ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
โปรตุเกส ตัวคูณจีดีพี (GDP)
ราคา
ค่าปัจจุบันของ ตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน โปรตุเกส คือ 121.219 % ตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน โปรตุเกส เพิ่มขึ้นเป็น 121.219 % เมื่อ 1/12/2567 หลังจากที่เป็น 121.102 % เมื่อ 1/9/2567 จาก 1/3/2538 ถึง 1/12/2567 ค่าเฉลี่ยของ GDP ใน โปรตุเกส คือ 84.69 % ค่าสูงสุดตลอดกาลคือวันที่ 1/12/2567 ที่ 121.22 % ในขณะที่ค่าต่ำสุดบันทึกไว้เมื่อ 1/3/2538 ที่ 56.44 %
ตัวคูณจีดีพี (GDP) ·
แม็กซ์
ตัวคูณ GDP | |
---|---|
1/3/2538 | 56.44 % |
1/6/2538 | 56.7 % |
1/9/2538 | 57.07 % |
1/12/2538 | 57.35 % |
1/3/2539 | 57.64 % |
1/6/2539 | 57.76 % |
1/9/2539 | 58.66 % |
1/12/2539 | 58.94 % |
1/3/2540 | 59.79 % |
1/6/2540 | 60.2 % |
1/9/2540 | 60.81 % |
1/12/2540 | 61.25 % |
1/3/2541 | 61.99 % |
1/6/2541 | 62.59 % |
1/9/2541 | 63.12 % |
1/12/2541 | 63.59 % |
1/3/2542 | 64.34 % |
1/6/2542 | 64.81 % |
1/9/2542 | 64.9 % |
1/12/2542 | 65.73 % |
1/3/2543 | 66.14 % |
1/6/2543 | 67 % |
1/9/2543 | 67.56 % |
1/12/2543 | 67.98 % |
1/3/2544 | 68.79 % |
1/6/2544 | 69.34 % |
1/9/2544 | 69.86 % |
1/12/2544 | 70.66 % |
1/3/2545 | 71.34 % |
1/6/2545 | 72.2 % |
1/9/2545 | 73.03 % |
1/12/2545 | 73.8 % |
1/3/2546 | 73.99 % |
1/6/2546 | 75.21 % |
1/9/2546 | 75.16 % |
1/12/2546 | 75.93 % |
1/3/2547 | 75.75 % |
1/6/2547 | 76.53 % |
1/9/2547 | 76.9 % |
1/12/2547 | 78.32 % |
1/3/2548 | 78.1 % |
1/6/2548 | 79.12 % |
1/9/2548 | 79.78 % |
1/12/2548 | 80.75 % |
1/3/2549 | 80.78 % |
1/6/2549 | 81.48 % |
1/9/2549 | 82.31 % |
1/12/2549 | 83.28 % |
1/3/2550 | 83.76 % |
1/6/2550 | 84.19 % |
1/9/2550 | 84.51 % |
1/12/2550 | 85.12 % |
1/3/2551 | 85.36 % |
1/6/2551 | 85.89 % |
1/9/2551 | 85.8 % |
1/12/2551 | 86.43 % |
1/3/2552 | 86.22 % |
1/6/2552 | 86.81 % |
1/9/2552 | 86.75 % |
1/12/2552 | 87.45 % |
1/3/2553 | 87.4 % |
1/6/2553 | 87.02 % |
1/9/2553 | 87.57 % |
1/12/2553 | 87.96 % |
1/3/2554 | 87.6 % |
1/6/2554 | 87.17 % |
1/9/2554 | 87.38 % |
1/12/2554 | 86.89 % |
1/3/2555 | 86.57 % |
1/6/2555 | 86.21 % |
1/9/2555 | 86.96 % |
1/12/2555 | 88.02 % |
1/3/2556 | 88.32 % |
1/6/2556 | 88.38 % |
1/9/2556 | 89.63 % |
1/12/2556 | 89.3 % |
1/3/2557 | 89.58 % |
1/6/2557 | 89.34 % |
1/9/2557 | 89.92 % |
1/12/2557 | 89.37 % |
1/3/2558 | 90.58 % |
1/6/2558 | 91.13 % |
1/9/2558 | 91.66 % |
1/12/2558 | 91.87 % |
1/3/2559 | 92.65 % |
1/6/2559 | 92.74 % |
1/9/2559 | 93.09 % |
1/12/2559 | 93.52 % |
1/3/2560 | 93.41 % |
1/6/2560 | 94.31 % |
1/9/2560 | 94.79 % |
1/12/2560 | 95.17 % |
1/3/2561 | 95.67 % |
1/6/2561 | 95.75 % |
1/9/2561 | 96.38 % |
1/12/2561 | 96.89 % |
1/3/2562 | 97.46 % |
1/6/2562 | 97.28 % |
1/9/2562 | 98.3 % |
1/12/2562 | 98.71 % |
1/3/2563 | 98.99 % |
1/6/2563 | 100.9 % |
1/9/2563 | 99.79 % |
1/12/2563 | 100.47 % |
1/3/2564 | 102.31 % |
1/6/2564 | 101.44 % |
1/9/2564 | 101.84 % |
1/12/2564 | 102.49 % |
1/3/2565 | 104.33 % |
1/6/2565 | 106.59 % |
1/9/2565 | 108.03 % |
1/12/2565 | 110.79 % |
1/3/2566 | 113.24 % |
1/6/2566 | 114.2 % |
1/9/2566 | 116.04 % |
1/12/2566 | 116.53 % |
1/3/2567 | 118.62 % |
1/6/2567 | 119.44 % |
1/9/2567 | 121.1 % |
1/12/2567 | 121.22 % |
ตัวคูณจีดีพี (GDP) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2567 | 121.219 % |
1/9/2567 | 121.102 % |
1/6/2567 | 119.439 % |
1/3/2567 | 118.615 % |
1/12/2566 | 116.531 % |
1/9/2566 | 116.042 % |
1/6/2566 | 114.198 % |
1/3/2566 | 113.242 % |
1/12/2565 | 110.792 % |
1/9/2565 | 108.032 % |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ตัวคูณจีดีพี (GDP)
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇵🇹 CPI Transport | 117.554 points | 117.649 points | รายเดือน |
🇵🇹 การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต | -0.4 % | -0.3 % | รายเดือน |
🇵🇹 เงินเฟ้อค่าเช่า | 5.9 % | 6.5 % | รายเดือน |
🇵🇹 เงินเฟ้อด้านอาหาร | 1.6 % | 1.4 % | รายเดือน |
🇵🇹 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) | 121.489 points | 121.622 points | รายเดือน |
🇵🇹 ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับเทียบแล้ว | 121.44 points | 121.55 points | รายเดือน |
🇵🇹 ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง | 133.798 points | 132.775 points | รายเดือน |
🇵🇹 ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน | 119.002 points | 119.208 points | รายเดือน |
🇵🇹 ต้นทุนการผลิต | 118.15 points | 117.76 points | รายเดือน |
🇵🇹 อัตราเงินเฟ้อ | 2.4 % | 2.5 % | รายเดือน |
🇵🇹 อัตราเงินเฟ้อ MoM | -0.1 % | -0.5 % | รายเดือน |
🇵🇹 อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากัน YoY | 2.5 % | 2.7 % | รายเดือน |
🇵🇹 อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากันรายเดือน | -0.1 % | -0.6 % | รายเดือน |
🇵🇹 อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน | 0.3 % | -1.4 % | รายเดือน |
🇵🇹 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน | 2.45 % | 2.66 % | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร ตัวคูณจีดีพี (GDP)
GDP Deflator (ดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) เป็นหนึ่งในดัชนีที่สำคัญที่สุดที่ถูกใช้ในวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค เป็นตัวชี้วัดเชิงตัวเลขที่ช่วยให้เราสามารถประเมินแนวโน้มของราคาและราคาเงินเฟ้อได้ โดยการแยกปัจจัยที่เป็นปริมาณการผลิตออกจากปัจจัยที่เป็นการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าและบริการ และวัดการเปลี่ยนแปลงราคาของทุกสินค้าภายในประเทศเรื่องนี้มีความหมายอย่างมากในการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจมหภาค เนื่องจากสามารถช่วยให้ทางรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงนักลงทุนใช้ในการวิเคราะห์และคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในภาคการศึกษาเศรษฐศาสตร์ การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศส่วนใหญ่จะถูกมองว่าเป็นสัญญาณหนึ่งของเงินเฟ้อ เนื่องจากหากราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็จะมีผลกระทบต่อความสามารถในการซื้อสินค้าของผู้บริโภค และสร้างแรงกดดันให้กับธุรกิจในการกำหนดราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้น GDP Deflator นั้นไม่เหมือนกับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เนื่องจากมันไม่จำกัดแค่รายการของสินค้าหรือบริการที่ถูกกำหนดในตะกร้าสินค้า แต่จะคำนวณจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าทุกประเภทที่ถูกผลิตภายในประเทศดังนั้น มันจึงให้ภาพที่ครอบคลุมมากกว่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของราคาในเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังช่วยให้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านราคาในภาคการผลิต การบริโภค การลงทุน และการค้าระหว่างประเทศในภาพรวม การคำนวน GDP Deflator ทำนั้นเรียบง่ายในทางทฤษฎี โดยเศรษฐกิจที่เป็นตัวแทนของการคำนวณนี้แสดงผ่านสมการ GDP Deflator = (nGDP / rGDP) * 100 ซึ่ง nGDP (Nominal GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเรียลมูลค่าปัจจุบันที่ยังไม่ได้ ปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อ ส่วน rGDP (Real GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่ถูกปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อสมการนี้ทำให้เราสามารถแยกความแตกต่างระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงปริมาณการผลิตและการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าได้อย่างง่ายดาย ความสำคัญของ GDP Deflator นั้นไม่สามารถประมาทได้ แน่นอนเราสามารถนำดัชนีนี้มาใช้เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาวและระยะสั้น ตลอดจนการคาดการณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อในอนาคต โดยทั่วไปดัชนีนี้ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเปรียบเทียบระดับราคาของแต่ละช่วงเวลาสร้างความชัดเจนในการวิเคราะห์ว่าสภาวะเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลามีแนวโน้มและสถานการณ์ที่เป็นอย่างไร นักเศรษฐศาสตร์ นักการเงิน รวมไปถึงนักลงทุน จะใช้ GDP Deflator เพื่อวิเคราะห์ถึงความเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาดได้ดียิ่งขึ้นตัวอย่างเช่น นักลงทุนที่ต้องการวิเคราะห์การลงทุนในระยะยาวอาจจะมองหาสัญญาณที่แสดงถึงการเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้เนื่องจากมันสามารถบอกได้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะแข็งแรงขึ้นหรือมีความเสถียรและชัดเจนขึ้น แต่ในทางกลับกันหาก GDP Deflator ลดลง ก็อาจเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ถึงการลดลงของระดับราคาสินค้าและบริการ ซึ่งอาจทำให้มีผลกระทบทางลบในบางภาคส่วนของเศรษฐกิจ นอกจากนี้การวิเคราะห์ GDP Deflator ยังช่วยให้สามารถประเมินความสามารถในการบริโภคของประชาชนได้อย่างชัดเจนมากขึ้น การเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้สามารถสื่อถึงว่าประชาชนอาจจะมีความสามารถในการบริโภคน้อยลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคา ซึ่งอาจนำไปสู่การลดลงของความต้องการสินค้าบางประเภท สิ่งนี้ยังมีผลกระทบต่อการวางแผนการผลิตและการบริหารจัดการของธุรกิจที่ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มนี้ตามไปด้วย ในทำนองเดียวกัน GDP Deflator ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการวิเคราะห์และวางแผนในระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน เช่นการปรับอัตราดอกเบี้ย หรือการกำหนดนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณของรัฐบาลในการลงทุนในภาคส่วนต่างๆ จะต้องพิจารณาถึงดัชนีนี้อย่างถี่ถ้วนเพื่อให้การดำเนินนโยบายในแต่ละระดับมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้นๆ สุดท้ายนี้ การทำความเข้าใจดัชนี GDP Deflator และการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องยังจำเป็นต้องอาศัยความตั้งใจและความระมัดระวังในการประมวลผล เนื่องจากเศรษฐกิจเป็นระบบที่มีความซับซ้อนการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและครบถ้วนมีความสำคัญอย่างมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจและการวางแผนที่ดีที่สุดสำหรับทุกภาคส่วนของสังคม เว็บไซต์ eulerpool ของเรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศพร้อมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและทันสมัย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญและใช้ในการวิเคราะห์เศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ