ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇸🇿

สวาซิแลนด์ ดุลการค้า

ราคา

1.814 ล้านล้าน SZL
การเปลี่ยนแปลง +/-
+1.243 ล้านล้าน SZL
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+104.31 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน สวาซิแลนด์ คือ 1.814 ล้านล้าน SZL ดุลการค้าใน สวาซิแลนด์ เพิ่มขึ้นเป็น 1.814 ล้านล้าน SZL เมื่อ 1/9/2566 หลังจากที่เป็น 570.3 ล้าน SZL เมื่อ 1/6/2566 จาก 1/3/2548 ถึง 1/12/2566 GDP เฉลี่ยใน สวาซิแลนด์ คือ 340.7 ล้าน SZL มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถึงเมื่อ 1/12/2559 โดยมีมูลค่า 1.9 ล้านล้าน SZL ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/9/2548 โดยมีมูลค่า -1.07 ล้านล้าน SZL

แหล่งที่มา: Central Bank of Swaziland

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/9/25661.814 ล้านล้าน SZL
1/6/2566570.3 ล้าน SZL
1/12/2565900.5 ล้าน SZL
1/9/2565917.2 ล้าน SZL
1/12/25641.179 ล้านล้าน SZL
1/9/25641.196 ล้านล้าน SZL
1/12/25631.101 ล้านล้าน SZL
1/9/25631.778 ล้านล้าน SZL
1/6/2563195.2 ล้าน SZL
1/3/2563837.1 ล้าน SZL
1
2
3
4
...
5

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇸🇿
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
1.087 ล้านล้าน SZL1.8 ล้าน SZLควอร์เตอร์
🇸🇿
ดัชนีการก่อการร้าย
0.18 Points1.058 Pointsประจำปี
🇸🇿
นำเข้า
9.296 ล้านล้าน SZL9.018 ล้านล้าน SZLควอร์เตอร์
🇸🇿
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
121.3 ล้าน SZL1.529 ล้านล้าน SZLควอร์เตอร์
🇸🇿
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
-2.7 % of GDP2.6 % of GDPประจำปี
🇸🇿
ส่งออก
9.87 ล้านล้าน SZL10.832 ล้านล้าน SZLควอร์เตอร์
🇸🇿
หนี้สินต่างประเทศ
15.533 ล้านล้าน SZL16.041 ล้านล้าน SZLควอร์เตอร์

การค้าของประเทศสวาซิแลนด์ขึ้นอยู่กับประเทศแอฟริกาใต้เป็นอย่างมาก (คิดเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้าทั้งหมดและ 60 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออก) ประเทศสวาซิแลนด์เป็นสมาชิกของสหภาพศุลกากรแอฟริกาตอนใต้ (Southern African Customs Unions) และครึ่งหนึ่งของรายได้จากการค้าเกิดจากการส่งกลับออกใหม่ สินค้าส่งออกหลักของประเทศสวาซิแลนด์ประกอบด้วย น้ำตาล เยื่อไม้ เนื้อวัว และเครื่องดื่มเข้มข้น ประเทศสวาซิแลนด์เป็นผู้นำเข้าสุทธิเช่นอาหาร น้ำมัน และเครื่องจักร คู่ค้าหลักได้แก่ แอฟริกาใต้ โมซัมบิก บอตสวานา และนามิเบีย

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน แอฟริกา

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว