ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
fair value · 20 million securities worldwide · 50 year history · 10 year estimates · leading business news

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇨🇿

สาธารณรัฐเช็ก อัตราเงินเฟ้อ

ราคา

2.9 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
+0.9 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+36.73 %

ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน สาธารณรัฐเช็ก คือ 2.9 %. อัตราเงินเฟ้อ ใน สาธารณรัฐเช็ก เพิ่มขึ้นเป็น 2.9 % เมื่อ 1/4/2567 หลังจากที่เคยเป็น 2 % เมื่อ 1/3/2567. จาก 1/1/2536 ถึง 1/5/2567, GDP เฉลี่ยใน สาธารณรัฐเช็ก คือ 4.74 %. ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/2/2536 ที่ 21.9 % ขณะที่ค่าต่ำสุดเกิดขึ้นเมื่อ 1/1/2546 ที่ -0.4 %.

แหล่งที่มา: Czech Statistical Office

อัตราเงินเฟ้อ

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/25672.9 %
1/3/25672 %
1/2/25672 %
1/1/25672.3 %
1/12/25666.9 %
1/11/25667.3 %
1/10/25668.5 %
1/9/25666.9 %
1/8/25668.5 %
1/7/25668.8 %
1
2
3
4
5
...
37

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇨🇿
CPI Transport
137.7 points138.5 pointsรายเดือน
🇨🇿
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
1 %1.4 %รายเดือน
🇨🇿
ความคาดหวังเงินเฟ้อ
2.9 %2.7 %ควอร์เตอร์
🇨🇿
เงินเฟ้อด้านอาหาร
-3.1 %-4.2 %รายเดือน
🇨🇿
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
152 points151 pointsรายเดือน
🇨🇿
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับเทียบแล้ว
152 points152.1 pointsรายเดือน
🇨🇿
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
168.3 points168.1 pointsรายเดือน
🇨🇿
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน
100.1 points100.1 pointsรายเดือน
🇨🇿
ต้นทุนการผลิต
145 points146.7 pointsรายเดือน
🇨🇿
ตัวคูณ GDP
141.1 points139.5 pointsควอร์เตอร์
🇨🇿
ราคานำเข้า
113.9 points113.5 pointsรายเดือน
🇨🇿
ราคาส่งออก
118.9 points120.5 pointsรายเดือน
🇨🇿
อัตราเงินเฟ้อ MoM
0.7 %-0.3 %รายเดือน
🇨🇿
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากัน YoY
2.8 %3.1 %รายเดือน
🇨🇿
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากันรายเดือน
-0.3 %-0.1 %รายเดือน
🇨🇿
อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน
-0.3 %-1.2 %รายเดือน
🇨🇿
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
2.152 %2.537 %รายเดือน

ในสาธารณรัฐเช็ก หมวดหมู่ที่สำคัญที่สุดในดัชนีราคาผู้บริโภคคือ การเคหะและสาธารณูปโภค (27 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักรวม) อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์คิดเป็น 18 เปอร์เซ็นต์ การขนส่งคิดเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบคิดเป็น 9 เปอร์เซ็นต์ การพักผ่อนและวัฒนธรรมคิดเป็น 8 เปอร์เซ็นต์ และสินค้าและบริการเบ็ดเตล็ดคิดเป็น 6 เปอร์เซ็นต์ เฟอร์นิเจอร์, ของใช้ในครัวเรือนและการบำรุงรักษา; ร้านอาหารและโรงแรม; เสื้อผ้าและรองเท้า; การสื่อสาร; สุขภาพและการศึกษา คิดเป็นส่วนที่เหลืออีก 27 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักรวม

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ