสูงสุดตลอดกาลถูกบันทึกเมื่อวันที่ 1/3/2525 ด้วยมูลค่า 46.2 % ขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อวันที่ 1/6/2534 ด้วยมูลค่า -27.8 %

แหล่งที่มา: Statistics New Zealand

ผลผลิตการก่อสร้าง

  • แม็กซ์

การผลิตวัสดุก่อสร้าง

ผลผลิตการก่อสร้าง ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/9/25662.16 %
1/6/256610.37 %
1/3/256613.14 %
1/12/256517.22 %
1/9/256533.4 %
1/6/256515.7 %
1/3/256511.85 %
1/12/256413.33 %
1/9/25642.24 %
1/6/256442.37 %
1
2
3
4
5
...
18

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ผลผลิตการก่อสร้าง

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇳🇿
เฉลี่ยราคาบ้าน
923,713 NZD926,772 NZDรายเดือน
🇳🇿
ดัชนีที่อยู่อาศัย
2,346 Points2,353 Pointsรายเดือน
🇳🇿
ดัชนีราคาบ้าน YoY
3.9 %2.7 %รายเดือน
🇳🇿
ดัชนีราคาบ้านเดือนต่อเดือน
-0.3 %0.2 %รายเดือน
🇳🇿
ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย
-0.81 %-4.06 %ควอร์เตอร์
🇳🇿
สัดส่วนการเป็นเจ้าของบ้านเอง
64.6 %64.7 %ประจำปี
🇳🇿
อนุญาตการก่อสร้าง
2,877 Units2,934 Unitsรายเดือน
🇳🇿
อนุญาตการก่อสร้าง MoM
-1.7 %-2.1 %รายเดือน
🇳🇿
อัตราส่วนราคาต่อค่าเช่า
133.577 133.884 ควอร์เตอร์

ผลผลิตการก่อสร้างในนิวซีแลนด์หมายถึงการเปลี่ยนแปลงรายปีในมูลค่าของงานก่อสร้างที่ได้ดำเนินการ

คืออะไร ผลผลิตการก่อสร้าง

ในแวดวงเศรษฐกิจมหภาค หนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สามารถให้ภาพรวมเกี่ยวกับสุขภาพของเศรษฐกิจได้คือ 'การผลิตภาคก่อสร้าง' หรือ 'Construction Output' โดยเฉพาะในประเทศไทยที่อุตสาหกรรมก่อสร้างมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในทุกภาคส่วน การทำความเข้าใจและการติดตามข้อมูลเกี่ยวกับการผลิตภาคก่อสร้างจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากสำหรับทั้งนักวิเคราะห์ นักลงทุน และผู้วางแผนนโยบาย การผลิตภาคก่อสร้างนับว่าเป็นดัชนีที่มีความหมายมาก เนื่องจากมันสะท้อนถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ โครงสร้างพื้นฐานเช่น ถนน สะพาน รวมถึงโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ เมื่อมีการลงทุนในการก่อสร้างสูง จะหมายถึงมีการสร้างงานและการหมุนเวียนของเงินจำนวนมากในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งสามารถกระตุ้นการเติบโตของจีดีพีได้ อีกทั้งการผลิตภาคก่อสร้างยังเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนและภาคธุรกิจ หากมีการลงทุนเพิ่มขึ้น เราสามารถสันนิษฐานได้ว่าภาครัฐและเอกชนมีความมั่นใจในอนาคตของเศรษฐกิจที่ดียิ่งขึ้น แต่ในทางกลับกัน หากมีการลดลงในด้านการผลิตภาคก่อสร้าง นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ต้องจับตามองว่าเศรษฐกิจกำลังเผชิญกับความท้าทายอะไรอยู่ สำหรับแนวโน้มการผลิตภาคก่อสร้างในประเทศไทย จะเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับการวางแผนนโยบายของภาครัฐ เช่น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคม การพัฒนาเมืองและชนบท การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่อย่างเช่น การขยายสนามบิน การก่อสร้างอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก รวมถึงการลงทุนด้านที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ยังควรพิจารณาปัจจัยทางเศรษฐกิจที่มีอิทธิพลต่อการผลิตภาคก่อสร้าง ได้แก่ อัตราดอกเบี้ย ความเข้มงวดในการขอสินเชื่อสำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ราคาวัสดุก่อสร้าง อัตราการจ้างงานในภาคก่อสร้าง รวมไปถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น การแข่งขันในอุตสาหกรรม การเปลี่ยนแปลงของกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าอัตราดอกเบี้ยต่ำ มักจะเป็นการกระตุ้นให้มีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น เนื่องจากต้นทุนของเงินที่ถูกกว่า แต่ในกรณีที่เกิดการขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้าง อาจทำให้ต้นทุนการก่อสร้างเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์อาจชะลอการลงทุนใหม่ๆ ทิศทางของการผลิตภาคก่อสร้างยังสามารถเสริมสร้างความเข้าใจในส่วนของพฤติกรรมผู้บริโภค ที่จะสามารถประเมินได้ว่าผู้บริโภคมีการใช้จ่ายในการสร้างหรือปรับปรุงที่อยู่อาศัยอย่างไร และการที่จะทำให้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ จำเป็นที่จะต้องใช้ข้อมูลทางเศรษฐกิจที่น่าเชื่อถือ และการวิเคราะห์เชิงลึกที่ครบถ้วน เว็บไซต์ Eulerpool ในฐานะที่เป็นแหล่งข้อมูลที่อัพเดตและเชื่อถือได้ เรามุ่งหวังที่จะนำเสนอข้อมูลการผลิตภาคก่อสร้างที่มีความละเอียดและทันสมัย ในลักษณะที่ง่ายต่อการเข้าใจและนำไปใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นสำหรับการวิเคราะห์ตลาด แผนการลงทุน หรือแม้กระทั่งการวางแผนกลยุทธ์ในระดับองค์กร ในการติดตามข้อมูลการผลิตภาคก่อสร้าง ควรให้ความสำคัญกับการเปรียบเทียบระหว่างช่วงเวลา สามารถดูการเปลี่ยนแปลงในระยะสั้นเช่นรายเดือน รายไตรมาส เพื่อเข้าใจแนวโน้มปัจจุบัน และการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว เช่น รายปี เพื่อให้เห็นภาพรวมที่สมบูรณ์และยั่งยืนมากขึ้น นอกจากนี้ การเปรียบเทียบกับดัชนีอื่นๆ เช่น ดัชนีการลงทุนในภาคเอกชน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค จะช่วยให้เราเห็นภาพรวมทั้งหมดของเศรษฐกิจและสามารถทำการวิเคราะห์ได้อย่างครบถ้วน สรุปแล้ว การทำความเข้าใจและติดตามข้อมูลการผลิตภาคก่อสร้างเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเศรษฐกิจควรให้ความสำคัญ ไม่เพียงแต่มันจะช่วยให้เราเข้าใจการเปลี่ยนแปลงในภาคอุตสาหกรรมนี้เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการประเมินสถานการณ์และการวางแผนการลงทุนในระดับต่างๆ เว็บไซต์ Eulerpool พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการนี้ ด้วยการจัดหาข้อมูลที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้ เพื่อเสริมสร้างความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในอนาคต