ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร สิงคโปร์ กระแสเงินทุน
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินทุนในสิงคโปร์คือ10.527 ล้านล้านSGD กระแสเงินทุนในสิงคโปร์ลดลงเหลือ10.527 ล้านล้านSGDเมื่อวันที่1/3/2567 หลังจากที่เคยเป็น19.903 ล้านล้านSGDเมื่อวันที่1/12/2566 ตั้งแต่1/3/2529ถึง1/6/2567 GDP เฉลี่ยในสิงคโปร์อยู่ที่8.21 ล้านล้านSGD โดยทำสถิติสูงสุดเมื่อ1/6/2565กับ107.22 ล้านล้านSGD ขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ1/6/2563กับ-24.32 ล้านล้านSGD
กระแสเงินทุน ·
แม็กซ์
กระแสเงินทุน | |
---|---|
1/6/2529 | 1.8 ล้านล้าน SGD |
1/12/2529 | 2.27 ล้านล้าน SGD |
1/3/2530 | 479.1 ล้าน SGD |
1/9/2530 | 833.9 ล้าน SGD |
1/12/2530 | 1.52 ล้านล้าน SGD |
1/6/2531 | 872 ล้าน SGD |
1/9/2531 | 1.7 ล้านล้าน SGD |
1/12/2531 | 1.69 ล้านล้าน SGD |
1/6/2534 | 1.09 ล้านล้าน SGD |
1/9/2534 | 429.9 ล้าน SGD |
1/6/2536 | 864.7 ล้าน SGD |
1/9/2536 | 601.1 ล้าน SGD |
1/12/2536 | 1.1 ล้านล้าน SGD |
1/3/2537 | 206 ล้าน SGD |
1/6/2537 | 2.12 ล้านล้าน SGD |
1/9/2537 | 4.1 ล้านล้าน SGD |
1/12/2537 | 7.73 ล้านล้าน SGD |
1/3/2538 | 2.77 ล้านล้าน SGD |
1/9/2538 | 2.76 ล้านล้าน SGD |
1/12/2538 | 4.84 ล้านล้าน SGD |
1/3/2539 | 4.59 ล้านล้าน SGD |
1/6/2539 | 1.14 ล้านล้าน SGD |
1/9/2539 | 5.33 ล้านล้าน SGD |
1/12/2539 | 3.26 ล้านล้าน SGD |
1/3/2540 | 494 ล้าน SGD |
1/6/2540 | 4.01 ล้านล้าน SGD |
1/9/2540 | 3.38 ล้านล้าน SGD |
1/12/2540 | 3.64 ล้านล้าน SGD |
1/3/2541 | 6.5 ล้านล้าน SGD |
1/6/2541 | 7.04 ล้านล้าน SGD |
1/9/2541 | 6.54 ล้านล้าน SGD |
1/12/2541 | 5.25 ล้านล้าน SGD |
1/3/2542 | 7.95 ล้านล้าน SGD |
1/6/2542 | 4.02 ล้านล้าน SGD |
1/9/2542 | 7.07 ล้านล้าน SGD |
1/12/2542 | 4.02 ล้านล้าน SGD |
1/3/2543 | 5.72 ล้านล้าน SGD |
1/6/2543 | 734.8 ล้าน SGD |
1/9/2543 | 3.73 ล้านล้าน SGD |
1/3/2544 | 1.62 ล้านล้าน SGD |
1/6/2544 | 12.48 ล้านล้าน SGD |
1/9/2544 | 8.34 ล้านล้าน SGD |
1/12/2544 | 1 ล้านล้าน SGD |
1/3/2545 | 3.01 ล้านล้าน SGD |
1/6/2545 | 3.12 ล้านล้าน SGD |
1/9/2545 | 6.43 ล้านล้าน SGD |
1/12/2545 | 7.25 ล้านล้าน SGD |
1/3/2546 | 6.82 ล้านล้าน SGD |
1/6/2546 | 6.78 ล้านล้าน SGD |
1/9/2546 | 4.54 ล้านล้าน SGD |
1/12/2546 | 6.75 ล้านล้าน SGD |
1/6/2547 | 8.55 ล้านล้าน SGD |
1/9/2547 | 8.31 ล้านล้าน SGD |
1/12/2547 | 2.05 ล้านล้าน SGD |
1/3/2548 | 3.62 ล้านล้าน SGD |
1/6/2548 | 1.03 ล้านล้าน SGD |
1/9/2548 | 11.9 ล้านล้าน SGD |
1/12/2548 | 9.41 ล้านล้าน SGD |
1/3/2549 | 4.34 ล้านล้าน SGD |
1/6/2549 | 7.66 ล้านล้าน SGD |
1/9/2549 | 9.32 ล้านล้าน SGD |
1/12/2549 | 5.47 ล้านล้าน SGD |
1/3/2550 | 19.13 ล้านล้าน SGD |
1/6/2550 | 9.12 ล้านล้าน SGD |
1/9/2550 | 14.34 ล้านล้าน SGD |
1/12/2550 | 228.2 ล้าน SGD |
1/6/2551 | 5.87 ล้านล้าน SGD |
1/9/2551 | 12.4 ล้านล้าน SGD |
1/12/2551 | 1.41 ล้านล้าน SGD |
1/3/2552 | 17.36 ล้านล้าน SGD |
1/6/2552 | 12.05 ล้านล้าน SGD |
1/9/2552 | 4.28 ล้านล้าน SGD |
1/6/2553 | 4.96 ล้านล้าน SGD |
1/9/2553 | 17.11 ล้านล้าน SGD |
1/12/2553 | 5.21 ล้านล้าน SGD |
1/3/2554 | 13.53 ล้านล้าน SGD |
1/6/2554 | 13.72 ล้านล้าน SGD |
1/9/2554 | 11.39 ล้านล้าน SGD |
1/12/2554 | 18.03 ล้านล้าน SGD |
1/3/2555 | 9.32 ล้านล้าน SGD |
1/6/2555 | 11.32 ล้านล้าน SGD |
1/9/2555 | 8.37 ล้านล้าน SGD |
1/12/2555 | 1.39 ล้านล้าน SGD |
1/3/2556 | 2.38 ล้านล้าน SGD |
1/6/2556 | 13.02 ล้านล้าน SGD |
1/9/2556 | 15.35 ล้านล้าน SGD |
1/12/2556 | 9.43 ล้านล้าน SGD |
1/3/2557 | 11.32 ล้านล้าน SGD |
1/6/2557 | 9.88 ล้านล้าน SGD |
1/9/2557 | 18.47 ล้านล้าน SGD |
1/12/2557 | 20.25 ล้านล้าน SGD |
1/3/2558 | 20.37 ล้านล้าน SGD |
1/6/2558 | 12.55 ล้านล้าน SGD |
1/9/2558 | 19.86 ล้านล้าน SGD |
1/12/2558 | 19.27 ล้านล้าน SGD |
1/3/2559 | 23.97 ล้านล้าน SGD |
1/6/2559 | 14.64 ล้านล้าน SGD |
1/9/2559 | 20.27 ล้านล้าน SGD |
1/12/2559 | 22.13 ล้านล้าน SGD |
1/3/2560 | 2.93 ล้านล้าน SGD |
1/6/2560 | 17 ล้านล้าน SGD |
1/9/2560 | 12.2 ล้านล้าน SGD |
1/12/2560 | 14.34 ล้านล้าน SGD |
1/3/2561 | 9.59 ล้านล้าน SGD |
1/6/2561 | 12.03 ล้านล้าน SGD |
1/9/2561 | 17.96 ล้านล้าน SGD |
1/12/2561 | 24.14 ล้านล้าน SGD |
1/3/2562 | 7.75 ล้านล้าน SGD |
1/6/2562 | 51.39 ล้านล้าน SGD |
1/9/2562 | 17.09 ล้านล้าน SGD |
1/12/2562 | 17.63 ล้านล้าน SGD |
1/3/2563 | 9.32 ล้านล้าน SGD |
1/9/2563 | 8.59 ล้านล้าน SGD |
1/6/2564 | 7.56 ล้านล้าน SGD |
1/12/2564 | 27.36 ล้านล้าน SGD |
1/3/2565 | 76.17 ล้านล้าน SGD |
1/6/2565 | 107.22 ล้านล้าน SGD |
1/9/2565 | 58.9 ล้านล้าน SGD |
1/12/2565 | 36.59 ล้านล้าน SGD |
1/6/2566 | 5.82 ล้านล้าน SGD |
1/9/2566 | 22.6 ล้านล้าน SGD |
1/12/2566 | 19.9 ล้านล้าน SGD |
1/3/2567 | 10.53 ล้านล้าน SGD |
กระแสเงินทุน ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/3/2567 | 10.527 ล้านล้าน SGD |
1/12/2566 | 19.903 ล้านล้าน SGD |
1/9/2566 | 22.598 ล้านล้าน SGD |
1/6/2566 | 5.817 ล้านล้าน SGD |
1/12/2565 | 36.591 ล้านล้าน SGD |
1/9/2565 | 58.9 ล้านล้าน SGD |
1/6/2565 | 107.218 ล้านล้าน SGD |
1/3/2565 | 76.166 ล้านล้าน SGD |
1/12/2564 | 27.363 ล้านล้าน SGD |
1/6/2564 | 7.559 ล้านล้าน SGD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ กระแสเงินทุน
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇸🇬 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | 53.935 ล้านล้าน SGD | 75.741 ล้านล้าน SGD | ควอร์เตอร์ |
🇸🇬 การส่งออกที่ไม่ใช่การส่งออกน้ำมัน | -0.1 % | 7.6 % | รายเดือน |
🇸🇬 การส่งออกภายในประเทศที่ไม่ใช่น้ำมัน (NODX) (%YoY) | -0.1 % | -9.3 % | รายเดือน |
🇸🇬 เงื่อนไขการซื้อขาย | 100.512 points | 101.89 points | รายเดือน |
🇸🇬 ดัชนีการก่อการร้าย | 0 Points | 0 Points | ประจำปี |
🇸🇬 ทองคำสำรอง | 228.86 Tonnes | 236.6 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇸🇬 นำเข้า | 50.213 ล้านล้าน SGD | 51.874 ล้านล้าน SGD | รายเดือน |
🇸🇬 ยอดการค้า | 4.563 ล้านล้าน SGD | 4.517 ล้านล้าน SGD | รายเดือน |
🇸🇬 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | 34.572 ล้านล้าน SGD | 37.68 ล้านล้าน SGD | ควอร์เตอร์ |
🇸🇬 ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า | 1.27 ล้าน | 1.54 ล้าน | รายเดือน |
🇸🇬 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | 19.8 % of GDP | 18 % of GDP | ประจำปี |
🇸🇬 ส่งออก | 56.442 ล้านล้าน SGD | 57.768 ล้านล้าน SGD | รายเดือน |
🇸🇬 หนี้สินต่างประเทศ | 2.726 ชีวภาพ. SGD | 2.706 ชีวภาพ. SGD | ควอร์เตอร์ |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร กระแสเงินทุน
กระแสเงินทุนเป็นหมวดหมู่สำคัญที่มีบทบาทอยู่ในเศรษฐกิจมหภาค นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนให้ความสำคัญเพราะกระแสเงินทุนมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเสถียรภาพและการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ในแต่ละประเทศ การเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของกระแสเงินทุนสามารถช่วยให้รัฐบาลและผู้นำทางเศรษฐกิจวางแผนและดำเนินนโยบายที่เหมาะสมเพื่อค้าและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ การศึกษากระแสเงินทุนสามารถแยกย่อยได้หลายประเภท ซึ่งหลักๆ จะเป็นเงินทุนขาเข้าและเงินทุนขาออก เงินทุนขาเข้าหมายถึงเงินที่ไหลเข้ามาในประเทศจากต่างประเทศ อาจจะมาในรูปแบบการลงทุนโดยตรง การลงทุนในหลักทรัพย์ หรือการให้สินเชื่อ การไหลเข้าของเงินทุนขาเข้านี้สามารถช่วยสร้างงานเพิ่มขึ้น เพิ่มทุน และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศได้ เงินทุนขาออกหมายถึงเงินที่ไหลออกจากประเทศไปยังต่างประเทศ ในกรณีที่มีเงินทุนขาออกมากเกินไป อาจทำให้ค่าเงินของประเทศอ่อนค่าลง และอาจทำให้เกิดปัญหาเงินทุนสำรองระหว่างประเทศลดลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของประเทศนั้นลดน้อยลง ปัจจัยที่มีผลต่อกระแสเงินทุนสามารถแยกย่อยได้เป็นหลายหมวดหมู่ อาทิเช่น ปัจจัยภายในประเทศ ได้แก่ เสถียรภาพทางการเมือง นโยบายการเงินและการคลัง สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ อัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยนที่มีเสถียรภาพ ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศได้แก่ เศรษฐกิจโลก, การเคลื่อนไหวของตลาดทุน, อัตราดอกเบี้ยระหว่างประเทศ และความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ กระแสเงินทุนที่เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว ซึ่งมักจะเป็นทุนระยะสั้นนั้นสามารถสร้างความผันผวนให้กับเศรษฐกิจได้มากกว่าทุนระยะยาวที่มักจะมีเสถียรภาพกว่า เมื่อกระแสเงินทุนหมุนเวียนเข้าสู่ประเทศ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มักจะเป็นที่ต้องการเพราะเป็นการลงทุนเพื่อการผลิตหรือการขยายธุรกิจที่มีความยั่งยืน ในทางกลับกัน การไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้น เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์ การเก็งกำไรในค่าเงิน สามารถสร้างความเสี่ยงและความผันผวนให้กับระบบการเงินของประเทศ ในยุคปัจจุบันที่ตลาดการเงินมีการเชื่อมต่อกันอย่างเข้มข้น กระแสเงินทุนข้ามประเทศสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสาร การเข้าใจและติดตามกระแสเงินทุนอย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการ นักลงทุน และรัฐบาล ความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยในการบริหารจัดการกระแสเงินทุน ประเด็นนี้สำคัญมากโดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก การทำความเข้าใจและประสานงานกันระหว่างประเทศสามารถช่วยลดความเสี่ยงและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกรูปแบบหนึ่งของการไหลของกระแสเงินทุนที่น่าสนใจคือระบบเงินทุนไหลเข้าและออกในระดับรัฐและองค์กรขนาดใหญ่ เช่น การออกพันธบัตรโดยรัฐหรือองค์กรข้ามชาติ การศึกษาและวิเคราะห์แนวโน้มของการรับจ่ายเงินในระดับนี้ช่วยให้เราเข้าใจภาพรวมและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้ละเอียดมากขึ้น นอกจากการศึกษาผ่านตัวเลขและสถิติ การตีความและวิเคราะห์กระแสเงินทุนในเชิงข้อความบอกเล่าสามารถลดความซับซ้อนของข้อมูลที่ซับซ้อน ทำให้ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์สามารถเข้าใจ และนำไปใช้ประโยชน์ได้ บ่อยครั้งที่กระแสเงินทุนมีความสัมพันธ์กับตลาดทุนและตลาดเงิน ทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง ย่อมมีผลกระทบต่อตลาดอีกด้าน เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางในประเทศใดประเทศหนึ่ง ย่อมทำให้มีการเคลื่อนย้ายของเงินทุนทั้งขาเข้าและขาออกในประเทศนั้น ตัวอย่างเช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐอเมริกาอาจจะสร้างแรงดึงดูดให้กับเงินทุนไหลออกจากประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าไปยังสหรัฐ ในเว็บไซต์ eulerpool ของเรา เราให้ความสำคัญกับการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับกระแสเงินทุนอย่างเป็นระบบ และเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์และทำความเข้าใจกระแสเงินทุนได้อย่างง่ายดาย ข้อมูลเหล่านี้จะถูกปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจในปัจจุบันเสมือนจริง ทั้งนี้ ความสามารถในการตามติดและวิเคราะห์กระแสเงินทุนอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เราทุกคนสามารถเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสและความท้าทายทางเศรษฐกิจในอนาคต ไม่ว่าเราจะเป็นนักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ หรือนักวางแผนทางนโยบาย การเข้าใจกระแสเงินทุนและการสามารถใช้ข้อมูลนี้อย่างมีประสิทธิภาพคือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จทางเศรษฐกิจในระยะยาว