ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ไซปรัส การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ราคา
ค่าสินค้าคงคลังในปัจจุบันของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ใน ไซปรัส อยู่ที่ 248.3 ล้าน EUR การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังใน ไซปรัส เพิ่มขึ้นเป็น 248.3 ล้าน EUR เมื่อวันที่ 1/3/2566 หลังจากที่มันอยู่ที่ 151.1 ล้าน EUR เมื่อวันที่ 1/12/2565 ตั้งแต่ 1/3/2538 ถึง 1/6/2567 GDP เฉลี่ยใน ไซปรัส อยู่ที่ -3.52 ล้าน EUR ค่าสูงสุดตลอดกาลถูกทำได้เมื่อวันที่ 1/6/2563 ด้วย 314 ล้าน EUR ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อวันที่ 1/12/2563 ด้วย -540.9 ล้าน EUR
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ·
แม็กซ์
การเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงเหลือ | |
---|---|
1/3/2538 | 25.2 ล้าน EUR |
1/6/2538 | 63 ล้าน EUR |
1/9/2538 | 26 ล้าน EUR |
1/3/2539 | 69.4 ล้าน EUR |
1/6/2539 | 4.8 ล้าน EUR |
1/6/2540 | 24.6 ล้าน EUR |
1/12/2541 | 23.8 ล้าน EUR |
1/3/2543 | 2.1 ล้าน EUR |
1/6/2543 | 41 ล้าน EUR |
1/12/2543 | 51.2 ล้าน EUR |
1/6/2544 | 36.7 ล้าน EUR |
1/12/2545 | 15.2 ล้าน EUR |
1/3/2546 | 47.8 ล้าน EUR |
1/6/2546 | 16.8 ล้าน EUR |
1/3/2547 | 3.2 ล้าน EUR |
1/6/2547 | 32.6 ล้าน EUR |
1/9/2547 | 29.5 ล้าน EUR |
1/12/2547 | 117.3 ล้าน EUR |
1/3/2548 | 142 ล้าน EUR |
1/9/2548 | 41.6 ล้าน EUR |
1/3/2549 | 1.2 ล้าน EUR |
1/12/2549 | 72.8 ล้าน EUR |
1/6/2550 | 7.1 ล้าน EUR |
1/6/2551 | 157.1 ล้าน EUR |
1/9/2551 | 136.7 ล้าน EUR |
1/12/2551 | 33.3 ล้าน EUR |
1/9/2552 | 98.4 ล้าน EUR |
1/12/2552 | 33.4 ล้าน EUR |
1/3/2553 | 43.4 ล้าน EUR |
1/6/2553 | 186.5 ล้าน EUR |
1/9/2553 | 130.4 ล้าน EUR |
1/6/2554 | 19.2 ล้าน EUR |
1/9/2554 | 115.2 ล้าน EUR |
1/6/2555 | 66 ล้าน EUR |
1/9/2555 | 78.4 ล้าน EUR |
1/12/2555 | 124.7 ล้าน EUR |
1/12/2556 | 99 ล้าน EUR |
1/3/2557 | 46.6 ล้าน EUR |
1/9/2557 | 162.8 ล้าน EUR |
1/3/2558 | 53 ล้าน EUR |
1/9/2558 | 65.8 ล้าน EUR |
1/6/2559 | 16.8 ล้าน EUR |
1/12/2559 | 48 ล้าน EUR |
1/3/2560 | 164.7 ล้าน EUR |
1/6/2560 | 84.5 ล้าน EUR |
1/9/2560 | 85.9 ล้าน EUR |
1/3/2561 | 128.2 ล้าน EUR |
1/6/2561 | 175.3 ล้าน EUR |
1/9/2561 | 21.3 ล้าน EUR |
1/3/2562 | 281.4 ล้าน EUR |
1/6/2562 | 94.2 ล้าน EUR |
1/3/2563 | 205.2 ล้าน EUR |
1/6/2563 | 314 ล้าน EUR |
1/6/2564 | 61.4 ล้าน EUR |
1/12/2564 | 85.2 ล้าน EUR |
1/9/2565 | 140 ล้าน EUR |
1/12/2565 | 151.1 ล้าน EUR |
1/3/2566 | 248.3 ล้าน EUR |
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/3/2566 | 248.3 ล้าน EUR |
1/12/2565 | 151.1 ล้าน EUR |
1/9/2565 | 140 ล้าน EUR |
1/12/2564 | 85.2 ล้าน EUR |
1/6/2564 | 61.4 ล้าน EUR |
1/6/2563 | 314 ล้าน EUR |
1/3/2563 | 205.2 ล้าน EUR |
1/6/2562 | 94.2 ล้าน EUR |
1/3/2562 | 281.4 ล้าน EUR |
1/9/2561 | 21.3 ล้าน EUR |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇨🇾 การจดทะเบียนรถยนต์ | 1,341 Units | 812 Units | รายเดือน |
🇨🇾 การผลิตในภาคการผลิต | 7.3 % | 2.7 % | รายเดือน |
🇨🇾 การผลิตไฟฟ้า | 629.206 Gigawatt-hour | 663.579 Gigawatt-hour | รายเดือน |
🇨🇾 การผลิตเหมืองแร่ | 36.9 % | 0.7 % | รายเดือน |
🇨🇾 การผลิตอุตสาหกรรม | 8.2 % | 3.4 % | รายเดือน |
🇨🇾 การอนุมัติรถยนต์ไฟฟ้า | 200 Units | 77 Units | รายเดือน |
🇨🇾 สภาวะธุรกิจ | 103.8 points | 103 points | รายเดือน |
ในประเทศไซปรัส การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังมักจะเป็นตัวบ่งชี้ล่วงหน้าสำหรับประสิทธิภาพโดยรวมของเศรษฐกิจ
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง: การวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคที่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เปรียบเสมือนการมองดูภาพรวมเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับระบบเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศ การศึกษาว่าเหตุใดสินค้าคงคลังถึงมีการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่มาตามมาดูเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจไม่ค่อยนึกถึง แต่จริง ๆ แล้วมันมีศักยภาพในการเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการทำนายและวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจมหภาคได้อย่างชัดเจน สินค้าคงคลังหมายถึงสินค้าที่ผลิตขึ้นแล้วแต่ยังไม่ถูกขาย ซึ่งรวมถึงสินค้าสำเร็จรูป วัตถุดิบ และงานระหว่างการผลิต การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังสามารถบ่งบอกถึงความคาดหวังของผู้ผลิตต่อความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต โดยการสงวนสินค้าจะเป็นการสะท้อนถึงการขึ้ดหวังว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งการวิเคาะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้มีความสัมพันธ์กันกับส่วนต่าง ๆ ของระบบเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง ประการที่หนึ่ง การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อผู้ผลิตเพิ่มการผลิตและเพิ่มสำรองสินค้าคงคลังในระยะเวลาที่เศรษฐกิจยังไม่ได้เติบโตมากนัก แสดงถึงความเชื่อว่ามีความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้เรามองเห็นการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมและการจ้างงานในระยะยาว ขณะเดียวกัน หากผู้ผลิตลดการผลิตและลดสินค้าคงคลังลง นั่นอาจบ่งบอกถึงการขาดแคลนความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าการเล่นลดลง นอกจากการเติบโตทางเศรษฐกิจแล้ว การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถมีผลต่อเสถียรภาพทางการเงิน หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคลดลง อาจนำไปสู่สถานการณ์ที่เรียกว่า 'สินค้าล้นตลาด' ซึ่งย่อมทำให้ผู้ผลิตปรับลดการผลิต เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจัดการและการเก็บสำรองสินค้าคงคลังที่มากเกินไป ในสถานการณ์นี้ เศรษฐกิจอาจเผชิญกับการเติบโตชะลอตัวและการจ้างงานลดลง อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสามารถใช้การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยในการวิเคราะห์และตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน หากการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังบ่งบอกถึงเงื่อนไขที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การลดลงของความต้องการ ทางธนาคารกลางอาจพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยหรือนโยบายอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ คุณลักษณะที่เด่นชัดอีกอย่างของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังคือมันสามารถสะท้อนถึงระดับการแข่งขันในตลาด หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเขตภาคการผลิตที่มีการแข่งขันสูงจนเกินไป ผู้ผลิตจะต้องเพิ่มการผลิตเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อกำไรและราคาในตลาดได้ นอกจากนี้ การแข่งขันที่รุนแรงอาจทำให้ผู้ผลิตต้องลดการสำรองสินค้าคงคลังเพื่อลดค่าใช้จ่าย ทำให้มีความเสี่ยงต่อความเพียงพอในการรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นเฉียบพลัน การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังมีผลต่อการนำเข้าและส่งออก การเพิ่มสินค้าคงคลังอาจทำให้มีความต้องการนำเข้าวัตถุดิบมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อดุลการค้าของประเทศ ขณะที่หากสินค้าคงคลังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แสดงว่าผู้ผลิตอาจพยายามลดการนำเข้าเพื่อลดค่าใช้จ่าย นอกจากนั้น การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนธุรกิจได้ ผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงในความต้องการของตลาดและจัดการทรัพยากรในมืออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ท้ายที่สุด การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังไม่เพียงแต่เป็นดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญ แต่มันยังมีผลกระทบต่อหลากหลายองค์ประกอบของระบบเศรษฐกิจ การประกอบธุรกิจ และนโยบายแห่งชาติ การศึกษาและการติดตามการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และมีคุณค่ามากสำหรับผู้ที่ต้องการผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ eulerpool เราขอนำเสนอข้อมูลการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังที่มีคุณภาพ มีความแม่นยำ และละเอียด เพื่อให้คุณสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการวิเคราะห์และตัดสินใจต่อธุรกิจและนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคุณต้องการข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพใหญ่และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ eulerpool คือคำตอบ ข้อมูลที่ทันสมัยและเชื่อถือได้เป็นสิ่งที่เรายืนยันนำเสนอให้แก่คุณ ขอบคุณที่ไว้วางใจให้เรานำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นมืออาชีพและเชื่อถือได้จาก eulerpool