ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇳🇿

นิวซีแลนด์ ดุลการค้า

ราคา

476 ล้าน NZD
การเปลี่ยนแปลง +/-
+434.38 ล้าน NZD
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+167.84 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน นิวซีแลนด์ คือ 476 ล้าน NZD ดุลการค้าใน นิวซีแลนด์ เพิ่มขึ้นเป็น 476 ล้าน NZD เมื่อ 1/3/2567 หลังจากที่เป็น 41.62 ล้าน NZD เมื่อ 1/5/2566 จาก 1/1/2494 ถึง 1/5/2567 GDP เฉลี่ยใน นิวซีแลนด์ คือ -97.35 ล้าน NZD มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถึงเมื่อ 1/4/2563 โดยมีมูลค่า 1.37 ล้านล้าน NZD ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/8/2565 โดยมีมูลค่า -2.63 ล้านล้าน NZD

แหล่งที่มา: Statistics New Zealand

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/3/2567476 ล้าน NZD
1/5/256641.62 ล้าน NZD
1/4/2566220.85 ล้าน NZD
1/5/2565148.26 ล้าน NZD
1/4/2565469.5 ล้าน NZD
1/6/2564442.11 ล้าน NZD
1/5/2564404.94 ล้าน NZD
1/4/2564557.91 ล้าน NZD
1/2/2564449.85 ล้าน NZD
1/12/2563230.07 ล้าน NZD
1
2
3
4
5
...
45

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇳🇿
กระแสเงินทุน
12.632 ล้านล้าน NZD5.757 ล้านล้าน NZDควอร์เตอร์
🇳🇿
การขายอาวุธ
20 ล้าน SIPRI TIV29 ล้าน SIPRI TIVประจำปี
🇳🇿
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
2.783 ล้านล้าน NZD1.769 ล้านล้าน NZDควอร์เตอร์
🇳🇿
เงื่อนไขการซื้อขาย
1,365 points1,300 pointsควอร์เตอร์
🇳🇿
ดัชนีการก่อการร้าย
1.947 Points3.776 Pointsประจำปี
🇳🇿
ดัชนีราคาการค้านมระดับโลก
0.5 %0.4 %frequency_weekly
🇳🇿
นำเข้า
5.47 ล้านล้าน NZD6.94 ล้านล้าน NZDรายเดือน
🇳🇿
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
-4.36 ล้านล้าน NZD-7.975 ล้านล้าน NZDควอร์เตอร์
🇳🇿
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
185,300 179,700 รายเดือน
🇳🇿
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
-6.9 % of GDP-8.8 % of GDPประจำปี
🇳🇿
รายได้จากการท่องเที่ยว
3.662 ล้านล้าน NZD2.864 ล้านล้าน NZDควอร์เตอร์
🇳🇿
ส่งออก
7.16 ล้านล้าน NZD6.31 ล้านล้าน NZDรายเดือน
🇳🇿
หนี้สินต่างประเทศ
352.682 ล้านล้าน NZD343.073 ล้านล้าน NZDควอร์เตอร์

นิวซีแลนด์พึ่งพาการค้าระหว่างประเทศอย่างมาก เศรษฐกิจของนิวซีแลนด์มีพื้นฐานมาจากการส่งออกผลิตภัณฑ์จากระบบเกษตรที่มีประสิทธิภาพสูง: ผลิตภัณฑ์นม, เนื้อสัตว์, ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้, ผลไม้ และเครื่องดื่ม นิวซีแลนด์นำเข้าสินค้าหลักๆ เช่น ยานพาหนะ, เครื่องจักรและอุปกรณ์, ปิโตรเลียม, อิเลคทรอนิกส์, พลาสติก และเครื่องบิน พันธมิตรการค้าหลักของนิวซีแลนด์ ได้แก่ จีน, ออสเตรเลีย, สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว