ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร สวาซิแลนด์ ดุลการค้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน สวาซิแลนด์ คือ 1.814 ล้านล้าน SZL ดุลการค้าใน สวาซิแลนด์ เพิ่มขึ้นเป็น 1.814 ล้านล้าน SZL เมื่อ 1/9/2566 หลังจากที่เป็น 570.3 ล้าน SZL เมื่อ 1/6/2566 จาก 1/3/2548 ถึง 1/12/2566 GDP เฉลี่ยใน สวาซิแลนด์ คือ 340.7 ล้าน SZL มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถึงเมื่อ 1/12/2559 โดยมีมูลค่า 1.9 ล้านล้าน SZL ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/9/2548 โดยมีมูลค่า -1.07 ล้านล้าน SZL
ดุลการค้า ·
แม็กซ์
ยอดการค้า | |
---|---|
1/3/2549 | 135.4 ล้าน SZL |
1/9/2549 | 497.2 ล้าน SZL |
1/12/2549 | 919.2 ล้าน SZL |
1/3/2550 | 775.4 ล้าน SZL |
1/6/2550 | 231.3 ล้าน SZL |
1/3/2551 | 227.5 ล้าน SZL |
1/12/2551 | 208.5 ล้าน SZL |
1/6/2552 | 241.8 ล้าน SZL |
1/9/2552 | 212.9 ล้าน SZL |
1/12/2552 | 523.1 ล้าน SZL |
1/9/2553 | 363.01 ล้าน SZL |
1/9/2555 | 57.31 ล้าน SZL |
1/12/2555 | 75.19 ล้าน SZL |
1/9/2556 | 716.35 ล้าน SZL |
1/12/2556 | 765.61 ล้าน SZL |
1/3/2557 | 447.76 ล้าน SZL |
1/6/2557 | 475.73 ล้าน SZL |
1/9/2557 | 687.59 ล้าน SZL |
1/12/2557 | 1.06 ล้านล้าน SZL |
1/3/2558 | 1.1 ล้านล้าน SZL |
1/6/2558 | 1.22 ล้านล้าน SZL |
1/9/2558 | 1.19 ล้านล้าน SZL |
1/12/2558 | 1.58 ล้านล้าน SZL |
1/3/2559 | 979.4 ล้าน SZL |
1/9/2559 | 596.2 ล้าน SZL |
1/12/2559 | 1.9 ล้านล้าน SZL |
1/3/2560 | 458.9 ล้าน SZL |
1/9/2560 | 846 ล้าน SZL |
1/12/2560 | 1.12 ล้านล้าน SZL |
1/12/2561 | 1.37 ล้านล้าน SZL |
1/3/2562 | 607.5 ล้าน SZL |
1/6/2562 | 498.4 ล้าน SZL |
1/9/2562 | 1.37 ล้านล้าน SZL |
1/12/2562 | 1.29 ล้านล้าน SZL |
1/3/2563 | 837.1 ล้าน SZL |
1/6/2563 | 195.2 ล้าน SZL |
1/9/2563 | 1.78 ล้านล้าน SZL |
1/12/2563 | 1.1 ล้านล้าน SZL |
1/9/2564 | 1.2 ล้านล้าน SZL |
1/12/2564 | 1.18 ล้านล้าน SZL |
1/9/2565 | 917.2 ล้าน SZL |
1/12/2565 | 900.5 ล้าน SZL |
1/6/2566 | 570.3 ล้าน SZL |
1/9/2566 | 1.81 ล้านล้าน SZL |
ดุลการค้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/9/2566 | 1.814 ล้านล้าน SZL |
1/6/2566 | 570.3 ล้าน SZL |
1/12/2565 | 900.5 ล้าน SZL |
1/9/2565 | 917.2 ล้าน SZL |
1/12/2564 | 1.179 ล้านล้าน SZL |
1/9/2564 | 1.196 ล้านล้าน SZL |
1/12/2563 | 1.101 ล้านล้าน SZL |
1/9/2563 | 1.778 ล้านล้าน SZL |
1/6/2563 | 195.2 ล้าน SZL |
1/3/2563 | 837.1 ล้าน SZL |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇸🇿 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | 1.087 ล้านล้าน SZL | 1.8 ล้าน SZL | ควอร์เตอร์ |
🇸🇿 ดัชนีการก่อการร้าย | 0.18 Points | 1.058 Points | ประจำปี |
🇸🇿 นำเข้า | 9.296 ล้านล้าน SZL | 9.018 ล้านล้าน SZL | ควอร์เตอร์ |
🇸🇿 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | 121.3 ล้าน SZL | 1.529 ล้านล้าน SZL | ควอร์เตอร์ |
🇸🇿 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | -2.7 % of GDP | 2.6 % of GDP | ประจำปี |
🇸🇿 ส่งออก | 9.87 ล้านล้าน SZL | 10.832 ล้านล้าน SZL | ควอร์เตอร์ |
🇸🇿 หนี้สินต่างประเทศ | 15.533 ล้านล้าน SZL | 16.041 ล้านล้าน SZL | ควอร์เตอร์ |
การค้าของประเทศสวาซิแลนด์ขึ้นอยู่กับประเทศแอฟริกาใต้เป็นอย่างมาก (คิดเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้าทั้งหมดและ 60 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออก) ประเทศสวาซิแลนด์เป็นสมาชิกของสหภาพศุลกากรแอฟริกาตอนใต้ (Southern African Customs Unions) และครึ่งหนึ่งของรายได้จากการค้าเกิดจากการส่งกลับออกใหม่ สินค้าส่งออกหลักของประเทศสวาซิแลนด์ประกอบด้วย น้ำตาล เยื่อไม้ เนื้อวัว และเครื่องดื่มเข้มข้น ประเทศสวาซิแลนด์เป็นผู้นำเข้าสุทธิเช่นอาหาร น้ำมัน และเครื่องจักร คู่ค้าหลักได้แก่ แอฟริกาใต้ โมซัมบิก บอตสวานา และนามิเบีย
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน แอฟริกา
- 🇩🇿แอลจีเรีย
- 🇦🇴แองโกลา
- 🇧🇯เบนิน
- 🇧🇼บอตสวานา
- 🇧🇫บูร์กินาฟาโซ
- 🇧🇮บุรุนดี
- 🇨🇲กาเมอรูน
- 🇨🇻คาบูเวิร์เด
- 🇨🇫สาธารณรัฐแอฟริกากลาง
- 🇹🇩ชาด
- 🇰🇲โคมอรอส
- 🇨🇬คองโก
- 🇿🇦แอฟริกาใต้
- 🇩🇯จิบูตี
- 🇪🇬อียิปต์
- 🇬🇶อิเควทอเรียลกินี
- 🇪🇷เอริเทรีย
- 🇪🇹เอธิโอเปีย
- 🇬🇦กาบอง
- 🇬🇲แกมเบีย
- 🇬🇭กานา
- 🇬🇳กินี
- 🇬🇼กินี-บิสเซา
- 🇨🇮ไอวอรีโคสต์
- 🇰🇪เคนยา
- 🇱🇸เลโซโท
- 🇱🇷ไลบีเรีย
- 🇱🇾ลิเบีย
- 🇲🇬มาดากัสการ์
- 🇲🇼มาลาวี
- 🇲🇱มาลี
- 🇲🇷มอริเตเนีย
- 🇲🇺มอริเชียส
- 🇲🇦โมร็อกโก
- 🇲🇿โมซัมบิก
- 🇳🇦นามิเบีย
- 🇳🇪ไนเจอร์
- 🇳🇬ไนจีเรีย
- 🇷🇼รวันดา
- 🇸🇹เซาตูเมและปรินซิปี
- 🇸🇳เซเนกัล
- 🇸🇨เซเชล
- 🇸🇱เซียร์ราลีโอน
- 🇸🇴โซมาเลีย
- ซูดานใต้
- 🇸🇩ซูดาน
- 🇹🇿แทนซาเนีย
- 🇹🇬โตโก
- 🇹🇳ตูนิเซีย
- 🇺🇬ยูกันดา
- 🇿🇲แซมเบีย
- 🇿🇼ซิมบับเว
คืออะไร ดุลการค้า
ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว