ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร เวียดนาม เงินเฟ้ออาหาร
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของเงินเฟ้ออาหารในเวียดนามคือ4.47% เงินเฟ้ออาหารในเวียดนามเพิ่มขึ้นเป็น4.47%เมื่อวันที่1/5/2567 หลังจากเคยเป็น4.32%เมื่อวันที่1/4/2567 ตั้งแต่1/2/2547ถึง1/6/2567 GDP เฉลี่ยในเวียดนามอยู่ที่8.2% ค่า GDP สูงสุดตลอดกาลถูกทำสถิติเมื่อวันที่1/6/2551ที่74.29% ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อวันที่1/7/2552ที่-10.12%
เงินเฟ้ออาหาร ·
แม็กซ์
เงินเฟ้อด้านอาหาร | |
---|---|
1/2/2547 | 3.7 % |
1/6/2547 | 16.2 % |
1/7/2547 | 17.3 % |
1/8/2547 | 18.1 % |
1/9/2547 | 18.6 % |
1/10/2547 | 17.7 % |
1/11/2547 | 15.3 % |
1/12/2547 | 14.3 % |
1/1/2548 | 13.5 % |
1/2/2548 | 14.6 % |
1/3/2548 | 12.6 % |
1/4/2548 | 11.2 % |
1/5/2548 | 8.9 % |
1/6/2548 | 7.8 % |
1/7/2548 | 7.5 % |
1/8/2548 | 6.7 % |
1/9/2548 | 6.4 % |
1/10/2548 | 7.4 % |
1/11/2548 | 7.8 % |
1/12/2548 | 7.8 % |
1/1/2549 | 8.7 % |
1/2/2549 | 7.8 % |
1/3/2549 | 7 % |
1/4/2549 | 6.8 % |
1/5/2549 | 6.9 % |
1/6/2549 | 7.7 % |
1/7/2549 | 8.7 % |
1/8/2549 | 9.2 % |
1/9/2549 | 9.2 % |
1/10/2549 | 9.9 % |
1/11/2549 | 12.9 % |
1/12/2549 | 14.1 % |
1/1/2550 | 13.78 % |
1/2/2550 | 15 % |
1/3/2550 | 14.7 % |
1/4/2550 | 14.3 % |
1/5/2550 | 14.6 % |
1/6/2550 | 14.86 % |
1/7/2550 | 15.03 % |
1/8/2550 | 15.68 % |
1/9/2550 | 16.21 % |
1/10/2550 | 15.98 % |
1/11/2550 | 14.74 % |
1/12/2550 | 15.4 % |
1/1/2551 | 17.15 % |
1/2/2551 | 17.71 % |
1/3/2551 | 30.14 % |
1/4/2551 | 38.21 % |
1/5/2551 | 67.84 % |
1/6/2551 | 74.29 % |
1/7/2551 | 72.72 % |
1/8/2551 | 69.36 % |
1/9/2551 | 64.99 % |
1/10/2551 | 60.06 % |
1/11/2551 | 51.08 % |
1/12/2551 | 43.25 % |
1/1/2552 | 38.55 % |
1/2/2552 | 35.29 % |
1/3/2552 | 23.99 % |
1/4/2552 | 16.88 % |
1/12/2552 | 7.54 % |
1/1/2553 | 12.33 % |
1/2/2553 | 14.69 % |
1/3/2553 | 12.24 % |
1/4/2553 | 10.06 % |
1/5/2553 | 9.04 % |
1/6/2553 | 9.34 % |
1/7/2553 | 9.28 % |
1/8/2553 | 10.48 % |
1/9/2553 | 14.01 % |
1/10/2553 | 16.13 % |
1/11/2553 | 20.45 % |
1/12/2553 | 17.96 % |
1/1/2554 | 15.55 % |
1/2/2554 | 13.95 % |
1/3/2554 | 17.49 % |
1/4/2554 | 22.74 % |
1/5/2554 | 26.54 % |
1/6/2554 | 28.02 % |
1/7/2554 | 27.88 % |
1/8/2554 | 27.87 % |
1/9/2554 | 26.88 % |
1/10/2554 | 26.11 % |
1/11/2554 | 22.82 % |
1/12/2554 | 18.98 % |
1/1/2555 | 16.16 % |
1/2/2555 | 13.97 % |
1/3/2555 | 10.19 % |
1/4/2555 | 5.71 % |
1/5/2555 | 3.31 % |
1/6/2555 | 2.17 % |
1/7/2555 | 1.54 % |
1/8/2555 | 0.64 % |
1/11/2556 | 0.88 % |
1/12/2556 | 1.98 % |
1/1/2557 | 3.33 % |
1/2/2557 | 3.5 % |
1/3/2557 | 3.97 % |
1/4/2557 | 4.6 % |
1/5/2557 | 4.79 % |
1/6/2557 | 4.99 % |
1/7/2557 | 4.65 % |
1/8/2557 | 4.39 % |
1/9/2557 | 4.32 % |
1/10/2557 | 3.59 % |
1/11/2557 | 2.39 % |
1/12/2557 | 1.3 % |
1/4/2559 | 1.21 % |
1/5/2559 | 2.36 % |
1/6/2559 | 2.75 % |
1/7/2559 | 2.48 % |
1/8/2559 | 2.29 % |
1/9/2559 | 2.7 % |
1/10/2559 | 2.9 % |
1/11/2559 | 2.8 % |
1/12/2559 | 2.57 % |
1/1/2560 | 2.57 % |
1/2/2560 | 2.15 % |
1/3/2560 | 2.08 % |
1/4/2560 | 1.11 % |
1/5/2560 | 0.37 % |
1/6/2560 | 0.09 % |
1/7/2560 | 0.66 % |
1/8/2560 | 1.33 % |
1/9/2560 | 1.31 % |
1/10/2560 | 1.86 % |
1/11/2560 | 2.78 % |
1/12/2560 | 3.12 % |
1/1/2561 | 3.11 % |
1/2/2561 | 4.33 % |
1/3/2561 | 4.54 % |
1/4/2561 | 4.5 % |
1/5/2561 | 4.6 % |
1/6/2561 | 4.67 % |
1/7/2561 | 3.78 % |
1/8/2561 | 3.56 % |
1/9/2561 | 3.71 % |
1/10/2561 | 3.28 % |
1/11/2561 | 2.41 % |
1/12/2561 | 3.71 % |
1/1/2562 | 2.06 % |
1/2/2562 | 1.15 % |
1/3/2562 | 0.24 % |
1/7/2562 | 0.41 % |
1/8/2562 | 0.62 % |
1/9/2562 | 0.64 % |
1/10/2562 | 0.54 % |
1/11/2562 | 0.53 % |
1/12/2562 | 0.82 % |
1/1/2563 | 1.1 % |
1/2/2563 | 0.88 % |
1/3/2563 | 2.55 % |
1/4/2563 | 5.1 % |
1/5/2563 | 5.41 % |
1/6/2563 | 5.34 % |
1/7/2563 | 5.08 % |
1/8/2563 | 5.38 % |
1/9/2563 | 5.62 % |
1/10/2563 | 5.74 % |
1/11/2563 | 6.08 % |
1/12/2563 | 6.07 % |
1/1/2564 | 6.1 % |
1/2/2564 | 7.64 % |
1/3/2564 | 6.49 % |
1/4/2564 | 4.29 % |
1/5/2564 | 4.28 % |
1/6/2564 | 4.41 % |
1/7/2564 | 5 % |
1/8/2564 | 5.09 % |
1/9/2564 | 4.66 % |
1/10/2564 | 4.31 % |
1/11/2564 | 3.94 % |
1/12/2564 | 3.86 % |
1/1/2565 | 3.1 % |
1/2/2565 | 1.66 % |
1/3/2565 | 1.82 % |
1/4/2565 | 2.05 % |
1/5/2565 | 2.42 % |
1/6/2565 | 2.87 % |
1/7/2565 | 2.82 % |
1/8/2565 | 2.31 % |
1/9/2565 | 2.1 % |
1/10/2565 | 2.41 % |
1/11/2565 | 2.79 % |
1/12/2565 | 2.91 % |
1/1/2566 | 3.74 % |
1/2/2566 | 3.64 % |
1/3/2566 | 3.75 % |
1/4/2566 | 3.84 % |
1/5/2566 | 3.85 % |
1/6/2566 | 3.78 % |
1/7/2566 | 3.79 % |
1/8/2566 | 6.99 % |
1/9/2566 | 2.87 % |
1/10/2566 | 2.81 % |
1/11/2566 | 2.98 % |
1/12/2566 | 2.93 % |
1/1/2567 | 2.31 % |
1/2/2567 | 4.23 % |
1/3/2567 | 4.05 % |
1/4/2567 | 4.32 % |
1/5/2567 | 4.47 % |
เงินเฟ้ออาหาร ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/5/2567 | 4.47 % |
1/4/2567 | 4.32 % |
1/3/2567 | 4.05 % |
1/2/2567 | 4.23 % |
1/1/2567 | 2.31 % |
1/12/2566 | 2.93 % |
1/11/2566 | 2.98 % |
1/10/2566 | 2.81 % |
1/9/2566 | 2.87 % |
1/8/2566 | 6.99 % |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ เงินเฟ้ออาหาร
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇻🇳 CPI Transport | 110.11 points | 112.66 points | รายเดือน |
🇻🇳 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) | 115.39 points | 115.2 points | รายเดือน |
🇻🇳 ต้นทุนการผลิต | 99.44 points | 99.47 points | ควอร์เตอร์ |
🇻🇳 ตัวคูณ GDP | 171.54 points | 165.17 points | ประจำปี |
🇻🇳 ราคานำเข้า | 91.1 points | 107.8 points | ประจำปี |
🇻🇳 ราคาส่งออก | 95.6 points | 110.5 points | ประจำปี |
🇻🇳 อัตราเงินเฟ้อ | 4.34 % | 4.44 % | รายเดือน |
🇻🇳 อัตราเงินเฟ้อ MoM | 0.17 % | 0.05 % | รายเดือน |
🇻🇳 อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน | -0.64 % | 0.98 % | ควอร์เตอร์ |
🇻🇳 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน | 2.61 % | 2.68 % | รายเดือน |
🇻🇳 อัตราเงินเฟ้อหลัก MoM | 0.15 % | 0.17 % | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร เงินเฟ้ออาหาร
ฟู้ดอินเฟลชัน หรืออัตราเงินเฟ้อในภาคอาหาร เป็นประเด็นที่มีความสำคัญในด้านเศรษฐกิจมหภาค (Macroeconomics) โดยเฉพาะในเว็บไซต์แบบมืออาชีพอย่าง Eulerpool ซึ่งเรามุ่งเน้นการแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ถูกต้องและทันสมัย ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจและวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ในบทความนี้ เราจะแนะนำและอธิบายถึงฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยอย่างละเอียด เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ฟู้ดอินเฟลชัน หมายถึงการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการในภาคอาหารเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นผลมาจากหลายปัจจัย รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง การเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) การขาดแคลนวัตถุดิบ ภัยธรรมชาติ และการปรับตัวของกำลังการผลิต อุปสงค์และอุปทานในตลาด เป็นที่รู้กันดีว่าภาคอาหารมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักในการวัดฟู้ดอินเฟลชัน ดังนั้น อัตราการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการในหมวดอาหารจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อระดับราคาสินค้าและบริการทั้งหมดในสังคม หน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ติดตามและรายงานฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยคือตารางดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเผยแพร่โดยกระทรวงพาณิชย์ โดยอีกส่วนหนึ่งของข้อมูลนั้นยังมาจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (National Statistical Office) ซึ่งเน้นการรวบรวมข้อมูลและทำการวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ การวัดอัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารจะใช้สถิติจากหลายหมวดหมู่ ยกตัวอย่างเช่น ราคาข้าวและเมล็ดพืช ราคาผักและผลไม้ และราคาผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เป็นต้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุมาจากปัจจัยหลายประการ เช่น ภัยธรรมชาติที่ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง ปัญหาการขนส่งสินค้า การเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบที่นำเข้า และการปรับตัวของระบบซับพลายเชน (Supply Chain) ในภาคอาหาร ยกตัวอย่างเช่น ปีที่ผ่านมา ราคาข้าวที่เป็นสินค้าที่มีความสำคัญในชีวิตประจำวันของคนไทย ได้เพิ่มขึ้นกว่า 10% เนื่องจากปัญหาการเก็บเกี่ยวที่ไม่สมบูรณ์และการลดลงของพื้นที่เพาะปลูก ขณะเดียวกัน ราคาผักและผลไม้ก็เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7-8% เนื่องจากภาวะภัยแล้งและอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ ปัญหาฟู้ดอินเฟลชันมีผลกระทบต่อทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิต ฝ่ายผู้บริโภคมักจะพบกับการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาสินค้าในภาคอาหารเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องปรับการใช้ชีวิตและการตัดสินใจในการจับจ่ายใช้สอย ขณะเดียวกัน ฝ่ายผู้ผลิตก็ต้องเผชิญกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งอาจะทำให้พวกเขาต้องหาวิธีการลดต้นทุนหรือปรับตัวในการผลิตเพื่อความอยู่รอด ความสำคัญของการติดตามและวิเคราะห์อัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารจึงไม่สามารถมองข้ามได้ เนื่องจากมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ในการติดตามฟู้ดอินเฟลชัน หน่วยงานต่างๆ และภาคธุรกิจมักใช้เครื่องมือและดัชนีต่างๆ เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดทั่วไปที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ในดัชนีนี้ มีการแบ่งแยกข้อมูลเป็นหมวดหมู่อย่างละเอียด เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ยารักษาโรค เสื้อผ้า และเครื่องพักอาศัย ซึ่งหมวดอาหารก็จะมีการรายงานแยกย่อยเพิ่มเติม เพื่อให้เห็นความแปรปรวนของราคาที่ชัดเจนขึ้น การเข้าใจฟู้ดอินเฟลชันยังเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายการเงินและการคลังของประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับเงินเฟ้อ โดยการปรับนโยบายดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน และการใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การทราบข้อมูลเกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันจึงเป็นส่วนสำคัญในการทำให้การดำเนินนโยบายมีประสิทธิภาพ สุดท้ายนี้ ความรู้เกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันยังเป็นประโยชน์ต่อบุคคลทั่วไปโดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับความไม่แน่นอน การทราบถึงสาเหตุและผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารสามารถช่วยให้คุณสามารถรับมือและวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยเป็นหัวข้อที่ต้องการความสนใจและการวิเคราะห์อย่างละเอียด ด้วยความสำคัญที่มีผลกระทบต่อทั้งภาพรวมเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน การเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันจะช่วยให้คุณสามารถประเมินสถานการณ์และเตรียมตัวในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ดีขึ้น ทาง Eulerpool เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เป็นที่น้ำหนึงใจเดียวกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ