ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร อุรุกวัย ดุลการค้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน อุรุกวัย คือ 86.987 ล้าน USD ดุลการค้าใน อุรุกวัย ลดลงไปที่ 86.987 ล้าน USD ในวันที่ 1/8/2565 หลังจากที่เป็น 222.678 ล้าน USD ในวันที่ 1/7/2565 ตั้งแต่ 1/1/2536 ถึง 1/5/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน อุรุกวัย คือ -74.79 ล้าน USD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/6/2565 ด้วยค่า 287.35 ล้าน USD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/1/2557 ด้วยค่า -423.35 ล้าน USD
ดุลการค้า ·
แม็กซ์
ยอดการค้า | |
---|---|
1/4/2536 | 5.76 ล้าน USD |
1/1/2538 | 4.28 ล้าน USD |
1/3/2545 | 6.9 ล้าน USD |
1/6/2545 | 26.39 ล้าน USD |
1/7/2545 | 8.03 ล้าน USD |
1/8/2545 | 22.4 ล้าน USD |
1/9/2545 | 13.14 ล้าน USD |
1/10/2545 | 224,000 USD |
1/11/2545 | 24.89 ล้าน USD |
1/12/2545 | 31.8 ล้าน USD |
1/3/2546 | 41.22 ล้าน USD |
1/4/2546 | 3.83 ล้าน USD |
1/5/2546 | 9.05 ล้าน USD |
1/6/2546 | 79.13 ล้าน USD |
1/7/2546 | 33.08 ล้าน USD |
1/9/2546 | 3.29 ล้าน USD |
1/10/2546 | 25.7 ล้าน USD |
1/12/2546 | 9.35 ล้าน USD |
1/3/2547 | 11.43 ล้าน USD |
1/5/2547 | 14.72 ล้าน USD |
1/6/2547 | 46.27 ล้าน USD |
1/7/2547 | 1.23 ล้าน USD |
1/9/2547 | 68.35 ล้าน USD |
1/10/2547 | 10.37 ล้าน USD |
1/5/2548 | 48.95 ล้าน USD |
1/6/2548 | 22.77 ล้าน USD |
1/7/2548 | 28.65 ล้าน USD |
1/5/2549 | 58.26 ล้าน USD |
1/6/2549 | 2.66 ล้าน USD |
1/9/2549 | 28.5 ล้าน USD |
1/12/2549 | 17.01 ล้าน USD |
1/6/2550 | 36.9 ล้าน USD |
1/7/2551 | 67.08 ล้าน USD |
1/5/2552 | 65.67 ล้าน USD |
1/5/2553 | 16.01 ล้าน USD |
1/6/2553 | 21.21 ล้าน USD |
1/5/2556 | 34.61 ล้าน USD |
1/6/2556 | 226.2 ล้าน USD |
1/5/2557 | 108.7 ล้าน USD |
1/6/2557 | 126.5 ล้าน USD |
1/7/2557 | 164.9 ล้าน USD |
1/8/2557 | 25.94 ล้าน USD |
1/4/2558 | 421,000 USD |
1/5/2558 | 211.51 ล้าน USD |
1/8/2558 | 90.18 ล้าน USD |
1/5/2559 | 41.53 ล้าน USD |
1/6/2559 | 207.19 ล้าน USD |
1/7/2559 | 143.25 ล้าน USD |
1/5/2560 | 141.89 ล้าน USD |
1/6/2560 | 198.42 ล้าน USD |
1/7/2560 | 154.56 ล้าน USD |
1/9/2560 | 65.4 ล้าน USD |
1/6/2561 | 111.3 ล้าน USD |
1/11/2561 | 62.78 ล้าน USD |
1/3/2562 | 3.37 ล้าน USD |
1/5/2562 | 72.79 ล้าน USD |
1/6/2562 | 61.95 ล้าน USD |
1/7/2562 | 15.42 ล้าน USD |
1/8/2562 | 34 ล้าน USD |
1/5/2563 | 91.13 ล้าน USD |
1/6/2563 | 106.25 ล้าน USD |
1/8/2563 | 123.08 ล้าน USD |
1/9/2563 | 30.81 ล้าน USD |
1/10/2563 | 77.38 ล้าน USD |
1/2/2564 | 4.7 ล้าน USD |
1/5/2564 | 24.89 ล้าน USD |
1/6/2564 | 68.98 ล้าน USD |
1/7/2564 | 76.43 ล้าน USD |
1/8/2564 | 170.11 ล้าน USD |
1/10/2564 | 32.45 ล้าน USD |
1/5/2565 | 200.27 ล้าน USD |
1/6/2565 | 287.35 ล้าน USD |
1/7/2565 | 222.68 ล้าน USD |
1/8/2565 | 86.99 ล้าน USD |
ดุลการค้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/8/2565 | 86.987 ล้าน USD |
1/7/2565 | 222.678 ล้าน USD |
1/6/2565 | 287.348 ล้าน USD |
1/5/2565 | 200.272 ล้าน USD |
1/10/2564 | 32.447 ล้าน USD |
1/8/2564 | 170.114 ล้าน USD |
1/7/2564 | 76.429 ล้าน USD |
1/6/2564 | 68.978 ล้าน USD |
1/5/2564 | 24.893 ล้าน USD |
1/2/2564 | 4.704 ล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇺🇾 กระแสเงินทุน | 464 ล้าน USD | 916 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇺🇾 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | 69 ล้าน USD | 2.046 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇺🇾 ดัชนีการก่อการร้าย | 0.114 Points | 0.826 Points | ประจำปี |
🇺🇾 ทองคำสำรอง | 0.1 Tonnes | 0.1 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇺🇾 นำเข้า | 900.421 ล้าน USD | 861.178 ล้าน USD | รายเดือน |
🇺🇾 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | 51 ล้าน USD | -368 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇺🇾 ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า | 583.821 | 1.135 ล้าน | ควอร์เตอร์ |
🇺🇾 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | -4.7 % of GDP | -3.9 % of GDP | ประจำปี |
🇺🇾 รายได้จากการท่องเที่ยว | 289.835 ล้าน USD | 710.609 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇺🇾 ส่งออก | 701.653 ล้าน USD | 721.095 ล้าน USD | รายเดือน |
🇺🇾 หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี | 46.2 % of GDP | 47.9 % of GDP | ประจำปี |
🇺🇾 หนี้สินต่างประเทศ | 47.395 ล้านล้าน USD | 48.739 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
อุรุกวัยส่งออกสินค้าส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์การเกษตร โดยสินค้าปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์คิดเป็น 41% ของการส่งออกทั้งหมด และผลิตภัณฑ์จากพืชคิดเป็น 22% ของการส่งออก ยอดนำเข้าส่วนใหญ่ได้แก่ ผลิตภัณฑ์แร่ (18% ของการนำเข้าทั้งหมด) เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า (16%) ผลิตภัณฑ์เคมีและอุตสาหกรรม (16%) และอุปกรณ์การขนส่ง (11%) คู่ค้าหลักได้แก่ จีน (27% ของการส่งออกทั้งหมดและ 18% ของการนำเข้า) บราซิล (17% ของการส่งออกทั้งหมดและ 20% ของการนำเข้า) สหรัฐอเมริกา (6% ของการส่งออกและ 13% ของการนำเข้า) และอาร์เจนตินา (6% ของการส่งออกและ 12% ของการนำเข้า) ประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้แก่ เนเธอร์แลนด์ โบลิเวีย ชิลี และเม็กซิโก
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน อเมริกา
- 🇦🇷อาร์เจนตินา
- 🇦🇼อารูบา
- 🇧🇸บาฮามาส
- 🇧🇧บาร์เบโดส
- 🇧🇿เบลิซ
- 🇧🇲เบอร์มิวดา
- 🇧🇴โบลิเวีย
- 🇧🇷บราซิล
- 🇨🇦แคนาดา
- 🇰🇾หมู่เกาะเคย์แมน
- 🇨🇱ชิลี
- 🇨🇴โคลอมเบีย
- 🇨🇷คอสตาริกา
- 🇨🇺คิวบา
- 🇩🇴สาธารณรัฐโดมินิกัน
- 🇪🇨เอกวาดอร์
- 🇸🇻เอลซัลวาดอร์
- 🇬🇹กัวเตมาลา
- 🇬🇾กายอานา
- 🇭🇹ไฮติ
- 🇭🇳ฮอนดูรัส
- 🇯🇲จาไมก้า
- 🇲🇽เม็กซิโก
- 🇳🇮นิการากัว
- 🇵🇦ปานามา
- 🇵🇾ปารากวัย
- 🇵🇪เปรู
- 🇵🇷เปอร์โตริโก
- 🇸🇷ซูรินาม
- 🇹🇹ตรินิแดดและโตเบโก
- 🇺🇸สหรัฐอเมริกา
- 🇻🇪เวเนซุเอลา
- 🇦🇬แอนติกาและบาร์บูดา
- 🇩🇲โดมินิกา
- 🇬🇩เกรนาดา
คืออะไร ดุลการค้า
ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว