ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇹🇼

ไต้หวัน ดุลการค้า

ราคา

6.46 ล้านล้าน USD
การเปลี่ยนแปลง +/-
-2.202 ล้านล้าน USD
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-29.13 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน ไต้หวัน คือ 6.46 ล้านล้าน USD ดุลการค้าใน ไต้หวัน ลดลงไปที่ 6.46 ล้านล้าน USD ในวันที่ 1/4/2567 หลังจากที่เป็น 8.662 ล้านล้าน USD ในวันที่ 1/3/2567 ตั้งแต่ 1/1/2524 ถึง 1/5/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน ไต้หวัน คือ 2.04 ล้านล้าน USD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/12/2566 ด้วยค่า 11.18 ล้านล้าน USD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/2/2549 ด้วยค่า -847.4 ล้าน USD

แหล่งที่มา: Ministry of Finance, R.O.C.

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/25676.46 ล้านล้าน USD
1/3/25678.662 ล้านล้าน USD
1/2/25677.899 ล้านล้าน USD
1/1/25672.386 ล้านล้าน USD
1/12/256611.183 ล้านล้าน USD
1/11/25669.825 ล้านล้าน USD
1/10/25665.764 ล้านล้าน USD
1/9/256610.321 ล้านล้าน USD
1/8/25668.603 ล้านล้าน USD
1/7/25668.514 ล้านล้าน USD
1
2
3
4
5
...
51

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇹🇼
กระแสเงินทุน
29.184 ล้านล้าน USD31.873 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇹🇼
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
1.405 ล้านล้าน USD572.23 ล้าน USDรายเดือน
🇹🇼
การส่งออกเทียบปีต่อปี
3.5 %4.3 %รายเดือน
🇹🇼
เงื่อนไขการซื้อขาย
99.4 points99.8 pointsรายเดือน
🇹🇼
ดัชนีการก่อการร้าย
0 Points0 Pointsประจำปี
🇹🇼
ทองคำสำรอง
423.63 Tonnes423.63 Tonnesควอร์เตอร์
🇹🇼
นำเข้า
31.307 ล้านล้าน USD31.02 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇹🇼
นำเข้า YoY
0.6 %6.6 %รายเดือน
🇹🇼
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
29.11 ล้านล้าน USD34.84 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇹🇼
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
811,608 648,348 รายเดือน
🇹🇼
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
11.8 % of GDP13.3 % of GDPประจำปี
🇹🇼
ส่งออก
37.356 ล้านล้าน USD37.48 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇹🇼
หนี้สินต่างประเทศ
206.499 ล้านล้าน USD202.545 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์

การค้าระหว่างประเทศได้เป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตอย่างรวดเร็วของไต้หวันในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ส่งออกหลักได้แก่ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, โลหะพื้นฐาน, สินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ, การสื่อสารและผลิตภัณฑ์เครื่องเสียง, เครื่องจักรกล และพลาสติกและยาง ไต้หวันนำเข้าส่วนใหญ่เป็นชิ้นส่วนของผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์, ผลิตภัณฑ์แร่ธาตุและโลหะพื้นฐาน, เครื่องจักรกล และสารเคมี คู่ค้าที่สำคัญได้แก่ จีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง, สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, ยุโรป และประเทศในกลุ่มอาเซียน

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว