ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇹🇷

ตุรกี ดุลการค้า

ราคา

187.981 ล้าน USD
การเปลี่ยนแปลง +/-
+184.378 ล้าน USD
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+192.48 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน ตุรกี คือ 187.981 ล้าน USD ดุลการค้าใน ตุรกี เพิ่มขึ้นเป็น 187.981 ล้าน USD เมื่อ 1/10/2561 หลังจากที่เป็น 3.603 ล้าน USD เมื่อ 1/1/2515 จาก 1/1/2500 ถึง 1/5/2567 GDP เฉลี่ยใน ตุรกี คือ -2.03 ล้านล้าน USD มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถึงเมื่อ 1/10/2561 โดยมีมูลค่า 187.98 ล้าน USD ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/1/2566 โดยมีมูลค่า -14.29 ล้านล้าน USD

แหล่งที่มา: Turkish Statistical Institute

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/10/2561187.981 ล้าน USD
1/1/25153.603 ล้าน USD
1/12/251424.508 ล้าน USD
1/11/251412.245 ล้าน USD
1/11/25134.275 ล้าน USD
1/10/251312.891 ล้าน USD
1/10/25124.022 ล้าน USD
1/10/2511800,000 USD
1/1/25116.7 ล้าน USD
1/12/251013.5 ล้าน USD
1
2
3
4

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇹🇷
กระแสเงินทุน
630 ล้าน USD1.573 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇹🇷
การขายอาวุธ
609 ล้าน SIPRI TIV535 ล้าน SIPRI TIVประจำปี
🇹🇷
การผลิตน้ำมันดิบ
97 BBL/D/1K94 BBL/D/1Kรายเดือน
🇹🇷
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
561 ล้าน USD590 ล้าน USDรายเดือน
🇹🇷
การโอนเงิน
8 ล้าน USD8 ล้าน USDรายเดือน
🇹🇷
เงื่อนไขการซื้อขาย
88.26 points88.06 pointsรายเดือน
🇹🇷
ดัชนีการก่อการร้าย
4.168 Points5.6 Pointsประจำปี
🇹🇷
ทองคำสำรอง
584.93 Tonnes570.3 Tonnesควอร์เตอร์
🇹🇷
นำเข้า
30.568 ล้านล้าน USD29.145 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇹🇷
นำเข้าก๊าซธรรมชาติ
129,372.334 Terajoule149,099.47 Terajouleรายเดือน
🇹🇷
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
4.324 ล้านล้าน USD778 ล้าน USDรายเดือน
🇹🇷
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
6.054 ล้าน 6.825 ล้าน รายเดือน
🇹🇷
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
-4 % of GDP-5.1 % of GDPประจำปี
🇹🇷
รายได้จากการท่องเที่ยว
8.78 ล้านล้าน USD12.27 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇹🇷
ส่งออก
24.066 ล้านล้าน USD19.228 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇹🇷
หนี้สินต่างประเทศ
499.886 ล้านล้าน USD481.321 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์

ดุลการค้าของประเทศตุรกีมีการขาดดุลมาตั้งแต่ปี 1947 การส่งออกหลักของตุรกีประกอบด้วยยานยนต์, สิ่งทอ, เหล็กและเหล็กกล้า, เสื้อผ้า และอาหาร ในขณะที่การนำเข้าประกอบด้วยเครื่องจักรและอุปกรณ์การขนส่ง, สินค้าที่ผ่านกระบวนการผลิต, เชื้อเพลิงแร่และสารหล่อลื่น และสารเคมี โดยการขาดดุลการค้าสูงสุดที่บันทึกไว้คือกับจีน, รัสเซีย, เยอรมนี, เกาหลีใต้, สวิตเซอร์แลนด์, อินเดีย, อิหร่าน และญี่ปุ่น ในขณะที่การเกินดุลการค้าสูงสุดที่บันทึกไว้คือกับอิรัก, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหราชอาณาจักร, อิสราเอล, ซีเรีย, ไซปรัสเหนือ และอาเซอร์ไบจาน

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว