ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇮🇹

อิตาลี ดุลการค้า

ราคา

5.151 ล้านล้าน EUR
การเปลี่ยนแปลง +/-
-1.226 ล้านล้าน EUR
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-21.28 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน อิตาลี คือ 5.151 ล้านล้าน EUR ดุลการค้าใน อิตาลี ลดลงไปที่ 5.151 ล้านล้าน EUR ในวันที่ 1/6/2567 หลังจากที่เป็น 6.377 ล้านล้าน EUR ในวันที่ 1/5/2567 ตั้งแต่ 1/1/2534 ถึง 1/7/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน อิตาลี คือ 1.26 ล้านล้าน EUR จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/7/2563 ด้วยค่า 9.55 ล้านล้าน EUR ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/8/2565 ด้วยค่า -9.56 ล้านล้าน EUR

แหล่งที่มา: National Institute of Statistics (ISTAT)

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/6/25675.151 ล้านล้าน EUR
1/5/25676.377 ล้านล้าน EUR
1/4/25674.829 ล้านล้าน EUR
1/3/25674.296 ล้านล้าน EUR
1/2/25676 ล้านล้าน EUR
1/1/25672.495 ล้านล้าน EUR
1/12/25665.527 ล้านล้าน EUR
1/11/25663.884 ล้านล้าน EUR
1/10/25664.732 ล้านล้าน EUR
1/9/25662.393 ล้านล้าน EUR
1
2
3
4
5
...
27

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇮🇹
กระแสเงินทุน
11.92 ล้านล้าน EUR-2.019 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇮🇹
การขายอาวุธ
1.437 ล้านล้าน SIPRI TIV1.716 ล้านล้าน SIPRI TIVประจำปี
🇮🇹
การผลิตน้ำมันดิบ
89 BBL/D/1K69 BBL/D/1Kรายเดือน
🇮🇹
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
267.21 ล้าน EUR3.11 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇮🇹
การโอนเงิน
115.737 ล้าน EUR113.597 ล้าน EURควอร์เตอร์
🇮🇹
เงื่อนไขการซื้อขาย
106.07 points104.9 pointsรายเดือน
🇮🇹
ดัชนีการก่อการร้าย
1.447 Points3.29 Pointsประจำปี
🇮🇹
ทองคำสำรอง
2,451.84 Tonnes2,451.84 Tonnesควอร์เตอร์
🇮🇹
นำเข้า
50.433 ล้านล้าน EUR46.748 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇮🇹
นำเข้าก๊าซธรรมชาติ
0 Terajoule196,678.829 Terajouleรายเดือน
🇮🇹
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
1.376 ล้านล้าน EUR5.527 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇮🇹
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
9.919 ล้าน Persons8.031 ล้าน Personsรายเดือน
🇮🇹
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
0 % of GDP-1.7 % of GDPประจำปี
🇮🇹
รายได้จากการท่องเที่ยว
5.092 ล้านล้าน EUR4.015 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇮🇹
ส่งออก
57.176 ล้านล้าน EUR51.898 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇮🇹
หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี
122 % of GDP123 % of GDPควอร์เตอร์
🇮🇹
หนี้สินต่างประเทศ
2.586 ชีวภาพ. EUR2.575 ชีวภาพ. EURควอร์เตอร์

อิตาลีมีการบันทึกการเกินดุลการค้าอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2013 จนถึงปี 2022 ซึ่งค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นทำให้ราคาสินค้านำเข้าสูงขึ้นและทำให้เศรษฐกิจของอิตาลีต้องนำเข้าสินค้ามากกว่าการส่งออก สินค้าส่งออกหลักของอิตาลีประกอบด้วยโลหะพื้นฐาน, สารเคมี, อุปกรณ์การขนส่ง, และผลิตภัณฑ์ยา ในขณะที่สินค้านำเข้าหลักได้แก่ เครื่องจักรและพลังงาน คู่ค้าส่งออกรายใหญ่สุดคือ ฝรั่งเศส, เยอรมนี, และสหรัฐอเมริกา ขณะที่คู่ค้านำเข้ารายใหญ่สุดได้แก่ เยอรมนี, ฝรั่งเศส, จีน และประเทศสมาชิก OPEC

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว