ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇸🇪

สวีเดน หนี้ภาคเอกชนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)

ราคา

310.5 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
+6.2 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+2.02 %

ค่าในปัจจุบันของหนี้ภาคเอกชนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน สวีเดน คือ 310.5 % หนี้ภาคเอกชนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน สวีเดน เพิ่มขึ้นเป็น 310.5 % เมื่อ 1/1/2564 หลังจากที่เป็น 304.3 % เมื่อ 1/1/2563 ตั้งแต่ 1/1/2538 ถึง 1/1/2565 GDP เฉลี่ยใน สวีเดน อยู่ที่ 245.27 % จุดสูงสุดที่เคยมีมาคือเมื่อ 1/1/2564 ด้วยค่า 310.5 % ขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/1/2538 ด้วยค่า 182.1 %

แหล่งที่มา: OECD

หนี้ภาคเอกชนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)

  • แม็กซ์

หนี้ส่วนบุคคลต่อ GDP

หนี้ภาคเอกชนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/1/2564310.5 %
1/1/2563304.3 %
1/1/2562288.9 %
1/1/2561280.5 %
1/1/2560280.3 %
1/1/2559273.8 %
1/1/2558273.4 %
1/1/2557270 %
1/1/2556268.9 %
1/1/2555265.4 %
1
2
3

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ หนี้ภาคเอกชนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇸🇪
การเติบโตของเครดิต
0.7 %0.5 %รายเดือน
🇸🇪
เครดิตสำหรับภาคเอกชน
1.71 ชีวภาพ. SEK1.714 ชีวภาพ. SEKรายเดือน
🇸🇪
งบดุลของธนาคาร
13.6 ชีวภาพ. SEK13.497 ชีวภาพ. SEKรายเดือน
🇸🇪
งบดุลของธนาคารกลาง
1.254 ชีวภาพ. SEK1.251 ชีวภาพ. SEKรายเดือน
🇸🇪
เงินสำรองต่างประเทศ
621.22 ล้านล้าน SEK619.863 ล้านล้าน SEKรายเดือน
🇸🇪
ปริมาณเงิน M0
56.735 ล้านล้าน SEK56.767 ล้านล้าน SEKรายเดือน
🇸🇪
ปริมาณเงิน M1
3.821 ชีวภาพ. SEK3.84 ชีวภาพ. SEKรายเดือน
🇸🇪
ปริมาณเงิน M2
4.771 ชีวภาพ. SEK4.775 ชีวภาพ. SEKรายเดือน
🇸🇪
ปริมาณเงิน M3
4.787 ชีวภาพ. SEK4.815 ชีวภาพ. SEKรายเดือน
🇸🇪
อัตราดอกเบี้ย
3.75 %3.75 %frequency_daily
🇸🇪
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้
3.85 %3.85 %รายเดือน
🇸🇪
อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก
3.65 %3.9 %รายเดือน
🇸🇪
อัตราดอกเบี้ยระหว่างธนาคาร
3.504 %3.507 %frequency_daily

หนี้สินภาคเอกชนต่อ GDP วัดระดับหนี้สินของทั้งสองภาคส่วน ได้แก่ บริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน และครัวเรือนรวมถึงสถาบันที่ไม่แสวงหาผลกำไรที่ให้บริการแก่ครัวเรือน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์จาก GDP

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร หนี้ภาคเอกชนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)

ในบรรดาหมวดหมู่ของตัวชี้วัดทางมหภาค (Macroeconomics) ที่ถือว่าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญและได้รับความสนใจมากในแวดวงเศรษฐกิจ น้ำหนักไม่ธรรมดาคือ "Private Debt to GDP" หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่าหนี้สินภาคเอกชนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการวิเคราะห์ภาพรวมของเศรษฐกิจ ไม่ว่าเราจะพูดถึงการประเมินสุขภาพทางการเงินของประเทศ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับภาระหนี้ หรือการติดตามแนวโน้มของการเงินในภาคเอกชน การตรวจสอบหนี้สินภาคเอกชนต่อ GDP สามารถช่วยให้เราได้มุมมองที่ชัดเจนและมีหลักฐานเป็นตัวเลขที่จับต้องได้ เพื่อให้ผู้บริโภค นักลงทุน หรือหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลสนับสนุน เว็บไซต์ eulerpool เราคือแพลตฟอร์มที่มุ่งเน้นการนำเสนอข้อมูลทางเศรษฐกิจอันละเอียดและทำความเข้าใจได้ง่ายด้วยตัวชี้วัดที่ชัดเจน ภายในแวดวงนี้ Private Debt to GDP ถือเป็นตัวเลขที่ใช้เป็นมาตรฐานซึ่งมีพันธกิจหลักในตรวจจับสภาพแวดล้อมทางการเงินของประเทศ วงจรของหนี้สินในภาคเอกชนถือเป็นภาพสะท้อนของวิธีการที่บริษัทและครัวเรือนดำเนินการเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน การคำนวณ Private Debt to GDP คือ การนำมูลค่าหนี้สินในภาคเอกชนซึ่งรวมถึงทั้งหนี้สินของครัวเรือนและธุรกิจเอกชนมาเปรียบเทียบกับมูลค่า GDP ของประเทศ ตามปกติค่าเปอร์เซ็นต์จะบอกถึงแนวโน้มที่เป็นไปได้ว่าภาคเอกชนมีภาระหนี้สินมากน้อยแค่ไหนในเชิงเปรียบเทียบกับผลผลิตทั้งหมดของประเทศ ถ้าค่า Private Debt to GDP มีค่าสูง มันแสดงให้เห็นถึงระดับหนี้สินที่สูงมากในภาคเอกชน ซึ่งอาจจะหมายความว่าภาคเอกชนต้องพึ่งพาหนี้สินในระดับที่สูงเพื่อดำเนินการธุรกิจและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ค่า Private Debt to GDP สูงมักนำมาซึ่งความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงิน เนื่องจากมีโอกาสสูงที่การไม่สามารถชำระหนี้อาจจะกระทบหนักต่อระบบการเงินทั้งหมด ในทางตรงกันข้าม ค่า Private Debt to GDP ที่ต่ำหมายความว่า ภาคเอกชนมีหนี้สินต่ำและมีการนำเงินทุนมาใช้ในวิธีอื่นที่ไม่พึ่งการกู้ยืมมากเท่านั่นแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงในภาคเอกชนซึ่งจะทำให้เกิดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ การเปรียบเทียบค่า Private Debt to GDP ในแต่ละช่วงเวลายังสามารถบอกได้ถึงแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ได้อีกด้วย เช่น หากพบว่าค่า Private Debt to GDP เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถหมายความว่าภาคเอกชนเริ่มมีความเชื่อมั่นในอนาคตของเศรษฐกิจขึ้น จึงสามารถตัดสินใจที่จะเพิ่มการลงทุนโดยการกู้ยืมเงิน อย่างไรก็ตาม ต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจจะมีผลกระทบถึงค่า Private Debt to GDP ด้วย เช่น อัตราดอกเบี้ย การเติบโตของ GDP อัตราเงินเฟ้อ และนโยบายการคลังของรัฐบาล ค่าต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนมีผลกระทบต่อขีดความสามารถในการกู้ยืมเงินและความสามารถในการชำระหนี้ของภาคเอกชน ความสำคัญของการมีข้อมูล Private Debt to GDP ที่เข้าถึงได้และถูกต้องไม่สามารถมองข้ามได้ ในเว็บไซต์ eulerpool เราเน้นการนำเสนอข้อมูลดังกล่าวเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถติดตามสภาพการเงินของประเทศต่าง ๆ และวิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากสถานการณ์หนี้สิน ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนที่ต้องการวางกลยุทธ์การลงทุน หรือหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการวางนโยบายการคลัง การรู้และเข้าใจข้อมูล Private Debt to GDP จะเป็นประโยชน์และมีความสำคัญสูงสุด การดูแลให้ข้อมูลนี้เป็นปัจจุบันและเชื่อถือได้เป็นหน้าที่ของเว็บไซต์ eulerpool เราให้ความสำคัญกับการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้และการนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่ายพร้อมกับการวิเคราะห์และสรุปเพื่อให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล หากคุณต้องการติดตามข้อมูลของ Private Debt to GDP หรือค้นหาข้อมูลเศรษฐกิจอื่น ๆ มั่นใจได้ว่า eulerpool คือแหล่งข้อมูลที่คุณสามารถพึ่งพาได้ ด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง ทันสมัย และครอบคลุมที่สุด เราหวังว่า eulerpool จะเป็นเครื่องมือที่มีค่าสำหรับผู้ที่ต้องการทำความเข้าใจเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจและใช้ข้อมูลในการตัดสินใจที่สำคัญ สำหรับคำถามเพิ่มเติมหรือการวิเคราะห์เชิงลึกเราขอแนะนำให้เข้าไปยังเว็บไซต์ของเราเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม