ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร เคนยา กระแสเงินทุน
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินทุนในเคนยาอยู่ที่935.6 ล้านUSD กระแสเงินทุนในเคนยาเพิ่มขึ้นเป็น935.6 ล้านUSDเมื่อ1/10/2557 หลังจากที่เป็น656.5 ล้านUSDเมื่อ1/9/2557 จากวันที่1/1/2544ถึง1/3/2567 GDP เฉลี่ยในเคนยาอยู่ที่-1.73 ล้านล้านUSD มูลค่าสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่2.28 ล้านล้านUSDเมื่อ1/6/2557 ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ1/3/2558ที่-6.99 ล้านล้านUSD
กระแสเงินทุน ·
แม็กซ์
กระแสเงินทุน | |
---|---|
1/5/2544 | 37 ล้าน USD |
1/6/2544 | 82 ล้าน USD |
1/7/2544 | 16 ล้าน USD |
1/8/2544 | 41 ล้าน USD |
1/9/2544 | 102 ล้าน USD |
1/11/2544 | 143 ล้าน USD |
1/12/2544 | 1 ล้าน USD |
1/2/2545 | 13 ล้าน USD |
1/3/2545 | 61 ล้าน USD |
1/4/2545 | 12 ล้าน USD |
1/6/2545 | 51 ล้าน USD |
1/7/2545 | 10 ล้าน USD |
1/8/2545 | 80 ล้าน USD |
1/10/2545 | 76 ล้าน USD |
1/1/2546 | 66 ล้าน USD |
1/3/2546 | 22 ล้าน USD |
1/4/2546 | 61 ล้าน USD |
1/5/2546 | 30.8 ล้าน USD |
1/7/2546 | 33.3 ล้าน USD |
1/8/2546 | 63 ล้าน USD |
1/10/2546 | 80.1 ล้าน USD |
1/11/2546 | 5.2 ล้าน USD |
1/12/2546 | 98.1 ล้าน USD |
1/2/2547 | 17.2 ล้าน USD |
1/4/2547 | 25.6 ล้าน USD |
1/5/2547 | 35.4 ล้าน USD |
1/6/2547 | 121.6 ล้าน USD |
1/7/2547 | 11 ล้าน USD |
1/8/2547 | 46.6 ล้าน USD |
1/9/2547 | 85.4 ล้าน USD |
1/10/2547 | 52 ล้าน USD |
1/11/2547 | 126.1 ล้าน USD |
1/12/2547 | 165.3 ล้าน USD |
1/1/2548 | 78.7 ล้าน USD |
1/2/2548 | 77.4 ล้าน USD |
1/3/2548 | 36.8 ล้าน USD |
1/4/2548 | 359.6 ล้าน USD |
1/5/2548 | 121.5 ล้าน USD |
1/6/2548 | 209 ล้าน USD |
1/7/2548 | 138.7 ล้าน USD |
1/8/2548 | 316.3 ล้าน USD |
1/9/2548 | 91.2 ล้าน USD |
1/10/2548 | 187.2 ล้าน USD |
1/11/2548 | 91.4 ล้าน USD |
1/12/2548 | 174.2 ล้าน USD |
1/1/2549 | 267.4 ล้าน USD |
1/2/2549 | 160.4 ล้าน USD |
1/3/2549 | 172.3 ล้าน USD |
1/4/2549 | 414.5 ล้าน USD |
1/5/2549 | 260.3 ล้าน USD |
1/6/2549 | 201.5 ล้าน USD |
1/7/2549 | 158.7 ล้าน USD |
1/8/2549 | 197.5 ล้าน USD |
1/9/2549 | 145.3 ล้าน USD |
1/10/2549 | 145.4 ล้าน USD |
1/11/2549 | 164.1 ล้าน USD |
1/12/2549 | 84.7 ล้าน USD |
1/1/2550 | 220.5 ล้าน USD |
1/2/2550 | 216.8 ล้าน USD |
1/3/2550 | 107.9 ล้าน USD |
1/4/2550 | 118 ล้าน USD |
1/6/2550 | 140.6 ล้าน USD |
1/7/2550 | 223.7 ล้าน USD |
1/8/2550 | 81.9 ล้าน USD |
1/9/2550 | 143.1 ล้าน USD |
1/10/2550 | 225.2 ล้าน USD |
1/11/2550 | 174.3 ล้าน USD |
1/12/2550 | 427.6 ล้าน USD |
1/1/2551 | 245.5 ล้าน USD |
1/3/2551 | 66.4 ล้าน USD |
1/5/2551 | 202 ล้าน USD |
1/6/2551 | 58.7 ล้าน USD |
1/7/2551 | 217 ล้าน USD |
1/8/2551 | 217.5 ล้าน USD |
1/9/2551 | 201.1 ล้าน USD |
1/10/2551 | 82 ล้าน USD |
1/11/2551 | 118.9 ล้าน USD |
1/12/2551 | 154.2 ล้าน USD |
1/1/2552 | 93.1 ล้าน USD |
1/2/2552 | 121.3 ล้าน USD |
1/4/2552 | 361.2 ล้าน USD |
1/5/2552 | 183.3 ล้าน USD |
1/6/2552 | 222.5 ล้าน USD |
1/7/2552 | 181.6 ล้าน USD |
1/8/2552 | 489.1 ล้าน USD |
1/9/2552 | 345 ล้าน USD |
1/10/2552 | 242 ล้าน USD |
1/11/2552 | 190.4 ล้าน USD |
1/12/2552 | 2.7 ล้าน USD |
1/1/2553 | 206.6 ล้าน USD |
1/4/2553 | 180.9 ล้าน USD |
1/5/2553 | 201.3 ล้าน USD |
1/6/2553 | 234.9 ล้าน USD |
1/7/2553 | 266.4 ล้าน USD |
1/8/2553 | 225.5 ล้าน USD |
1/9/2553 | 403.5 ล้าน USD |
1/10/2553 | 234 ล้าน USD |
1/11/2553 | 311.1 ล้าน USD |
1/12/2553 | 228.6 ล้าน USD |
1/1/2554 | 312.6 ล้าน USD |
1/2/2554 | 228.2 ล้าน USD |
1/3/2554 | 332.7 ล้าน USD |
1/4/2554 | 254.2 ล้าน USD |
1/5/2554 | 541.8 ล้าน USD |
1/6/2554 | 302.4 ล้าน USD |
1/7/2554 | 254.4 ล้าน USD |
1/8/2554 | 595.7 ล้าน USD |
1/9/2554 | 105.7 ล้าน USD |
1/10/2554 | 173.2 ล้าน USD |
1/11/2554 | 467.7 ล้าน USD |
1/12/2554 | 469.4 ล้าน USD |
1/1/2555 | 197.4 ล้าน USD |
1/2/2555 | 498.6 ล้าน USD |
1/3/2555 | 714.2 ล้าน USD |
1/4/2555 | 417.2 ล้าน USD |
1/5/2555 | 92.1 ล้าน USD |
1/6/2555 | 924.6 ล้าน USD |
1/7/2555 | 494.3 ล้าน USD |
1/8/2555 | 591.8 ล้าน USD |
1/9/2555 | 508.5 ล้าน USD |
1/10/2555 | 241.8 ล้าน USD |
1/11/2555 | 433.5 ล้าน USD |
1/12/2555 | 417.5 ล้าน USD |
1/1/2556 | 145.7 ล้าน USD |
1/2/2556 | 158.4 ล้าน USD |
1/3/2556 | 528.9 ล้าน USD |
1/4/2556 | 652.5 ล้าน USD |
1/5/2556 | 502 ล้าน USD |
1/6/2556 | 186.4 ล้าน USD |
1/7/2556 | 465 ล้าน USD |
1/8/2556 | 532 ล้าน USD |
1/9/2556 | 495.7 ล้าน USD |
1/10/2556 | 590.6 ล้าน USD |
1/11/2556 | 391.6 ล้าน USD |
1/12/2556 | 515.5 ล้าน USD |
1/1/2557 | 510.1 ล้าน USD |
1/2/2557 | 170 ล้าน USD |
1/3/2557 | 360.3 ล้าน USD |
1/4/2557 | 566.6 ล้าน USD |
1/5/2557 | 326.5 ล้าน USD |
1/6/2557 | 2.28 ล้านล้าน USD |
1/7/2557 | 173.6 ล้าน USD |
1/8/2557 | 345.1 ล้าน USD |
1/9/2557 | 656.5 ล้าน USD |
1/10/2557 | 935.6 ล้าน USD |
กระแสเงินทุน ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/10/2557 | 935.6 ล้าน USD |
1/9/2557 | 656.5 ล้าน USD |
1/8/2557 | 345.1 ล้าน USD |
1/7/2557 | 173.6 ล้าน USD |
1/6/2557 | 2.284 ล้านล้าน USD |
1/5/2557 | 326.5 ล้าน USD |
1/4/2557 | 566.6 ล้าน USD |
1/3/2557 | 360.3 ล้าน USD |
1/2/2557 | 170 ล้าน USD |
1/1/2557 | 510.1 ล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ กระแสเงินทุน
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇰🇪 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | 46.39 ล้านล้าน KES | 50.801 ล้านล้าน KES | ประจำปี |
🇰🇪 การโอนเงิน | 404.447 ล้าน USD | 397.297 ล้าน USD | รายเดือน |
🇰🇪 เงื่อนไขการซื้อขาย | 71.4 points | 75.3 points | ประจำปี |
🇰🇪 ดัชนีการก่อการร้าย | 5.616 Points | 6.163 Points | ประจำปี |
🇰🇪 ทองคำสำรอง | 0.02 Tonnes | 0.02 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇰🇪 นำเข้า | 208.229 ล้านล้าน KES | 226.412 ล้านล้าน KES | รายเดือน |
🇰🇪 ยอดการค้า | -110.296 ล้านล้าน KES | -118.989 ล้านล้าน KES | รายเดือน |
🇰🇪 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | -4.544 ล้านล้าน USD | -4.443 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇰🇪 ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า | 134,665 | 154,283 | รายเดือน |
🇰🇪 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | -4 % of GDP | -5.1 % of GDP | ประจำปี |
🇰🇪 ส่งออก | 97.933 ล้านล้าน KES | 107.423 ล้านล้าน KES | รายเดือน |
🇰🇪 หนี้สินต่างประเทศ | 5.163 ชีวภาพ. KES | 5.654 ชีวภาพ. KES | รายเดือน |
ในประเทศเคนยา การวัดกระแสเงินทุนระหว่างประเทศถูกดำเนินการผ่านดุลการเงินทุนและบัญชีการเงินของดุลการชำระเงิน
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน แอฟริกา
- 🇩🇿แอลจีเรีย
- 🇦🇴แองโกลา
- 🇧🇯เบนิน
- 🇧🇼บอตสวานา
- 🇧🇫บูร์กินาฟาโซ
- 🇧🇮บุรุนดี
- 🇨🇲กาเมอรูน
- 🇨🇻คาบูเวิร์เด
- 🇨🇫สาธารณรัฐแอฟริกากลาง
- 🇹🇩ชาด
- 🇰🇲โคมอรอส
- 🇨🇬คองโก
- 🇿🇦แอฟริกาใต้
- 🇩🇯จิบูตี
- 🇪🇬อียิปต์
- 🇬🇶อิเควทอเรียลกินี
- 🇪🇷เอริเทรีย
- 🇪🇹เอธิโอเปีย
- 🇬🇦กาบอง
- 🇬🇲แกมเบีย
- 🇬🇭กานา
- 🇬🇳กินี
- 🇬🇼กินี-บิสเซา
- 🇨🇮ไอวอรีโคสต์
- 🇱🇸เลโซโท
- 🇱🇷ไลบีเรีย
- 🇱🇾ลิเบีย
- 🇲🇬มาดากัสการ์
- 🇲🇼มาลาวี
- 🇲🇱มาลี
- 🇲🇷มอริเตเนีย
- 🇲🇺มอริเชียส
- 🇲🇦โมร็อกโก
- 🇲🇿โมซัมบิก
- 🇳🇦นามิเบีย
- 🇳🇪ไนเจอร์
- 🇳🇬ไนจีเรีย
- 🇷🇼รวันดา
- 🇸🇹เซาตูเมและปรินซิปี
- 🇸🇳เซเนกัล
- 🇸🇨เซเชล
- 🇸🇱เซียร์ราลีโอน
- 🇸🇴โซมาเลีย
- ซูดานใต้
- 🇸🇩ซูดาน
- 🇸🇿สวาซิแลนด์
- 🇹🇿แทนซาเนีย
- 🇹🇬โตโก
- 🇹🇳ตูนิเซีย
- 🇺🇬ยูกันดา
- 🇿🇲แซมเบีย
- 🇿🇼ซิมบับเว
คืออะไร กระแสเงินทุน
กระแสเงินทุนเป็นหมวดหมู่สำคัญที่มีบทบาทอยู่ในเศรษฐกิจมหภาค นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนให้ความสำคัญเพราะกระแสเงินทุนมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเสถียรภาพและการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ในแต่ละประเทศ การเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของกระแสเงินทุนสามารถช่วยให้รัฐบาลและผู้นำทางเศรษฐกิจวางแผนและดำเนินนโยบายที่เหมาะสมเพื่อค้าและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ การศึกษากระแสเงินทุนสามารถแยกย่อยได้หลายประเภท ซึ่งหลักๆ จะเป็นเงินทุนขาเข้าและเงินทุนขาออก เงินทุนขาเข้าหมายถึงเงินที่ไหลเข้ามาในประเทศจากต่างประเทศ อาจจะมาในรูปแบบการลงทุนโดยตรง การลงทุนในหลักทรัพย์ หรือการให้สินเชื่อ การไหลเข้าของเงินทุนขาเข้านี้สามารถช่วยสร้างงานเพิ่มขึ้น เพิ่มทุน และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศได้ เงินทุนขาออกหมายถึงเงินที่ไหลออกจากประเทศไปยังต่างประเทศ ในกรณีที่มีเงินทุนขาออกมากเกินไป อาจทำให้ค่าเงินของประเทศอ่อนค่าลง และอาจทำให้เกิดปัญหาเงินทุนสำรองระหว่างประเทศลดลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของประเทศนั้นลดน้อยลง ปัจจัยที่มีผลต่อกระแสเงินทุนสามารถแยกย่อยได้เป็นหลายหมวดหมู่ อาทิเช่น ปัจจัยภายในประเทศ ได้แก่ เสถียรภาพทางการเมือง นโยบายการเงินและการคลัง สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ อัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยนที่มีเสถียรภาพ ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศได้แก่ เศรษฐกิจโลก, การเคลื่อนไหวของตลาดทุน, อัตราดอกเบี้ยระหว่างประเทศ และความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ กระแสเงินทุนที่เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว ซึ่งมักจะเป็นทุนระยะสั้นนั้นสามารถสร้างความผันผวนให้กับเศรษฐกิจได้มากกว่าทุนระยะยาวที่มักจะมีเสถียรภาพกว่า เมื่อกระแสเงินทุนหมุนเวียนเข้าสู่ประเทศ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มักจะเป็นที่ต้องการเพราะเป็นการลงทุนเพื่อการผลิตหรือการขยายธุรกิจที่มีความยั่งยืน ในทางกลับกัน การไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้น เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์ การเก็งกำไรในค่าเงิน สามารถสร้างความเสี่ยงและความผันผวนให้กับระบบการเงินของประเทศ ในยุคปัจจุบันที่ตลาดการเงินมีการเชื่อมต่อกันอย่างเข้มข้น กระแสเงินทุนข้ามประเทศสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสาร การเข้าใจและติดตามกระแสเงินทุนอย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการ นักลงทุน และรัฐบาล ความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยในการบริหารจัดการกระแสเงินทุน ประเด็นนี้สำคัญมากโดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก การทำความเข้าใจและประสานงานกันระหว่างประเทศสามารถช่วยลดความเสี่ยงและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกรูปแบบหนึ่งของการไหลของกระแสเงินทุนที่น่าสนใจคือระบบเงินทุนไหลเข้าและออกในระดับรัฐและองค์กรขนาดใหญ่ เช่น การออกพันธบัตรโดยรัฐหรือองค์กรข้ามชาติ การศึกษาและวิเคราะห์แนวโน้มของการรับจ่ายเงินในระดับนี้ช่วยให้เราเข้าใจภาพรวมและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้ละเอียดมากขึ้น นอกจากการศึกษาผ่านตัวเลขและสถิติ การตีความและวิเคราะห์กระแสเงินทุนในเชิงข้อความบอกเล่าสามารถลดความซับซ้อนของข้อมูลที่ซับซ้อน ทำให้ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์สามารถเข้าใจ และนำไปใช้ประโยชน์ได้ บ่อยครั้งที่กระแสเงินทุนมีความสัมพันธ์กับตลาดทุนและตลาดเงิน ทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง ย่อมมีผลกระทบต่อตลาดอีกด้าน เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางในประเทศใดประเทศหนึ่ง ย่อมทำให้มีการเคลื่อนย้ายของเงินทุนทั้งขาเข้าและขาออกในประเทศนั้น ตัวอย่างเช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐอเมริกาอาจจะสร้างแรงดึงดูดให้กับเงินทุนไหลออกจากประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าไปยังสหรัฐ ในเว็บไซต์ eulerpool ของเรา เราให้ความสำคัญกับการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับกระแสเงินทุนอย่างเป็นระบบ และเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์และทำความเข้าใจกระแสเงินทุนได้อย่างง่ายดาย ข้อมูลเหล่านี้จะถูกปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจในปัจจุบันเสมือนจริง ทั้งนี้ ความสามารถในการตามติดและวิเคราะห์กระแสเงินทุนอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เราทุกคนสามารถเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสและความท้าทายทางเศรษฐกิจในอนาคต ไม่ว่าเราจะเป็นนักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ หรือนักวางแผนทางนโยบาย การเข้าใจกระแสเงินทุนและการสามารถใช้ข้อมูลนี้อย่างมีประสิทธิภาพคือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จทางเศรษฐกิจในระยะยาว