ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇸🇮

สโลวีเนีย อัตราเงินเฟ้อ

ราคา

1.5 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
-1 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-50.00 %

ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน สโลวีเนีย คือ 1.5 % อัตราเงินเฟ้อ ใน สโลวีเนีย ลดลงถึง 1.5 % เมื่อ 1/6/2567 หลังจากที่เคยเป็น 2.5 % เมื่อ 1/5/2567 จาก 1/5/2537 ถึง 1/6/2567 GDP เฉลี่ยใน สโลวีเนีย อยู่ที่ 4.69 % สถิติสูงสุดตลอดกาลอยู่เมื่อ 1/8/2537 ที่ 22.6 % ในขณะที่ค่าต่ำสุดจดบันทึกไว้เมื่อ 1/4/2563 ที่ -1.2 %

แหล่งที่มา: Statistical Office of the Republic of Slovenia

อัตราเงินเฟ้อ

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/6/25671.5 %
1/5/25672.5 %
1/4/25673 %
1/3/25673.6 %
1/2/25673.4 %
1/1/25673.3 %
1/12/25664.2 %
1/11/25664.9 %
1/10/25666.9 %
1/9/25667.5 %
1
2
3
4
5
...
33

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇸🇮
CPI Transport
115.83 points114.08 pointsรายเดือน
🇸🇮
การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต
-2.4 %-2.9 %รายเดือน
🇸🇮
เงินเฟ้อค่าเช่า
5.7 %6.5 %รายเดือน
🇸🇮
เงินเฟ้อด้านอาหาร
1 %0.5 %รายเดือน
🇸🇮
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
128.26 points128.38 pointsรายเดือน
🇸🇮
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับเทียบแล้ว
128.44 points128.4 pointsรายเดือน
🇸🇮
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
141.42 points142.2 pointsรายเดือน
🇸🇮
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน
127.28 points126.52 pointsรายเดือน
🇸🇮
ต้นทุนการผลิต
124.82 points124.8 pointsรายเดือน
🇸🇮
ตัวคูณ GDP
108.9 points106.5 pointsประจำปี
🇸🇮
อัตราเงินเฟ้อ MoM
-0.1 %0.4 %รายเดือน
🇸🇮
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากัน YoY
1.6 %2.5 %รายเดือน
🇸🇮
อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากันรายเดือน
-0.2 %0 %รายเดือน
🇸🇮
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
2.3 %2.4 %รายเดือน

ในสโลวีเนีย หมวดหมู่ที่สำคัญที่สุดในดัชนีราคาผู้บริโภคได้แก่ อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (17% ของน้ำหนักรวมทั้งหมด), การคมนาคม (15%), และที่อยู่อาศัยและสาธารณูปโภค (14%) ส่วนหมวดอื่น ๆ ที่มีความสำคัญรองลงมาคือ การพักผ่อนและวัฒนธรรม (10%), เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ในครัวเรือน และการบำรุงรักษาประจำวัน (7%), สินค้าบริการเบ็ดเตล็ด (7%), เสื้อผ้าและรองเท้า (7%), ร้านอาหารและโรงแรม (7%), และสุขภาพ (6%) นอกจากนี้ ดัชนียังรวมถึง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ (5%), การสื่อสาร (4%), และการศึกษา (1%)

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ