ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇺🇾

อุรุกวัย ดุลการค้า

ราคา

86.987 ล้าน USD
การเปลี่ยนแปลง +/-
-135.691 ล้าน USD
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-87.64 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน อุรุกวัย คือ 86.987 ล้าน USD ดุลการค้าใน อุรุกวัย ลดลงไปที่ 86.987 ล้าน USD ในวันที่ 1/8/2565 หลังจากที่เป็น 222.678 ล้าน USD ในวันที่ 1/7/2565 ตั้งแต่ 1/1/2536 ถึง 1/5/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน อุรุกวัย คือ -74.79 ล้าน USD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/6/2565 ด้วยค่า 287.35 ล้าน USD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/1/2557 ด้วยค่า -423.35 ล้าน USD

แหล่งที่มา: Banco Central del Uruguay

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/8/256586.987 ล้าน USD
1/7/2565222.678 ล้าน USD
1/6/2565287.348 ล้าน USD
1/5/2565200.272 ล้าน USD
1/10/256432.447 ล้าน USD
1/8/2564170.114 ล้าน USD
1/7/256476.429 ล้าน USD
1/6/256468.978 ล้าน USD
1/5/256424.893 ล้าน USD
1/2/25644.704 ล้าน USD
1
2
3
4
5
...
8

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇺🇾
กระแสเงินทุน
464 ล้าน USD916 ล้าน USDควอร์เตอร์
🇺🇾
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
69 ล้าน USD2.046 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇺🇾
ดัชนีการก่อการร้าย
0.114 Points0.826 Pointsประจำปี
🇺🇾
ทองคำสำรอง
0.1 Tonnes0.1 Tonnesควอร์เตอร์
🇺🇾
นำเข้า
900.421 ล้าน USD861.178 ล้าน USDรายเดือน
🇺🇾
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
51 ล้าน USD-368 ล้าน USDควอร์เตอร์
🇺🇾
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
583.821 1.135 ล้าน ควอร์เตอร์
🇺🇾
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
-4.7 % of GDP-3.9 % of GDPประจำปี
🇺🇾
รายได้จากการท่องเที่ยว
289.835 ล้าน USD710.609 ล้าน USDควอร์เตอร์
🇺🇾
ส่งออก
701.653 ล้าน USD721.095 ล้าน USDรายเดือน
🇺🇾
หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี
46.2 % of GDP47.9 % of GDPประจำปี
🇺🇾
หนี้สินต่างประเทศ
47.395 ล้านล้าน USD48.739 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์

อุรุกวัยส่งออกสินค้าส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์การเกษตร โดยสินค้าปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์คิดเป็น 41% ของการส่งออกทั้งหมด และผลิตภัณฑ์จากพืชคิดเป็น 22% ของการส่งออก ยอดนำเข้าส่วนใหญ่ได้แก่ ผลิตภัณฑ์แร่ (18% ของการนำเข้าทั้งหมด) เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า (16%) ผลิตภัณฑ์เคมีและอุตสาหกรรม (16%) และอุปกรณ์การขนส่ง (11%) คู่ค้าหลักได้แก่ จีน (27% ของการส่งออกทั้งหมดและ 18% ของการนำเข้า) บราซิล (17% ของการส่งออกทั้งหมดและ 20% ของการนำเข้า) สหรัฐอเมริกา (6% ของการส่งออกและ 13% ของการนำเข้า) และอาร์เจนตินา (6% ของการส่งออกและ 12% ของการนำเข้า) ประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้แก่ เนเธอร์แลนด์ โบลิเวีย ชิลี และเม็กซิโก

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว