ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇩🇰

เดนมาร์ก ดุลการค้า

ราคา

19.789 ล้านล้าน DKK
การเปลี่ยนแปลง +/-
-5.239 ล้านล้าน DKK
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-23.38 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน เดนมาร์ก คือ 19.789 ล้านล้าน DKK ดุลการค้าใน เดนมาร์ก ลดลงไปที่ 19.789 ล้านล้าน DKK ในวันที่ 1/3/2567 หลังจากที่เป็น 25.028 ล้านล้าน DKK ในวันที่ 1/2/2567 ตั้งแต่ 1/1/2503 ถึง 1/4/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน เดนมาร์ก คือ 3.72 ล้านล้าน DKK จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/8/2565 ด้วยค่า 32.07 ล้านล้าน DKK ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/12/2528 ด้วยค่า -2.97 ล้านล้าน DKK

แหล่งที่มา: Statistics Denmark

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/3/256719.789 ล้านล้าน DKK
1/2/256725.028 ล้านล้าน DKK
1/1/256721.165 ล้านล้าน DKK
1/12/256625.45 ล้านล้าน DKK
1/11/256622.572 ล้านล้าน DKK
1/10/256613.881 ล้านล้าน DKK
1/9/256610.176 ล้านล้าน DKK
1/8/256615.793 ล้านล้าน DKK
1/7/256617.426 ล้านล้าน DKK
1/6/256619.684 ล้านล้าน DKK
1
2
3
4
5
...
46

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇩🇰
กระแสเงินทุน
-261.3 ล้าน DKK-294.2 ล้าน DKKรายเดือน
🇩🇰
การขายอาวุธ
46 ล้าน SIPRI TIV61 ล้าน SIPRI TIVประจำปี
🇩🇰
การผลิตน้ำมันดิบ
61 BBL/D/1K59 BBL/D/1Kรายเดือน
🇩🇰
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
8.453 ล้านล้าน DKK6.685 ล้านล้าน DKKควอร์เตอร์
🇩🇰
เงื่อนไขการซื้อขาย
109.9 points104.7 pointsรายเดือน
🇩🇰
ดัชนีการก่อการร้าย
0 Points0.158 Pointsประจำปี
🇩🇰
ทองคำสำรอง
66.5 Tonnes66.55 Tonnesควอร์เตอร์
🇩🇰
นำเข้า
138.745 ล้านล้าน DKK140.794 ล้านล้าน DKKรายเดือน
🇩🇰
นำเข้าก๊าซธรรมชาติ
32,106.491 Terajoule31,295.648 Terajouleรายเดือน
🇩🇰
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
27.666 ล้านล้าน DKK23.246 ล้านล้าน DKKรายเดือน
🇩🇰
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
10.9 % of GDP13.4 % of GDPประจำปี
🇩🇰
ส่งออก
161.82 ล้านล้าน DKK160.583 ล้านล้าน DKKรายเดือน
🇩🇰
หนี้สินต่างประเทศ
25.648 ล้านล้าน DKK25.038 ล้านล้าน DKKรายเดือน

เดนมาร์กมีการรายงานการเกินดุลการค้าอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1988 เดนมาร์กมีพลังงานเพียงพอต่อการใช้ในประเทศโดยผลิตน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ พลังงานลม และพลังงานชีวภาพ สินค้าส่งออกหลักของเดนมาร์ก ได้แก่ เครื่องจักร เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์อาหาร ส่วนการนำเข้าหลักประกอบด้วย เครื่องจักรและอุปกรณ์ วัตถุดิบและกึ่งวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรม อาหาร และเคมีภัณฑ์ ในปี 2017 การเกินดุลการค้าที่ใหญ่ที่สุดถูกบันทึกกับสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร นอร์เวย์ ฝรั่งเศส และรัสเซีย ในขณะที่การขาดดุลการค้าที่ใหญ่ที่สุดถูกบันทึกกับเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ จีน และสวีเดน

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว