ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ตรินิแดดและโตเบโก การนำเข้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของการนำเข้าใน ตรินิแดดและโตเบโก อยู่ที่ 1.761 ล้านล้าน USD การนำเข้าใน ตรินิแดดและโตเบโก เพิ่มขึ้นเป็น 1.761 ล้านล้าน USD เมื่อ 1/9/2566 หลังจากที่มันอยู่ที่ 1.667 ล้านล้าน USD เมื่อ 1/6/2566 ตั้งแต่ 1/3/2538 ถึง 1/3/2567 GDP เฉลี่ยใน ตรินิแดดและโตเบโก อยู่ที่ 1.55 ล้านล้าน USD มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถูกทำได้เมื่อ 1/6/2557 โดยมีมูลค่า 3.98 ล้านล้าน USD ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ 1/3/2538 โดยมีมูลค่า 415.7 ล้าน USD
การนำเข้า ·
แม็กซ์
นำเข้า | |
---|---|
1/3/2538 | 415.7 ล้าน USD |
1/6/2538 | 500.4 ล้าน USD |
1/9/2538 | 476.6 ล้าน USD |
1/12/2538 | 488.6 ล้าน USD |
1/3/2539 | 441.3 ล้าน USD |
1/6/2539 | 524.8 ล้าน USD |
1/9/2539 | 623.4 ล้าน USD |
1/12/2539 | 563.8 ล้าน USD |
1/3/2540 | 550.9 ล้าน USD |
1/6/2540 | 769.7 ล้าน USD |
1/9/2540 | 809.6 ล้าน USD |
1/12/2540 | 906 ล้าน USD |
1/3/2541 | 744.2 ล้าน USD |
1/6/2541 | 801.4 ล้าน USD |
1/9/2541 | 771.6 ล้าน USD |
1/12/2541 | 690.4 ล้าน USD |
1/3/2542 | 541.3 ล้าน USD |
1/6/2542 | 708.3 ล้าน USD |
1/9/2542 | 635.4 ล้าน USD |
1/12/2542 | 867.2 ล้าน USD |
1/3/2543 | 788.3 ล้าน USD |
1/6/2543 | 695 ล้าน USD |
1/9/2543 | 634.9 ล้าน USD |
1/12/2543 | 959.1 ล้าน USD |
1/3/2544 | 721.2 ล้าน USD |
1/6/2544 | 855.3 ล้าน USD |
1/9/2544 | 1.19 ล้านล้าน USD |
1/12/2544 | 798.2 ล้าน USD |
1/3/2545 | 862 ล้าน USD |
1/6/2545 | 899.4 ล้าน USD |
1/9/2545 | 948.3 ล้าน USD |
1/12/2545 | 972.5 ล้าน USD |
1/3/2546 | 905 ล้าน USD |
1/6/2546 | 887.7 ล้าน USD |
1/9/2546 | 919.8 ล้าน USD |
1/12/2546 | 1.2 ล้านล้าน USD |
1/3/2547 | 1.23 ล้านล้าน USD |
1/6/2547 | 1.16 ล้านล้าน USD |
1/9/2547 | 1.3 ล้านล้าน USD |
1/12/2547 | 1.21 ล้านล้าน USD |
1/3/2548 | 1.14 ล้านล้าน USD |
1/6/2548 | 1.53 ล้านล้าน USD |
1/9/2548 | 1.64 ล้านล้าน USD |
1/12/2548 | 1.42 ล้านล้าน USD |
1/3/2549 | 1.31 ล้านล้าน USD |
1/6/2549 | 1.95 ล้านล้าน USD |
1/9/2549 | 1.5 ล้านล้าน USD |
1/12/2549 | 2.08 ล้านล้าน USD |
1/3/2550 | 1.68 ล้านล้าน USD |
1/6/2550 | 1.8 ล้านล้าน USD |
1/9/2550 | 2.03 ล้านล้าน USD |
1/12/2550 | 2.17 ล้านล้าน USD |
1/3/2551 | 2.29 ล้านล้าน USD |
1/6/2551 | 2.53 ล้านล้าน USD |
1/9/2551 | 2.74 ล้านล้าน USD |
1/12/2551 | 2.02 ล้านล้าน USD |
1/3/2552 | 1.56 ล้านล้าน USD |
1/6/2552 | 1.78 ล้านล้าน USD |
1/9/2552 | 1.73 ล้านล้าน USD |
1/12/2552 | 1.91 ล้านล้าน USD |
1/3/2553 | 1.66 ล้านล้าน USD |
1/6/2553 | 1.59 ล้านล้าน USD |
1/9/2553 | 1.67 ล้านล้าน USD |
1/12/2553 | 1.59 ล้านล้าน USD |
1/3/2554 | 1.75 ล้านล้าน USD |
1/6/2554 | 2.51 ล้านล้าน USD |
1/9/2554 | 2.53 ล้านล้าน USD |
1/12/2554 | 2.7 ล้านล้าน USD |
1/3/2555 | 2.53 ล้านล้าน USD |
1/6/2555 | 3.1 ล้านล้าน USD |
1/9/2555 | 3.73 ล้านล้าน USD |
1/12/2555 | 2.28 ล้านล้าน USD |
1/3/2556 | 2.75 ล้านล้าน USD |
1/6/2556 | 3.26 ล้านล้าน USD |
1/9/2556 | 3.82 ล้านล้าน USD |
1/12/2556 | 2.8 ล้านล้าน USD |
1/3/2557 | 1.88 ล้านล้าน USD |
1/6/2557 | 3.98 ล้านล้าน USD |
1/9/2557 | 2.9 ล้านล้าน USD |
1/12/2557 | 2.51 ล้านล้าน USD |
1/3/2558 | 1.77 ล้านล้าน USD |
1/6/2558 | 2.01 ล้านล้าน USD |
1/9/2558 | 2 ล้านล้าน USD |
1/12/2558 | 1.75 ล้านล้าน USD |
1/3/2559 | 1.63 ล้านล้าน USD |
1/6/2559 | 1.68 ล้านล้าน USD |
1/9/2559 | 1.94 ล้านล้าน USD |
1/12/2559 | 1.84 ล้านล้าน USD |
1/3/2560 | 1.46 ล้านล้าน USD |
1/6/2560 | 1.44 ล้านล้าน USD |
1/9/2560 | 1.6 ล้านล้าน USD |
1/12/2560 | 1.95 ล้านล้าน USD |
1/3/2561 | 1.72 ล้านล้าน USD |
1/6/2561 | 1.74 ล้านล้าน USD |
1/9/2561 | 1.79 ล้านล้าน USD |
1/12/2561 | 1.38 ล้านล้าน USD |
1/3/2562 | 1.47 ล้านล้าน USD |
1/6/2562 | 1.46 ล้านล้าน USD |
1/9/2562 | 1.59 ล้านล้าน USD |
1/12/2562 | 1.51 ล้านล้าน USD |
1/3/2563 | 1.36 ล้านล้าน USD |
1/6/2563 | 894.4 ล้าน USD |
1/9/2563 | 1.35 ล้านล้าน USD |
1/12/2563 | 1.41 ล้านล้าน USD |
1/3/2564 | 1.33 ล้านล้าน USD |
1/6/2564 | 1.47 ล้านล้าน USD |
1/9/2564 | 1.87 ล้านล้าน USD |
1/12/2564 | 1.7 ล้านล้าน USD |
1/3/2565 | 1.71 ล้านล้าน USD |
1/6/2565 | 2.14 ล้านล้าน USD |
1/9/2565 | 1.93 ล้านล้าน USD |
1/12/2565 | 1.73 ล้านล้าน USD |
1/3/2566 | 1.51 ล้านล้าน USD |
1/6/2566 | 1.67 ล้านล้าน USD |
1/9/2566 | 1.76 ล้านล้าน USD |
การนำเข้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/9/2566 | 1.761 ล้านล้าน USD |
1/6/2566 | 1.667 ล้านล้าน USD |
1/3/2566 | 1.509 ล้านล้าน USD |
1/12/2565 | 1.725 ล้านล้าน USD |
1/9/2565 | 1.926 ล้านล้าน USD |
1/6/2565 | 2.142 ล้านล้าน USD |
1/3/2565 | 1.713 ล้านล้าน USD |
1/12/2564 | 1.704 ล้านล้าน USD |
1/9/2564 | 1.872 ล้านล้าน USD |
1/6/2564 | 1.469 ล้านล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การนำเข้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇹🇹 การผลิตน้ำมันดิบ | 55 BBL/D/1K | 55 BBL/D/1K | รายเดือน |
🇹🇹 ดัชนีการก่อการร้าย | 0 Points | 0 Points | ประจำปี |
🇹🇹 ทองคำสำรอง | 1.95 Tonnes | 1.95 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇹🇹 ยอดการค้า | 805.1 ล้าน USD | 821.3 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇹🇹 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | 470.5 ล้าน USD | 589.4 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇹🇹 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | 11.3 % of GDP | 17.9 % of GDP | ประจำปี |
🇹🇹 ส่งออก | 2.534 ล้านล้าน USD | 2.488 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇹🇹 หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี | 21 % of GDP | 20.7 % of GDP | ประจำปี |
🇹🇹 หนี้สินต่างประเทศ | 36.922 ล้านล้าน TTD | 37.053 ล้านล้าน TTD | รายเดือน |
ตรินิแดดและโตเบโกมีการนำเข้าน้ำมัน, แร่เหล็ก, เชื้อเพลิง, ยานพาหนะ, เครื่องทำน้ำอุ่น, เอทิลแอลกอฮอล์, เหล็กและเหล็กกล้า, ปั๊ม และตัวเร่งปฏิกิริยา โดยคู่ค้าหลักของการนำเข้าสินค้าของตรินิแดดและโตเบโกคือ สหรัฐอเมริกา, บราซิล, โคลอมเบีย, รัสเซีย, เยอรมนี, จีน, ญี่ปุ่น, ไนจีเรีย และเวเนซุเอลา
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน อเมริกา
- 🇦🇷อาร์เจนตินา
- 🇦🇼อารูบา
- 🇧🇸บาฮามาส
- 🇧🇧บาร์เบโดส
- 🇧🇿เบลิซ
- 🇧🇲เบอร์มิวดา
- 🇧🇴โบลิเวีย
- 🇧🇷บราซิล
- 🇨🇦แคนาดา
- 🇰🇾หมู่เกาะเคย์แมน
- 🇨🇱ชิลี
- 🇨🇴โคลอมเบีย
- 🇨🇷คอสตาริกา
- 🇨🇺คิวบา
- 🇩🇴สาธารณรัฐโดมินิกัน
- 🇪🇨เอกวาดอร์
- 🇸🇻เอลซัลวาดอร์
- 🇬🇹กัวเตมาลา
- 🇬🇾กายอานา
- 🇭🇹ไฮติ
- 🇭🇳ฮอนดูรัส
- 🇯🇲จาไมก้า
- 🇲🇽เม็กซิโก
- 🇳🇮นิการากัว
- 🇵🇦ปานามา
- 🇵🇾ปารากวัย
- 🇵🇪เปรู
- 🇵🇷เปอร์โตริโก
- 🇸🇷ซูรินาม
- 🇺🇸สหรัฐอเมริกา
- 🇺🇾อุรุกวัย
- 🇻🇪เวเนซุเอลา
- 🇦🇬แอนติกาและบาร์บูดา
- 🇩🇲โดมินิกา
- 🇬🇩เกรนาดา
คืออะไร การนำเข้า
การนำเข้า การนำเข้าถือเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งของเศรษฐกิจมหภาค และเป็นแรงขับเคลื่อนที่มีผลกระทบสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจในระดับประเทศ การนำเข้าหมายถึงการที่ประเทศหนึ่งมีการซื้อสินค้าหรือบริการจากต่างประเทศเพื่อนำมาใช้ในการผลิตหรือจำหน่ายต่อ การนำเข้ามีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากสามารถเติมเต็มความต้องการของตลาดภายในประเทศที่ขาดแคลน หรือไม่ได้ผลิตขึ้นในประเทศนั้นๆ การนำเข้ามีผลกระทบที่หลายหลายต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งในทางบวกและทางลบ ทางด้านบวก การนำเข้าสามารถช่วยให้ประชาชนมีการเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพดีขึ้น เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีส่วนช่วยในการยกระดับมาตรฐานการครองชีพ เทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยให้การผลิตของประเทศเกิดการพัฒนาและสามารถแข่งขันในระดับสากลได้ ในทางกลับกัน การนำเข้าก็อาจมีผลกระทบทางลบ เช่น การทำให้เกิดการเสริมสร้างภาระทางการเงินภายนอกของประเทศมากขึ้น หรือส่งผลกระทบให้เกิดการขาดดุลทางการค้า สินค้าภายในประเทศอาจไม่ได้รับการสนับสนุนหรือได้รับการพัฒนาที่เพียงพอหากพึ่งพาการนำเข้ามากเกินไป สำหรับประเทศไทย สินค้านำเข้ามีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสินค้าทุน (capital goods) ที่ใช้ในการผลิต อุปกรณ์เทคโนโลยี เครื่องจักรต่างๆ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค (consumer goods) เช่นอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าแฟชั่น และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ การนำเข้าเหล่านี้สามารถช่วยยกระดับมาตรฐานของการผลิตในประเทศได้ การนำเข้ายังสามารถชี้วัดถึงสุขภาพของเศรษฐกิจของประเทศได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น เมื่อระดับการนำเข้าสูงมากๆ อาจบ่งบอกถึงการที่ภาคธุรกิจต้องการขยายการผลิต ซึ่งจะใช้วัตถุดิบนำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิต อย่างไรก็ตาม ก็อาจต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ร่วมด้วย เช่น ภาวะทางการเงินภายนอก ค่าเงิน อัตราภาษีศุลกากร และนโยบายการค้าต่างประเทศ ที่ eulerpool เว็บไซต์ของเรามุ่งมั่นในการจัดเตรียมข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและแม่นยำที่สุด เพื่อที่จะช่วยให้นักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ นักวิจัย หรือผู้ที่สนใจในข้อมูลด้านเศรษฐกิจสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจ เว็บไซต์ของเราจะมีการอัปเดตข้อมูลการนำเข้าของประเทศไทยอย่างเป็นระบบ ทั้งในแง่มูลค่าการนำเข้า ปริมาณการนำเข้า และประเภทสินค้านำเข้า ในปัจจุบัน ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นระหว่างประเทศต่างๆ ได้ทำให้การนำเข้าเป็นปัจจัยที่ไม่อาจมองข้ามได้ การเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจหรือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการค้าในประเทศใดประเทศหนึ่ง สามารถส่งผลกระทบต่อการนำเข้าของประเทศอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว การเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มของการนำเข้าจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ตัวอย่างหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาษีศุลกากร ซึ่งสามารถส่งผลต่อปริมาณสินค้าที่นำเข้าได้โดยตรง การที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการนำเข้าในบางภาคส่วนหรือสินค้าบางประเภทโดยเฉพาะก็จะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนนั้น การนำเข้ายังมีบทบาทสำคัญในด้านของการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ ประเทศที่ยังมีการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างไม่เต็มที่อาจต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบ เทคโนโลยี หรือเครื่องจักรจากต่างประเทศ การนำเข้าเหล่านี้จะช่วยให้กระบวนการผลิตภายในประเทศเติบโตมากขึ้น และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ สำหรับประเทศไทย การนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสินค้าส่งออกที่มีคุณภาพสูง ซึ่งช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ขณะเดียวกัน ภาวะเศรษฐกิจโลกและความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศก็มีผลกระทบต่อการนำเข้าเช่นกัน การเกิดสงครามการค้า หรือการเปลี่ยนแปลงในนโยบายของประเทศคู่ค้า อาจทำให้การนำเข้าสินค้าจากประเทศนั้นๆ ประสบปัญหา สิ่งนี้ทำให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนต้องมีการวางแผนและพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการพึ่งพาการนำเข้าจากประเทศใดประเทศหนึ่ง การทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีความยั่งยืนในระยะยาวจำเป็นต้องมีการจัดการและควบคุมการนำเข้าอย่างมีประสิทธิภาพ การสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าจะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตของประเทศและเพิ่มความแข็งแกร่งในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ สรุปแล้ว การนำเข้าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำเนินเศรษฐกิจของประเทศ สามารถสร้างโอกาสในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการผลิตภายในประเทศ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการนำเข้าและการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ eulerpool ของเรายังคงยึดมั่นในการจัดเตรียมข้อมูลที่มีคุณภาพและทันสมัย เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์และสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจได้ต่อไป