ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇶🇦

กาตาร์ ดุลการค้า

ราคา

17.43 ล้านล้าน QAR
การเปลี่ยนแปลง +/-
-172 ล้าน QAR
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-0.98 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน กาตาร์ คือ 17.43 ล้านล้าน QAR ดุลการค้าใน กาตาร์ ลดลงไปที่ 17.43 ล้านล้าน QAR ในวันที่ 1/4/2567 หลังจากที่เป็น 17.602 ล้านล้าน QAR ในวันที่ 1/3/2567 ตั้งแต่ 1/5/2547 ถึง 1/5/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน กาตาร์ คือ 22.04 ล้านล้าน QAR จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/8/2555 ด้วยค่า 98.67 ล้านล้าน QAR ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/4/2563 ด้วยค่า 4.35 ล้านล้าน QAR

แหล่งที่มา: Ministry of Development Planning and Statistics

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/256717.43 ล้านล้าน QAR
1/3/256717.602 ล้านล้าน QAR
1/2/256718.114 ล้านล้าน QAR
1/1/256717.467 ล้านล้าน QAR
1/12/256618.732 ล้านล้าน QAR
1/11/256616.727 ล้านล้าน QAR
1/10/256619.027 ล้านล้าน QAR
1/9/256619.868 ล้านล้าน QAR
1/8/256621.355 ล้านล้าน QAR
1/7/256619.646 ล้านล้าน QAR
1
2
3
4
5
...
17

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇶🇦
กระแสเงินทุน
-29.47 ล้านล้าน QAR-28.546 ล้านล้าน QARควอร์เตอร์
🇶🇦
การผลิตน้ำมันดิบ
1,322 BBL/D/1K1,322 BBL/D/1Kรายเดือน
🇶🇦
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
106 ล้าน QAR233 ล้าน QARควอร์เตอร์
🇶🇦
ดัชนีการก่อการร้าย
0 Points0 Pointsประจำปี
🇶🇦
ทองคำสำรอง
100.95 Tonnes100.95 Tonnesควอร์เตอร์
🇶🇦
นำเข้า
10.51 ล้านล้าน QAR10.046 ล้านล้าน QARรายเดือน
🇶🇦
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
25.592 ล้านล้าน QAR34.205 ล้านล้าน QARควอร์เตอร์
🇶🇦
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
2.56 ล้าน 611,000 ประจำปี
🇶🇦
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
26.7 % of GDP14.6 % of GDPประจำปี
🇶🇦
ส่งออก
28.102 ล้านล้าน QAR27.476 ล้านล้าน QARรายเดือน

กาตาร์มีการบันทึกการเกินดุลการค้ามาตั้งแต่ปี 2004 ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหลว (ผลิตภัณฑ์ส่งออกทั้งหมด 89 เปอร์เซ็นต์) สินค้านำเข้าสำคัญได้แก่: อุปกรณ์และชิ้นส่วนขนส่ง; เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์, เครื่องกำเนิดไอน้ำ, เครื่องจักรและอุปกรณ์เครื่องกล และชิ้นส่วน และโลหะพื้นฐานและบทความอื่นๆ คู่ค้าหลักของกาตาร์คือประเทศญี่ปุ่น (28 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมดและ 8 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้า) นอกจากนี้ยังมี: อินเดีย, จีน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเกาหลีใต้

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว