ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇸🇪

สวีเดน ดุลการค้า

ราคา

7.2 ล้านล้าน SEK
การเปลี่ยนแปลง +/-
+2.6 ล้านล้าน SEK
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+44.07 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน สวีเดน คือ 7.2 ล้านล้าน SEK ดุลการค้าใน สวีเดน เพิ่มขึ้นเป็น 7.2 ล้านล้าน SEK เมื่อ 1/4/2567 หลังจากที่เป็น 4.6 ล้านล้าน SEK เมื่อ 1/3/2567 จาก 1/1/2503 ถึง 1/5/2567 GDP เฉลี่ยใน สวีเดน คือ 3.34 ล้านล้าน SEK มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถึงเมื่อ 1/3/2549 โดยมีมูลค่า 21.8 ล้านล้าน SEK ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/8/2565 โดยมีมูลค่า -18.2 ล้านล้าน SEK

แหล่งที่มา: Statistics Sweden

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/25677.2 ล้านล้าน SEK
1/3/25674.6 ล้านล้าน SEK
1/2/256710.5 ล้านล้าน SEK
1/1/256712.5 ล้านล้าน SEK
1/12/25661.7 ล้านล้าน SEK
1/11/256610.3 ล้านล้าน SEK
1/10/25667.6 ล้านล้าน SEK
1/9/25662.5 ล้านล้าน SEK
1/7/25665.9 ล้านล้าน SEK
1/6/25663.6 ล้านล้าน SEK
1
2
3
4
5
...
54

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇸🇪
กระแสเงินทุน
156.6 ล้านล้าน SEK71.5 ล้านล้าน SEKควอร์เตอร์
🇸🇪
การขายอาวุธ
299 ล้าน SIPRI TIV66 ล้าน SIPRI TIVประจำปี
🇸🇪
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
87.1 ล้านล้าน SEK82.6 ล้านล้าน SEKควอร์เตอร์
🇸🇪
การโอนเงิน
23 ล้านล้าน SEK22.2 ล้านล้าน SEKควอร์เตอร์
🇸🇪
เงื่อนไขการซื้อขาย
97.75 points97.83 pointsรายเดือน
🇸🇪
ดัชนีการก่อการร้าย
0.735 Points2.307 Pointsประจำปี
🇸🇪
ทองคำสำรอง
125.72 Tonnes125.72 Tonnesควอร์เตอร์
🇸🇪
นำเข้า
161.9 ล้านล้าน SEK176.8 ล้านล้าน SEKรายเดือน
🇸🇪
นำเข้าก๊าซธรรมชาติ
2,584 Terajoule3,215 Terajouleรายเดือน
🇸🇪
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
115.9 ล้านล้าน SEK102.4 ล้านล้าน SEKควอร์เตอร์
🇸🇪
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
6.8 % of GDP5.4 % of GDPประจำปี
🇸🇪
ส่งออก
186.7 ล้านล้าน SEK182.2 ล้านล้าน SEKรายเดือน
🇸🇪
หนี้สินต่างประเทศ
62.884 ล้านล้าน SEK63.069 ล้านล้าน SEKรายเดือน

ประเทศสวีเดนส่งออกสินค้าส่วนใหญ่เป็นเครื่องจักร, ยานยนต์, ผลิตภัณฑ์กระดาษ, เยื่อและไม้, เหล็ก, ผลิตภัณฑ์เหล็ก, สารเคมี ประเทศนี้นำเข้าเครื่องจักร, น้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมัน, สารเคมี, ยานยนต์, เหล็กและเหล็กกล้า; อาหารและเสื้อผ้า สหภาพยุโรปเป็นคู่ค้าสำคัญที่สุด คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 61% ของการส่งออกและ 72% ของการนำเข้า นอร์เวย์, รัสเซีย, สหรัฐอเมริกา และจีนก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว