ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇹🇿

แทนซาเนีย อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ต่อปี

ราคา

5.3 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
+0.1 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+1.90 %

ค่าอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ต่อปี ใน แทนซาเนีย ปัจจุบันคือ 5.3 % อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ต่อปี ใน แทนซาเนีย เพิ่มขึ้นเป็น 5.3 % เมื่อวันที่ 1/9/2566 หลังจากที่เป็น 5.2 % เมื่อวันที่ 1/6/2566 จาก 1/3/2545 ถึง 1/12/2566 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ต่อปี เฉลี่ยใน แทนซาเนีย คือ 6.36 % ค่าอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ต่อปี สูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1/3/2550 โดยมีค่า 11.9 % ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อวันที่ 1/9/2552 โดยมีค่า 2.6 %

แหล่งที่มา: National Bureau of Statistics (NBS) - Tanzania

อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ต่อปี

  • แม็กซ์

อัตราการเติบโตของ GDP ประจำปี

อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ต่อปี ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/9/25665.3 %
1/6/25665.2 %
1/3/25665.4 %
1/12/25653.6 %
1/9/25655.2 %
1/6/25654.7 %
1/3/25655.5 %
1/12/25645.5 %
1/9/25645.5 %
1/6/25643.8 %
1
2
3
4
5
...
9

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ต่อปี

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇹🇿
BIP
79.16 ล้านล้าน USD75.77 ล้านล้าน USDประจำปี
🇹🇿
การลงทุนทางการเงินรวม
63.567 ชีวภาพ. TZS58.861 ชีวภาพ. TZSประจำปี
🇹🇿
จีดีพีจากภาคเกษตรกรรม
10.802 ชีวภาพ. TZS6.641 ชีวภาพ. TZSควอร์เตอร์
🇹🇿
จีดีพีต่อหัว ที่ปรับเป็นความซื้อขายแลกเปลี่ยน
3,580.78 USD3,504.42 USDประจำปี
🇹🇿
จีดีพีที่ราคาคงที่
39.893 ชีวภาพ. TZS35.702 ชีวภาพ. TZSควอร์เตอร์
🇹🇿
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัว
1,080.79 USD1,057.74 USDประจำปี
🇹🇿
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในภาคบริการสาธารณะ
1.617 ชีวภาพ. TZS1.642 ชีวภาพ. TZSควอร์เตอร์
🇹🇿
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในภาคเหมืองแร่
2.138 ชีวภาพ. TZS2.027 ชีวภาพ. TZSควอร์เตอร์
🇹🇿
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในสาขาการก่อสร้าง
5.286 ชีวภาพ. TZS5.668 ชีวภาพ. TZSควอร์เตอร์
🇹🇿
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในอุตสาหกรรมการผลิต
3.21 ชีวภาพ. TZS3.259 ชีวภาพ. TZSควอร์เตอร์

บริการเป็นภาคเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของแทนซาเนียและคิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ของ GDP โดยเฉพาะการค้าส่งและค้าปลีก (12 เปอร์เซ็นต์); การบริหารราชการและป้องกันประเทศ (6 เปอร์เซ็นต์) และการขนส่งและการจัดเก็บ (5 เปอร์เซ็นต์). ภาคหลักคิดเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการผลิตพืชผล (18 เปอร์เซ็นต์). ภาคอุตสาหกรรมเป็นตัวแทนของความมั่งคั่งทั้งหมด 28 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะการผลิต (6 เปอร์เซ็นต์) และการทำเหมืองแร่และหิน (5 เปอร์เซ็นต์) รวมถึงก๊าซธรรมชาติ, ทองคำ, เพชร, ถ่านหิน, เหล็ก, ยูเรเนียม, นิกเกิล, โครเมี่ยม, ดีบุก, แพลทินัม, โคลตัน และไนโอเบียม.

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน แอฟริกา

คืออะไร อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ต่อปี

อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP Annual Growth Rate) เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการวัดผลทางเศรษฐกิจและสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยมันเป็นตัวบ่งชี้ว่าผลผลิตทางเศรษฐกิจกำลังขยายหรือหดตัวในช่วงเวลาหนึ่งเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน การวิเคราะห์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจนี้เปรียบเสมือนการติดตามชีพจรของเศรษฐกิจ ประเมินว่าประเทศนั้นๆ กำลังเติบโตหรือหดตัวในรูปแบบใด และข้อมูลนี้เป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญ สำหรับนักลงทุน นักวิเคราะห์เศรษฐกิจ และผู้มีอำนาจตัดสินใจด้านนโยบายเศรษฐกิจ หนึ่งในแนวคิดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ คือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product) หรือ GDP ซึ่งเป็นค่ารวมของมูลค่าผลผลิตและบริการทั้งหมดที่สร้างขึ้นในประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง การวัดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปีต่อปีจะมาจากการเปรียบเทียบค่า GDP ของปีปัจจุบันกับค่า GDP ของปีก่อนหน้า การวัดนี้มากจะใช้แสดงในรูปแบบของเปอร์เซ็นต์ การเข้าใจถึงอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปีต่อปี (GDP Annual Growth Rate) นั้นมีความสำคัญกับความหลากหลายของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เริ่มตั้งแต่รัฐบาลที่ต้องการข้อมูลเพื่อกำหนดนโยบายเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการที่ต้องการวางแผนธุรกิจ จนถึงนักลงทุนที่ใช้ข้อมูลนี้ในการตัดสินใจลงทุน และตั้งเป้าหมายการลงทุน อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจะแสดงถึงการบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างไรในรอบปีที่ผ่านมา ค่าอัตราการเติบโตที่สูงมักชี้บ่งว่าภาคธุรกิจกำลังขยายตัว การจับจ่ายใช้สอยจากผู้บริโภคได้เพิ่มขึ้น และการลงทุนทั้งในภาคเอกชนและภาครัฐมีการเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำหรือค่าติดลบจะเป็นสัญญาณของภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งอาจส่งผลต่อการวางแผนและการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ในบทบาทของรัฐบาล ข้อมูลจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดนโยบายต่างๆ เช่น นโยบายทางการเงิน การคลัง และการสนับสนุนเศรษฐกิจในทางต่างๆ หากเสนอนโยบายผิดพลาดอาจทำให้เศรษฐกิจของประเทศต้องเผชิญกับวิกฤตได้ สำหรับนักลงทุน ข้อมูลนี้เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ใช้ในการวิเคราะห์ตลาดและตัดสินใจการลงทุน อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงมักจะชดเชยความเสี่ยงในการลงทุน ส่งผลให้มีมูลค่าหลักทรัพย์ที่สูงขึ้น ในมุมมองของผู้ประกอบการและภาคธุรกิจ การรู้ถึงอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจทำให้สามารถวางแผน และกำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การตัดสินใจขยายการลงทุน การเปิดตลาดใหม่ หรือการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มผลิตภาพ ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจมีหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจโลก การลงทุนจากต่างประเทศ นโยบายรัฐบาล อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ ตลอดจนปัจจัยภายในประเทศเช่น การใช้จ่ายของครัวเรือน การจ้างงาน การผลิตและการบริการในภูมิภาคหรืออุตสาหกรรมต่างๆ เมื่อวิเคราะห์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ จึงควรให้ความสำคัญกับการพิจารณาข้อมูลในเชิงลึก ควรดูภาพรวมทางเศรษฐกิจจากหลายมิติ ไม่เพียงแต่พึ่งพาค่า GDP เพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ที่มีผลต่อเศรษฐกิจในระดับชุดข้อมูลหรือข้อมูลย่อย (Microeconomic Data) เพื่อให้ได้ความเข้าใจเศรษฐกิจประเทศในเชิงลึกและรอบด้านมากยิ่งขึ้น ในสภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน การรับข้อมูลที่เพียงพอและแม่นยำเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง การเข้าถึงข้อมูลเศรษฐกิจแบบ real-time หรือข้อมูลที่ทันสถานการณ์จะช่วยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถทำการตัดสินใจที่แม่นยำและทันเวลาได้ เว็บไซต์ eulerpool ของเราเป็นแหล่งข้อมูลที่ให้บริการแสดงผลข้อมูลเศรษฐกิจที่จำเป็น เช่น อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และข้อมูลทางเศรษฐกิจอื่นๆ ที่มีความสำคัญต่อการกำหนดแผนการตัดสินใจทางบริหารและการลงทุน ข้อมูลที่นำเสนอผ่านเว็บไซต์เราได้ถูกตรวจสอบความแม่นยำ และปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยเสมอ สุดท้ายนี้ การทำความเข้าใจและวิเคราะห์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP Annual Growth Rate) เป็นเพียงเพียงส่วนหนึ่งในกระบวนการวิเคราะห์เศรษฐกิจทั้งหมด ข้อมูลนี้ถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้สามารถมองเห็นภาพรวมเศรษฐกิจที่ชัดเจน และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนและตัดสินใจที่สำคัญในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ