ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
สเปน การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังในสเปนคือ2.709 ล้านล้านEUR การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังในสเปนลดลงเหลือ2.709 ล้านล้านEURใน1/12/2567 หลังจากที่เคยเป็น3.209 ล้านล้านEURใน1/9/2567 จาก1/3/2538ถึง1/12/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ในสเปนคือ1.2 ล้านล้านEUR ค่าสูงสุดตลอดเวลาอยู่ที่1/12/2564ด้วยค่า8.5 ล้านล้านEUR ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ1/3/2552ด้วยค่า-3.88 ล้านล้านEUR
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ·
แม็กซ์
การเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงเหลือ | |
---|---|
1/3/2538 | 402 ล้าน EUR |
1/6/2538 | 349 ล้าน EUR |
1/9/2538 | 422 ล้าน EUR |
1/12/2538 | 465 ล้าน EUR |
1/3/2539 | 381 ล้าน EUR |
1/6/2539 | 389 ล้าน EUR |
1/9/2539 | 319 ล้าน EUR |
1/12/2539 | 278 ล้าน EUR |
1/3/2540 | 384 ล้าน EUR |
1/6/2540 | 295 ล้าน EUR |
1/9/2540 | 220 ล้าน EUR |
1/12/2540 | 275 ล้าน EUR |
1/3/2541 | 334 ล้าน EUR |
1/6/2541 | 519 ล้าน EUR |
1/9/2541 | 663 ล้าน EUR |
1/12/2541 | 747 ล้าน EUR |
1/3/2542 | 867 ล้าน EUR |
1/6/2542 | 798 ล้าน EUR |
1/9/2542 | 882 ล้าน EUR |
1/12/2542 | 845 ล้าน EUR |
1/3/2543 | 755 ล้าน EUR |
1/6/2543 | 805 ล้าน EUR |
1/9/2543 | 703 ล้าน EUR |
1/12/2543 | 642 ล้าน EUR |
1/3/2544 | 609 ล้าน EUR |
1/6/2544 | 715 ล้าน EUR |
1/9/2544 | 611 ล้าน EUR |
1/12/2544 | 538 ล้าน EUR |
1/3/2545 | 536 ล้าน EUR |
1/6/2545 | 521 ล้าน EUR |
1/9/2545 | 462 ล้าน EUR |
1/12/2545 | 617 ล้าน EUR |
1/3/2546 | 645 ล้าน EUR |
1/6/2546 | 171 ล้าน EUR |
1/9/2546 | 372 ล้าน EUR |
1/12/2546 | 189 ล้าน EUR |
1/3/2547 | 166 ล้าน EUR |
1/6/2547 | 737 ล้าน EUR |
1/9/2547 | 498 ล้าน EUR |
1/12/2547 | 623 ล้าน EUR |
1/3/2548 | 495 ล้าน EUR |
1/6/2548 | 459 ล้าน EUR |
1/9/2548 | 579 ล้าน EUR |
1/12/2548 | 600 ล้าน EUR |
1/3/2549 | 1.01 ล้านล้าน EUR |
1/6/2549 | 741 ล้าน EUR |
1/9/2549 | 849 ล้าน EUR |
1/12/2549 | 1.06 ล้านล้าน EUR |
1/3/2550 | 1.37 ล้านล้าน EUR |
1/6/2550 | 1.46 ล้านล้าน EUR |
1/9/2550 | 1.6 ล้านล้าน EUR |
1/12/2550 | 1.51 ล้านล้าน EUR |
1/3/2551 | 1.03 ล้านล้าน EUR |
1/6/2551 | 1.3 ล้านล้าน EUR |
1/9/2551 | 1.07 ล้านล้าน EUR |
1/12/2551 | 1.07 ล้านล้าน EUR |
1/6/2552 | 1.16 ล้านล้าน EUR |
1/9/2552 | 1.37 ล้านล้าน EUR |
1/12/2552 | 1.29 ล้านล้าน EUR |
1/3/2553 | 866 ล้าน EUR |
1/6/2553 | 999 ล้าน EUR |
1/9/2553 | 851 ล้าน EUR |
1/12/2553 | 876 ล้าน EUR |
1/3/2554 | 1.32 ล้านล้าน EUR |
1/6/2554 | 1.13 ล้านล้าน EUR |
1/9/2554 | 824 ล้าน EUR |
1/12/2554 | 473 ล้าน EUR |
1/12/2557 | 71 ล้าน EUR |
1/3/2558 | 2.3 ล้านล้าน EUR |
1/6/2558 | 2.28 ล้านล้าน EUR |
1/9/2558 | 2.46 ล้านล้าน EUR |
1/12/2558 | 2.58 ล้านล้าน EUR |
1/3/2559 | 2.51 ล้านล้าน EUR |
1/6/2559 | 2.05 ล้านล้าน EUR |
1/9/2559 | 1.69 ล้านล้าน EUR |
1/12/2559 | 1.43 ล้านล้าน EUR |
1/3/2560 | 1.24 ล้านล้าน EUR |
1/6/2560 | 1.28 ล้านล้าน EUR |
1/9/2560 | 1.38 ล้านล้าน EUR |
1/12/2560 | 1.64 ล้านล้าน EUR |
1/3/2561 | 2.27 ล้านล้าน EUR |
1/6/2561 | 2.58 ล้านล้าน EUR |
1/9/2561 | 2.69 ล้านล้าน EUR |
1/12/2561 | 2.51 ล้านล้าน EUR |
1/3/2562 | 1.62 ล้านล้าน EUR |
1/6/2562 | 1.32 ล้านล้าน EUR |
1/9/2562 | 1.14 ล้านล้าน EUR |
1/12/2562 | 924 ล้าน EUR |
1/3/2564 | 2.85 ล้านล้าน EUR |
1/6/2564 | 2.56 ล้านล้าน EUR |
1/9/2564 | 3.97 ล้านล้าน EUR |
1/12/2564 | 8.5 ล้านล้าน EUR |
1/3/2565 | 7 ล้านล้าน EUR |
1/6/2565 | 7.31 ล้านล้าน EUR |
1/9/2565 | 5.91 ล้านล้าน EUR |
1/12/2565 | 7.33 ล้านล้าน EUR |
1/3/2566 | 4.46 ล้านล้าน EUR |
1/6/2566 | 3.33 ล้านล้าน EUR |
1/9/2566 | 4.25 ล้านล้าน EUR |
1/12/2566 | 3.85 ล้านล้าน EUR |
1/3/2567 | 2.89 ล้านล้าน EUR |
1/6/2567 | 2.78 ล้านล้าน EUR |
1/9/2567 | 3.21 ล้านล้าน EUR |
1/12/2567 | 2.71 ล้านล้าน EUR |
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2567 | 2.709 ล้านล้าน EUR |
1/9/2567 | 3.209 ล้านล้าน EUR |
1/6/2567 | 2.781 ล้านล้าน EUR |
1/3/2567 | 2.885 ล้านล้าน EUR |
1/12/2566 | 3.846 ล้านล้าน EUR |
1/9/2566 | 4.251 ล้านล้าน EUR |
1/6/2566 | 3.325 ล้านล้าน EUR |
1/3/2566 | 4.458 ล้านล้าน EUR |
1/12/2565 | 7.334 ล้านล้าน EUR |
1/9/2565 | 5.909 ล้านล้าน EUR |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇪🇸 Composite PMI | 54 points | 55.1 points | รายเดือน |
🇪🇸 การจดทะเบียนรถยนต์ | 90,327 Units | 72,322 Units | รายเดือน |
🇪🇸 การผลิตซีเมนต์ | 1.424 ล้าน Tonnes | 1.265 ล้าน Tonnes | รายเดือน |
🇪🇸 การผลิตในภาคการผลิต | -2.1 % | -0.9 % | รายเดือน |
🇪🇸 การผลิตไฟฟ้า | 21,813.582 Gigawatt-hour | 24,775.262 Gigawatt-hour | รายเดือน |
🇪🇸 การผลิตรถยนต์ | 172,290 Units | 132,160 Units | รายเดือน |
🇪🇸 การผลิตเหมืองแร่ | -1.6 % | -6.1 % | รายเดือน |
🇪🇸 การผลิตอุตสาหกรรม | -1.9 % | -1.2 % | รายเดือน |
🇪🇸 การผลิตอุตสาหกรรมเดือนต่อเดือน | 0.7 % | -1.2 % | รายเดือน |
🇪🇸 การล้มละลาย | 2,558 Companies | 3,907 Companies | รายเดือน |
🇪🇸 การสั่งซื้อใหม่ | -10.8 points | -9.7 points | รายเดือน |
🇪🇸 การอนุมัติรถยนต์ไฟฟ้า | 6,112 Units | 5,012 Units | รายเดือน |
🇪🇸 ตัวชี้วัดเชิง복합แสดงสัญญาณล่วงหน้า | 101.004 points | 100.892 points | รายเดือน |
🇪🇸 บริการ PMI | 54.7 points | 56.2 points | รายเดือน |
🇪🇸 ผลิตภัณฑ์ PMI | 49.5 points | 49.7 points | รายเดือน |
🇪🇸 ยอดการจดทะเบียนรถยนต์ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น YoY | 11 % | 5.3 % | รายเดือน |
🇪🇸 ยอดขายรถยนต์รวม | 116,725 Units | 90,327 Units | รายเดือน |
🇪🇸 ราคาสปอตของไฟฟ้า | 64.39 EUR/MWh | 29.45 EUR/MWh | frequency_null |
🇪🇸 สภาวะธุรกิจ | -5.4 points | -6.3 points | รายเดือน |
🇪🇸 อัตราการใช้กำลังการผลิต | 76.4 % | 77.5 % | ควอร์เตอร์ |
ในสเปน การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังมักเป็นดัชนีชี้นำสำคัญสำหรับผลประกอบการโดยรวมของเศรษฐกิจ
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง: การวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคที่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เปรียบเสมือนการมองดูภาพรวมเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับระบบเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศ การศึกษาว่าเหตุใดสินค้าคงคลังถึงมีการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่มาตามมาดูเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจไม่ค่อยนึกถึง แต่จริง ๆ แล้วมันมีศักยภาพในการเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการทำนายและวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจมหภาคได้อย่างชัดเจน สินค้าคงคลังหมายถึงสินค้าที่ผลิตขึ้นแล้วแต่ยังไม่ถูกขาย ซึ่งรวมถึงสินค้าสำเร็จรูป วัตถุดิบ และงานระหว่างการผลิต การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังสามารถบ่งบอกถึงความคาดหวังของผู้ผลิตต่อความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต โดยการสงวนสินค้าจะเป็นการสะท้อนถึงการขึ้ดหวังว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งการวิเคาะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้มีความสัมพันธ์กันกับส่วนต่าง ๆ ของระบบเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง ประการที่หนึ่ง การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อผู้ผลิตเพิ่มการผลิตและเพิ่มสำรองสินค้าคงคลังในระยะเวลาที่เศรษฐกิจยังไม่ได้เติบโตมากนัก แสดงถึงความเชื่อว่ามีความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้เรามองเห็นการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมและการจ้างงานในระยะยาว ขณะเดียวกัน หากผู้ผลิตลดการผลิตและลดสินค้าคงคลังลง นั่นอาจบ่งบอกถึงการขาดแคลนความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าการเล่นลดลง นอกจากการเติบโตทางเศรษฐกิจแล้ว การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถมีผลต่อเสถียรภาพทางการเงิน หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคลดลง อาจนำไปสู่สถานการณ์ที่เรียกว่า 'สินค้าล้นตลาด' ซึ่งย่อมทำให้ผู้ผลิตปรับลดการผลิต เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจัดการและการเก็บสำรองสินค้าคงคลังที่มากเกินไป ในสถานการณ์นี้ เศรษฐกิจอาจเผชิญกับการเติบโตชะลอตัวและการจ้างงานลดลง อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสามารถใช้การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยในการวิเคราะห์และตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน หากการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังบ่งบอกถึงเงื่อนไขที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การลดลงของความต้องการ ทางธนาคารกลางอาจพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยหรือนโยบายอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ คุณลักษณะที่เด่นชัดอีกอย่างของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังคือมันสามารถสะท้อนถึงระดับการแข่งขันในตลาด หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเขตภาคการผลิตที่มีการแข่งขันสูงจนเกินไป ผู้ผลิตจะต้องเพิ่มการผลิตเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อกำไรและราคาในตลาดได้ นอกจากนี้ การแข่งขันที่รุนแรงอาจทำให้ผู้ผลิตต้องลดการสำรองสินค้าคงคลังเพื่อลดค่าใช้จ่าย ทำให้มีความเสี่ยงต่อความเพียงพอในการรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นเฉียบพลัน การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังมีผลต่อการนำเข้าและส่งออก การเพิ่มสินค้าคงคลังอาจทำให้มีความต้องการนำเข้าวัตถุดิบมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อดุลการค้าของประเทศ ขณะที่หากสินค้าคงคลังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แสดงว่าผู้ผลิตอาจพยายามลดการนำเข้าเพื่อลดค่าใช้จ่าย นอกจากนั้น การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนธุรกิจได้ ผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงในความต้องการของตลาดและจัดการทรัพยากรในมืออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ท้ายที่สุด การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังไม่เพียงแต่เป็นดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญ แต่มันยังมีผลกระทบต่อหลากหลายองค์ประกอบของระบบเศรษฐกิจ การประกอบธุรกิจ และนโยบายแห่งชาติ การศึกษาและการติดตามการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และมีคุณค่ามากสำหรับผู้ที่ต้องการผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ eulerpool เราขอนำเสนอข้อมูลการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังที่มีคุณภาพ มีความแม่นยำ และละเอียด เพื่อให้คุณสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการวิเคราะห์และตัดสินใจต่อธุรกิจและนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคุณต้องการข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพใหญ่และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ eulerpool คือคำตอบ ข้อมูลที่ทันสมัยและเชื่อถือได้เป็นสิ่งที่เรายืนยันนำเสนอให้แก่คุณ ขอบคุณที่ไว้วางใจให้เรานำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นมืออาชีพและเชื่อถือได้จาก eulerpool