ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ตรินิแดดและโตเบโก เงินเฟ้ออาหาร
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของเงินเฟ้ออาหารในตรินิแดดและโตเบโกคือ3.1% เงินเฟ้ออาหารในตรินิแดดและโตเบโกเพิ่มขึ้นเป็น3.1%เมื่อวันที่1/5/2567 หลังจากเคยเป็น1.1%เมื่อวันที่1/4/2567 ตั้งแต่1/2/2547ถึง1/6/2567 GDP เฉลี่ยในตรินิแดดและโตเบโกอยู่ที่11.4% ค่า GDP สูงสุดตลอดกาลถูกทำสถิติเมื่อวันที่1/8/2553ที่39.13% ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อวันที่1/1/2567ที่-1.93%
เงินเฟ้ออาหาร ·
แม็กซ์
เงินเฟ้อด้านอาหาร | |
---|---|
1/2/2547 | 13.21 % |
1/3/2547 | 10.85 % |
1/4/2547 | 8.89 % |
1/5/2547 | 10.59 % |
1/6/2547 | 10.74 % |
1/7/2547 | 8.61 % |
1/8/2547 | 10.44 % |
1/9/2547 | 13.33 % |
1/10/2547 | 15.02 % |
1/11/2547 | 16.74 % |
1/12/2547 | 20.57 % |
1/1/2548 | 18.25 % |
1/2/2548 | 23.26 % |
1/3/2548 | 25.56 % |
1/4/2548 | 24.57 % |
1/5/2548 | 21.48 % |
1/6/2548 | 21.45 % |
1/7/2548 | 25.35 % |
1/8/2548 | 24.69 % |
1/9/2548 | 23.13 % |
1/10/2548 | 22.28 % |
1/11/2548 | 22.61 % |
1/12/2548 | 22.57 % |
1/1/2549 | 22.82 % |
1/2/2549 | 19.86 % |
1/3/2549 | 19.25 % |
1/4/2549 | 19.38 % |
1/5/2549 | 22.76 % |
1/6/2549 | 25.71 % |
1/7/2549 | 23.19 % |
1/8/2549 | 24.71 % |
1/9/2549 | 27.44 % |
1/10/2549 | 26.47 % |
1/11/2549 | 24.26 % |
1/12/2549 | 22.02 % |
1/1/2550 | 20.87 % |
1/2/2550 | 19.69 % |
1/3/2550 | 18.81 % |
1/4/2550 | 18.89 % |
1/5/2550 | 17.25 % |
1/6/2550 | 14.69 % |
1/7/2550 | 17.17 % |
1/8/2550 | 16.72 % |
1/9/2550 | 13.98 % |
1/10/2550 | 16.53 % |
1/11/2550 | 18.73 % |
1/12/2550 | 16.76 % |
1/1/2551 | 20.75 % |
1/2/2551 | 18.77 % |
1/3/2551 | 19.73 % |
1/4/2551 | 19.53 % |
1/5/2551 | 21.81 % |
1/6/2551 | 23.09 % |
1/7/2551 | 25.33 % |
1/8/2551 | 30.22 % |
1/9/2551 | 34.62 % |
1/10/2551 | 33.41 % |
1/11/2551 | 29.78 % |
1/12/2551 | 30.61 % |
1/1/2552 | 25.92 % |
1/2/2552 | 25.92 % |
1/3/2552 | 24.45 % |
1/4/2552 | 25.24 % |
1/5/2552 | 19.62 % |
1/6/2552 | 16.51 % |
1/7/2552 | 10.09 % |
1/8/2552 | 5.21 % |
1/9/2552 | 6.8 % |
1/10/2552 | 3.54 % |
1/11/2552 | 0.36 % |
1/1/2553 | 2.65 % |
1/2/2553 | 6.26 % |
1/3/2553 | 6.86 % |
1/4/2553 | 12.66 % |
1/5/2553 | 19.41 % |
1/6/2553 | 31.09 % |
1/7/2553 | 33.25 % |
1/8/2553 | 39.13 % |
1/9/2553 | 29.24 % |
1/10/2553 | 26.7 % |
1/11/2553 | 27.41 % |
1/12/2553 | 29.49 % |
1/1/2554 | 30.86 % |
1/2/2554 | 25.05 % |
1/3/2554 | 21.32 % |
1/4/2554 | 15.01 % |
1/5/2554 | 8.18 % |
1/6/2554 | 0.07 % |
1/7/2554 | 1.59 % |
1/9/2554 | 4.31 % |
1/10/2554 | 6.92 % |
1/11/2554 | 12.29 % |
1/12/2554 | 10.88 % |
1/1/2555 | 13.96 % |
1/2/2555 | 20.18 % |
1/3/2555 | 20.27 % |
1/4/2555 | 26.15 % |
1/5/2555 | 28.33 % |
1/6/2555 | 24.07 % |
1/7/2555 | 22.58 % |
1/8/2555 | 15.38 % |
1/9/2555 | 14.65 % |
1/10/2555 | 18.22 % |
1/11/2555 | 14.86 % |
1/12/2555 | 12.73 % |
1/1/2556 | 13.81 % |
1/2/2556 | 10.64 % |
1/3/2556 | 12.89 % |
1/4/2556 | 9.35 % |
1/5/2556 | 9.62 % |
1/6/2556 | 12.59 % |
1/7/2556 | 4.82 % |
1/8/2556 | 7.68 % |
1/9/2556 | 3 % |
1/10/2556 | 3.73 % |
1/11/2556 | 7.33 % |
1/12/2556 | 10.16 % |
1/1/2557 | 3.21 % |
1/2/2557 | 5.2 % |
1/3/2557 | 6.7 % |
1/4/2557 | 4.12 % |
1/5/2557 | 3.81 % |
1/6/2557 | 3.48 % |
1/7/2557 | 11.35 % |
1/8/2557 | 14.8 % |
1/9/2557 | 15.69 % |
1/10/2557 | 18.17 % |
1/11/2557 | 17.8 % |
1/12/2557 | 16.7 % |
1/1/2558 | 14.61 % |
1/2/2558 | 11.83 % |
1/3/2558 | 9.65 % |
1/4/2558 | 9.12 % |
1/5/2558 | 8.51 % |
1/6/2558 | 9.67 % |
1/7/2558 | 11.5 % |
1/8/2558 | 8.1 % |
1/9/2558 | 11 % |
1/10/2558 | 6.05 % |
1/11/2558 | 2.15 % |
1/12/2558 | 2.7 % |
1/1/2559 | 4.5 % |
1/2/2559 | 9.4 % |
1/3/2559 | 8.6 % |
1/4/2559 | 9.9 % |
1/5/2559 | 9.6 % |
1/6/2559 | 9.4 % |
1/7/2559 | 6.8 % |
1/8/2559 | 7.2 % |
1/9/2559 | 6.2 % |
1/10/2559 | 5.1 % |
1/11/2559 | 6.4 % |
1/12/2559 | 6.7 % |
1/1/2560 | 7.6 % |
1/2/2560 | 2.9 % |
1/3/2560 | 3.7 % |
1/4/2560 | 1.8 % |
1/5/2560 | 1.8 % |
1/6/2560 | 0.5 % |
1/7/2560 | 1.4 % |
1/8/2560 | 1.9 % |
1/9/2560 | 1.8 % |
1/10/2560 | 3.6 % |
1/11/2560 | 4.5 % |
1/12/2560 | 3.6 % |
1/1/2561 | 2.6 % |
1/2/2561 | 2.6 % |
1/3/2561 | 2.1 % |
1/4/2561 | 2.7 % |
1/5/2561 | 2 % |
1/6/2561 | 1.4 % |
1/7/2561 | 0.6 % |
1/12/2561 | 0.1 % |
1/1/2562 | 0.5 % |
1/3/2562 | 0.9 % |
1/5/2562 | 1.1 % |
1/6/2562 | 1.4 % |
1/7/2562 | 1.5 % |
1/8/2562 | 2 % |
1/9/2562 | 1.5 % |
1/10/2562 | 0.8 % |
1/1/2563 | 0.4 % |
1/2/2563 | 1 % |
1/3/2563 | 1.2 % |
1/4/2563 | 3.4 % |
1/5/2563 | 2.9 % |
1/6/2563 | 2.2 % |
1/7/2563 | 2.3 % |
1/8/2563 | 2.1 % |
1/9/2563 | 4.1 % |
1/10/2563 | 4.4 % |
1/11/2563 | 5.1 % |
1/12/2563 | 4.5 % |
1/1/2564 | 3.2 % |
1/2/2564 | 2.3 % |
1/3/2564 | 2.04 % |
1/4/2564 | 1.5 % |
1/5/2564 | 2.6 % |
1/6/2564 | 5.1 % |
1/7/2564 | 4.9 % |
1/8/2564 | 5.7 % |
1/9/2564 | 5.8 % |
1/10/2564 | 7.6 % |
1/11/2564 | 6.1 % |
1/12/2564 | 5.75 % |
1/1/2565 | 6.57 % |
1/2/2565 | 8.63 % |
1/3/2565 | 7.93 % |
1/4/2565 | 8.7 % |
1/5/2565 | 8.1 % |
1/6/2565 | 7.8 % |
1/7/2565 | 10.32 % |
1/8/2565 | 11.7 % |
1/9/2565 | 11.6 % |
1/10/2565 | 11.5 % |
1/11/2565 | 13.81 % |
1/12/2565 | 17.3 % |
1/1/2566 | 17.3 % |
1/2/2566 | 14 % |
1/3/2566 | 12.99 % |
1/4/2566 | 11.15 % |
1/5/2566 | 9.66 % |
1/6/2566 | 10.08 % |
1/7/2566 | 8.62 % |
1/8/2566 | 5.6 % |
1/9/2566 | 4.73 % |
1/10/2566 | 1.87 % |
1/11/2566 | 0.75 % |
1/2/2567 | 0.07 % |
1/3/2567 | 0.07 % |
1/4/2567 | 1.1 % |
1/5/2567 | 3.1 % |
เงินเฟ้ออาหาร ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/5/2567 | 3.1 % |
1/4/2567 | 1.1 % |
1/3/2567 | 0.07 % |
1/2/2567 | 0.07 % |
1/11/2566 | 0.75 % |
1/10/2566 | 1.87 % |
1/9/2566 | 4.73 % |
1/8/2566 | 5.6 % |
1/7/2566 | 8.62 % |
1/6/2566 | 10.08 % |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ เงินเฟ้ออาหาร
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇹🇹 CPI Transport | 126 points | 126 points | รายเดือน |
🇹🇹 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) | 123.9 points | 123.9 points | รายเดือน |
🇹🇹 ต้นทุนการผลิต | 653.4 points | 651.8 points | ควอร์เตอร์ |
🇹🇹 อัตราเงินเฟ้อ | 0.7 % | 0.9 % | รายเดือน |
🇹🇹 อัตราเงินเฟ้อ MoM | 0 % | 0.2 % | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน อเมริกา
- 🇦🇷อาร์เจนตินา
- 🇦🇼อารูบา
- 🇧🇸บาฮามาส
- 🇧🇧บาร์เบโดส
- 🇧🇿เบลิซ
- 🇧🇲เบอร์มิวดา
- 🇧🇴โบลิเวีย
- 🇧🇷บราซิล
- 🇨🇦แคนาดา
- 🇰🇾หมู่เกาะเคย์แมน
- 🇨🇱ชิลี
- 🇨🇴โคลอมเบีย
- 🇨🇷คอสตาริกา
- 🇨🇺คิวบา
- 🇩🇴สาธารณรัฐโดมินิกัน
- 🇪🇨เอกวาดอร์
- 🇸🇻เอลซัลวาดอร์
- 🇬🇹กัวเตมาลา
- 🇬🇾กายอานา
- 🇭🇹ไฮติ
- 🇭🇳ฮอนดูรัส
- 🇯🇲จาไมก้า
- 🇲🇽เม็กซิโก
- 🇳🇮นิการากัว
- 🇵🇦ปานามา
- 🇵🇾ปารากวัย
- 🇵🇪เปรู
- 🇵🇷เปอร์โตริโก
- 🇸🇷ซูรินาม
- 🇺🇸สหรัฐอเมริกา
- 🇺🇾อุรุกวัย
- 🇻🇪เวเนซุเอลา
- 🇦🇬แอนติกาและบาร์บูดา
- 🇩🇲โดมินิกา
- 🇬🇩เกรนาดา
คืออะไร เงินเฟ้ออาหาร
ฟู้ดอินเฟลชัน หรืออัตราเงินเฟ้อในภาคอาหาร เป็นประเด็นที่มีความสำคัญในด้านเศรษฐกิจมหภาค (Macroeconomics) โดยเฉพาะในเว็บไซต์แบบมืออาชีพอย่าง Eulerpool ซึ่งเรามุ่งเน้นการแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ถูกต้องและทันสมัย ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจและวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ในบทความนี้ เราจะแนะนำและอธิบายถึงฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยอย่างละเอียด เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ฟู้ดอินเฟลชัน หมายถึงการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการในภาคอาหารเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นผลมาจากหลายปัจจัย รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง การเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) การขาดแคลนวัตถุดิบ ภัยธรรมชาติ และการปรับตัวของกำลังการผลิต อุปสงค์และอุปทานในตลาด เป็นที่รู้กันดีว่าภาคอาหารมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักในการวัดฟู้ดอินเฟลชัน ดังนั้น อัตราการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าและบริการในหมวดอาหารจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อระดับราคาสินค้าและบริการทั้งหมดในสังคม หน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ติดตามและรายงานฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยคือตารางดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเผยแพร่โดยกระทรวงพาณิชย์ โดยอีกส่วนหนึ่งของข้อมูลนั้นยังมาจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (National Statistical Office) ซึ่งเน้นการรวบรวมข้อมูลและทำการวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ การวัดอัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารจะใช้สถิติจากหลายหมวดหมู่ ยกตัวอย่างเช่น ราคาข้าวและเมล็ดพืช ราคาผักและผลไม้ และราคาผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เป็นต้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุมาจากปัจจัยหลายประการ เช่น ภัยธรรมชาติที่ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง ปัญหาการขนส่งสินค้า การเพิ่มขึ้นของราคาวัตถุดิบที่นำเข้า และการปรับตัวของระบบซับพลายเชน (Supply Chain) ในภาคอาหาร ยกตัวอย่างเช่น ปีที่ผ่านมา ราคาข้าวที่เป็นสินค้าที่มีความสำคัญในชีวิตประจำวันของคนไทย ได้เพิ่มขึ้นกว่า 10% เนื่องจากปัญหาการเก็บเกี่ยวที่ไม่สมบูรณ์และการลดลงของพื้นที่เพาะปลูก ขณะเดียวกัน ราคาผักและผลไม้ก็เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7-8% เนื่องจากภาวะภัยแล้งและอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ ปัญหาฟู้ดอินเฟลชันมีผลกระทบต่อทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิต ฝ่ายผู้บริโภคมักจะพบกับการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาสินค้าในภาคอาหารเพิ่มขึ้น ทำให้ต้องปรับการใช้ชีวิตและการตัดสินใจในการจับจ่ายใช้สอย ขณะเดียวกัน ฝ่ายผู้ผลิตก็ต้องเผชิญกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งอาจะทำให้พวกเขาต้องหาวิธีการลดต้นทุนหรือปรับตัวในการผลิตเพื่อความอยู่รอด ความสำคัญของการติดตามและวิเคราะห์อัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารจึงไม่สามารถมองข้ามได้ เนื่องจากมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ในการติดตามฟู้ดอินเฟลชัน หน่วยงานต่างๆ และภาคธุรกิจมักใช้เครื่องมือและดัชนีต่างๆ เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดทั่วไปที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ในดัชนีนี้ มีการแบ่งแยกข้อมูลเป็นหมวดหมู่อย่างละเอียด เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ยารักษาโรค เสื้อผ้า และเครื่องพักอาศัย ซึ่งหมวดอาหารก็จะมีการรายงานแยกย่อยเพิ่มเติม เพื่อให้เห็นความแปรปรวนของราคาที่ชัดเจนขึ้น การเข้าใจฟู้ดอินเฟลชันยังเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายการเงินและการคลังของประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (Bank of Thailand) มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระดับเงินเฟ้อ โดยการปรับนโยบายดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน และการใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การทราบข้อมูลเกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันจึงเป็นส่วนสำคัญในการทำให้การดำเนินนโยบายมีประสิทธิภาพ สุดท้ายนี้ ความรู้เกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันยังเป็นประโยชน์ต่อบุคคลทั่วไปโดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับความไม่แน่นอน การทราบถึงสาเหตุและผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อในภาคอาหารสามารถช่วยให้คุณสามารถรับมือและวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฟู้ดอินเฟลชันในประเทศไทยเป็นหัวข้อที่ต้องการความสนใจและการวิเคราะห์อย่างละเอียด ด้วยความสำคัญที่มีผลกระทบต่อทั้งภาพรวมเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตของประชาชน การเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับฟู้ดอินเฟลชันจะช่วยให้คุณสามารถประเมินสถานการณ์และเตรียมตัวในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้ดีขึ้น ทาง Eulerpool เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เป็นที่น้ำหนึงใจเดียวกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ