ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇵🇱

โปแลนด์ รายได้ของรัฐบาล

ราคา

146.45 ล้านล้าน PLN
การเปลี่ยนแปลง +/-
+42.421 ล้านล้าน PLN
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+33.87 %

มูลค่าปัจจุบันของรายได้ของรัฐบาลใน โปแลนด์ อยู่ที่ 146.45 ล้านล้าน PLN รายได้ของรัฐบาลใน โปแลนด์ เพิ่มขึ้นเป็น 146.45 ล้านล้าน PLN เมื่อ 1/3/2567 หลังจากที่เคยอยู่ที่ 104.029 ล้านล้าน PLN เมื่อ 1/2/2567 จาก 1/1/2533 ถึง 1/4/2567 GDP เฉลี่ยใน โปแลนด์ อยู่ที่ 119.11 ล้านล้าน PLN โดยที่ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/12/2566 ด้วย 573.96 ล้านล้าน PLN ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกเมื่อ 1/1/2533 ด้วย 1.19 ล้านล้าน PLN

แหล่งที่มา: Ministry Of Finance, Poland

รายได้ของรัฐบาล

  • แม็กซ์

รายได้ของรัฐ

รายได้ของรัฐบาล ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/3/2567146.45 ล้านล้าน PLN
1/2/2567104.029 ล้านล้าน PLN
1/1/256761.51 ล้านล้าน PLN
1/12/2566573.958 ล้านล้าน PLN
1/11/2566530.331 ล้านล้าน PLN
1/10/2566475.393 ล้านล้าน PLN
1/9/2566417.988 ล้านล้าน PLN
1/8/2566373.759 ล้านล้าน PLN
1/7/2566324.012 ล้านล้าน PLN
1/6/2566270.606 ล้านล้าน PLN
1
2
3
4
5
...
41

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ รายได้ของรัฐบาล

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇵🇱
การใช้จ่ายทางทหาร
31.65 ล้านล้าน USD15.341 ล้านล้าน USDประจำปี
🇵🇱
ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลต่อ GDP
46.7 % of GDP43.6 % of GDPประจำปี
🇵🇱
คำขอลี้ภัย
1,435 persons1,025 personsรายเดือน
🇵🇱
งบประมาณของรัฐ
-5.1 % of GDP-3.4 % of GDPประจำปี
🇵🇱
ดัชนีการทุจริต
54 Points55 Pointsประจำปี
🇵🇱
มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล
-24.503 ล้านล้าน PLN-7.839 ล้านล้าน PLNรายเดือน
🇵🇱
รัฐบาลใช้จ่าย
254.004 ล้านล้าน PLN170.952 ล้านล้าน PLNรายเดือน
🇵🇱
รัฐบาลใช้จ่าย
161.081 ล้านล้าน PLN176.417 ล้านล้าน PLNควอร์เตอร์
🇵🇱
หนี้สาธารณะ
1.446 ชีวภาพ. PLN1.43 ชีวภาพ. PLNรายเดือน
🇵🇱
หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ
49.6 % of GDP49.2 % of GDPประจำปี
🇵🇱
อันดับคอร์รัปชั่น
47 45 ประจำปี

รายได้ของรัฐบาล หมายถึง รายรับทั้งหมดที่รัฐบาลได้รับ รวมถึงภาษี อากรขาเข้า รายรับจากรัฐวิสาหกิจ รายได้จากทุน และความช่วยเหลือจากต่างประเทศ รายได้ของรัฐบาลเป็นส่วนหนึ่งของการคำนวณสมดุลงบประมาณของรัฐบาล

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร รายได้ของรัฐบาล

รัฐบาลไทยสามารถสร้างรายได้จากหลายแหล่งเพื่อเป็นทุนในการบริหารประเทศและการพัฒนาสาธารณูปโภคต่างๆ แหล่งที่มาของรายได้นี้เรียกรวมว่า 'รายได้ของรัฐบาล' ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจของประเทศ การดำเนินนโยบายการเงินและการคลัง รวมถึงการจัดตั้งกองทุนสำหรับโครงการสาธารณูปโภคต่างๆ รายได้ของรัฐบาลไทยเกิดจากแหล่งที่มาหลายชุด ซึ่งถูกจัดเก็บอย่างเป็นระบบและมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติ หนึ่งในแหล่งที่มาหลักของรายได้รัฐบาลคือภาษี ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ที่ประชาชนและบริษัทต่างๆ ต้องเสียเพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาล ภาษีแบ่งได้เป็นหลายประเภท ได้แก่ ภาษีรายได้บุคคลธรรมดา ภาษีนิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีสินทรัพย์ และภาษีศุลกากร ซึ่งแต่ละประเภทของภาษีมีระเบียบและข้อกำหนดที่เฉพาะเจาะจง การจัดเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยสร้างเงินทุนให้รัฐบาลนำไปใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาประเทศได้ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความยุติธรรมและความเสมอภาคในสังคมให้เกิดขึ้นเมื่อทุกคนมีส่วนร่วมในการจ่ายภาษีตามความสามารถของตน นอกจากภาษีแล้ว รัฐบาลยังมีรายได้จากการให้บริการสาธารณะและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ รัฐบาลอาจเรียกเก็บค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทางการเงิน ค่าธรรมเนียมการออกใบอนุญาต และค่าธรรมเนียมสาธารณูปโภคอื่นๆ เพื่อใช้เป็นเงินทุนในการดำเนินงานของรัฐ เช่นเดียวกันการให้สัมปทานแก่บริษัทเอกชนในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติก็เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ เช่น ทรัพยากรป่าไม้ เหมืองแร่ และพลังงาน ซึ่งรัฐบาลสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือส่วนแบ่งรายได้จากการดำเนินงานเหล่านี้ อีกแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลคือการลงทุนในกิจการรัฐและการออกพันธบัตรรัฐบาล เมื่อลงทุนในกิจการรัฐบาล หน่วยงานราชการสามารถนำกำไรจากการดำเนินงานมาใช้ในการบริหารและพัฒนาประเทศ เช่น รัฐบาลอาจลงทุนในกิจการที่มีศักยภาพการทำกำไร หรือสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน ระบบขนส่งมวลชน และเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ การออกพันธบัตรรัฐบาลก็เป็นวิธีการหนึ่งในการระดมทุนจากประชาชนและนักลงทุน ซึ่งการออกพันธบัตรนี้โดยปกติจะมีการระบุอัตราดอกเบี้ยและช่วงเวลาการชำระคืนอย่างชัดเจน ในการจัดทำงบประมาณรัฐบาล การบริหารรายได้มีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้เกิดการใช้จ่ายอย่างเป็นระเบียบและไม่มีการขาดทุน การจัดทำงบประมาณแบบสมดุลและมีการพยากรณ์รายได้และค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินในระยะยาว ซึ่งการจัดทำงบประมาณและการบริหารการคลังที่ดีสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีเสถียรภาพและเติบโตได้อย่างยั่งยืน แม้ว่าแหล่งที่มาของรายได้รัฐบาลจะมีหลากหลาย รัฐบาลไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายในการจัดการรายได้ให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใส เช่น การป้องกันการทุจริตและการเลี่ยงภาษี ซึ่งเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อความสามารถในการเก็บรายได้ นอกจากนี้ยังต้องดูแลไม่ให้การเก็บภาษีเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับประชาชนและไม่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมในสังคม การนำเทคโนโลยีและระบบการจัดการที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารจัดการรายได้จึงมีความสำคัญมากขึ้น เพื่อให้มีการตรวจสอบและประเมินผลที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ในยุคโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกยังมีผลกระทบต่อรายได้ของรัฐบาลอย่างมีนัยสำคัญ การเปลี่ยนแปลงของตลาดการเงินโลก การค้าระหว่างประเทศ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทำให้รัฐบาลต้องมีการปรับนโยบายและแนวทางการบริหารจัดการรายได้อย่างยืดหยุ่นและรวดเร็ว เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ การที่ไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และการทำข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ หมายความว่ารัฐบาลไทยต้องปรับตัวเพื่อให้มีศักยภาพการแข่งขันและสามารถเพิ่มรายได้จากการขยายตลาดการค้าและการลงทุน การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศและการพัฒนาภาคการผลิตในประเทศให้มีความสามารถในการแข่งขันยังเป็นอีกแนวทางที่สามารถสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล สรุปแล้ว รายได้ของรัฐบาลไทยมาจากหลายแหล่งที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทั้งภาษี ค่าธรรมเนียม สัมปทาน การลงทุนและการออกพันธบัตร ซึ่งการบริหารจัดการรายได้เหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความมั่นคงและการพัฒนาประเทศในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การปรับนโยบายและวิธีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสก็ยังเป็นความท้าทายสำคัญที่รัฐบาลต้องเผชิญ เพื่อให้สามารถสร้างและจัดการรายได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป