ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร โปแลนด์ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังในโปแลนด์คือ2.151 ล้านล้านPLN การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังในโปแลนด์ลดลงเหลือ2.151 ล้านล้านPLNใน1/6/2566 หลังจากที่เคยเป็น31.978 ล้านล้านPLNใน1/3/2566 จาก1/3/2539ถึง1/3/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ในโปแลนด์คือ5.97 ล้านล้านPLN ค่าสูงสุดตลอดเวลาอยู่ที่1/12/2565ด้วยค่า59.05 ล้านล้านPLN ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ1/9/2566ด้วยค่า-12.41 ล้านล้านPLN
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ·
แม็กซ์
การเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงเหลือ | |
---|---|
1/3/2539 | 2.21 ล้านล้าน PLN |
1/6/2539 | 2.35 ล้านล้าน PLN |
1/9/2539 | 2.36 ล้านล้าน PLN |
1/12/2539 | 1.04 ล้านล้าน PLN |
1/3/2540 | 1.11 ล้านล้าน PLN |
1/6/2540 | 1.25 ล้านล้าน PLN |
1/9/2540 | 828.9 ล้าน PLN |
1/12/2540 | 3.99 ล้านล้าน PLN |
1/3/2541 | 1.18 ล้านล้าน PLN |
1/6/2541 | 1.34 ล้านล้าน PLN |
1/9/2541 | 1.25 ล้านล้าน PLN |
1/12/2541 | 3.05 ล้านล้าน PLN |
1/3/2542 | 91.8 ล้าน PLN |
1/6/2542 | 1.47 ล้านล้าน PLN |
1/9/2542 | 2.58 ล้านล้าน PLN |
1/12/2542 | 3.2 ล้านล้าน PLN |
1/3/2543 | 979.7 ล้าน PLN |
1/6/2543 | 1.88 ล้านล้าน PLN |
1/9/2543 | 1.71 ล้านล้าน PLN |
1/12/2543 | 1.61 ล้านล้าน PLN |
1/6/2544 | 540.2 ล้าน PLN |
1/9/2544 | 1.28 ล้านล้าน PLN |
1/12/2544 | 1.17 ล้านล้าน PLN |
1/6/2545 | 1.14 ล้านล้าน PLN |
1/9/2545 | 1.13 ล้านล้าน PLN |
1/12/2545 | 2.39 ล้านล้าน PLN |
1/3/2546 | 686 ล้าน PLN |
1/6/2546 | 1.42 ล้านล้าน PLN |
1/9/2546 | 1.41 ล้านล้าน PLN |
1/12/2546 | 1.74 ล้านล้าน PLN |
1/3/2547 | 5.12 ล้านล้าน PLN |
1/6/2547 | 7.29 ล้านล้าน PLN |
1/9/2547 | 3.98 ล้านล้าน PLN |
1/12/2547 | 3.62 ล้านล้าน PLN |
1/3/2548 | 4.97 ล้านล้าน PLN |
1/6/2548 | 708.2 ล้าน PLN |
1/9/2548 | 827.5 ล้าน PLN |
1/12/2548 | 2.6 ล้านล้าน PLN |
1/3/2549 | 4.47 ล้านล้าน PLN |
1/6/2549 | 5.37 ล้านล้าน PLN |
1/9/2549 | 4.06 ล้านล้าน PLN |
1/3/2550 | 7.24 ล้านล้าน PLN |
1/6/2550 | 8.03 ล้านล้าน PLN |
1/9/2550 | 8.24 ล้านล้าน PLN |
1/12/2550 | 7.23 ล้านล้าน PLN |
1/3/2551 | 8.93 ล้านล้าน PLN |
1/6/2551 | 4.84 ล้านล้าน PLN |
1/9/2551 | 4.17 ล้านล้าน PLN |
1/12/2552 | 223.6 ล้าน PLN |
1/3/2553 | 2.74 ล้านล้าน PLN |
1/6/2553 | 4.64 ล้านล้าน PLN |
1/9/2553 | 4.91 ล้านล้าน PLN |
1/12/2553 | 5.04 ล้านล้าน PLN |
1/3/2554 | 7.68 ล้านล้าน PLN |
1/6/2554 | 9.63 ล้านล้าน PLN |
1/9/2554 | 9.13 ล้านล้าน PLN |
1/12/2554 | 4.32 ล้านล้าน PLN |
1/3/2555 | 8.5 ล้านล้าน PLN |
1/6/2555 | 6.05 ล้านล้าน PLN |
1/9/2555 | 5.01 ล้านล้าน PLN |
1/12/2555 | 2.92 ล้านล้าน PLN |
1/3/2556 | 994.4 ล้าน PLN |
1/6/2556 | 731.7 ล้าน PLN |
1/12/2556 | 5.73 ล้านล้าน PLN |
1/3/2557 | 3.12 ล้านล้าน PLN |
1/6/2557 | 4.92 ล้านล้าน PLN |
1/9/2557 | 4.19 ล้านล้าน PLN |
1/12/2557 | 2.32 ล้านล้าน PLN |
1/6/2558 | 3.93 ล้านล้าน PLN |
1/9/2558 | 4.47 ล้านล้าน PLN |
1/12/2558 | 3.28 ล้านล้าน PLN |
1/3/2559 | 4.76 ล้านล้าน PLN |
1/6/2559 | 3.45 ล้านล้าน PLN |
1/9/2559 | 8.26 ล้านล้าน PLN |
1/12/2559 | 14.79 ล้านล้าน PLN |
1/3/2560 | 8.2 ล้านล้าน PLN |
1/6/2560 | 11.98 ล้านล้าน PLN |
1/9/2560 | 8.82 ล้านล้าน PLN |
1/12/2560 | 17.47 ล้านล้าน PLN |
1/3/2561 | 16.61 ล้านล้าน PLN |
1/6/2561 | 13.4 ล้านล้าน PLN |
1/9/2561 | 11.5 ล้านล้าน PLN |
1/12/2561 | 14.37 ล้านล้าน PLN |
1/3/2562 | 9.54 ล้านล้าน PLN |
1/6/2562 | 13.6 ล้านล้าน PLN |
1/9/2562 | 8.75 ล้านล้าน PLN |
1/3/2563 | 5.45 ล้านล้าน PLN |
1/6/2563 | 2.33 ล้านล้าน PLN |
1/12/2563 | 2.86 ล้านล้าน PLN |
1/3/2564 | 2.58 ล้านล้าน PLN |
1/6/2564 | 14.19 ล้านล้าน PLN |
1/9/2564 | 16.41 ล้านล้าน PLN |
1/12/2564 | 30.47 ล้านล้าน PLN |
1/3/2565 | 56.2 ล้านล้าน PLN |
1/6/2565 | 30.09 ล้านล้าน PLN |
1/9/2565 | 51.24 ล้านล้าน PLN |
1/12/2565 | 59.05 ล้านล้าน PLN |
1/3/2566 | 31.98 ล้านล้าน PLN |
1/6/2566 | 2.15 ล้านล้าน PLN |
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/6/2566 | 2.151 ล้านล้าน PLN |
1/3/2566 | 31.978 ล้านล้าน PLN |
1/12/2565 | 59.046 ล้านล้าน PLN |
1/9/2565 | 51.238 ล้านล้าน PLN |
1/6/2565 | 30.089 ล้านล้าน PLN |
1/3/2565 | 56.196 ล้านล้าน PLN |
1/12/2564 | 30.472 ล้านล้าน PLN |
1/9/2564 | 16.412 ล้านล้าน PLN |
1/6/2564 | 14.189 ล้านล้าน PLN |
1/3/2564 | 2.58 ล้านล้าน PLN |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇵🇱 การจดทะเบียนรถยนต์ | 50,221 Units | 43,654 Units | รายเดือน |
🇵🇱 การผลิตซีเมนต์ | 1.719 ล้าน Tonnes | 1.572 ล้าน Tonnes | รายเดือน |
🇵🇱 การผลิตในภาคการผลิต | 0.1 % | -1.9 % | รายเดือน |
🇵🇱 การผลิตไฟฟ้า | 11,843.994 Gigawatt-hour | 12,159.431 Gigawatt-hour | รายเดือน |
🇵🇱 การผลิตรถยนต์ | 22,400 Units | 27,500 Units | รายเดือน |
🇵🇱 การผลิตเหมืองแร่ | -2.3 % | 6.1 % | รายเดือน |
🇵🇱 การผลิตอุตสาหกรรม | -1.7 % | 7.8 % | รายเดือน |
🇵🇱 การผลิตอุตสาหกรรมเดือนต่อเดือน | 6.7 % | -5.1 % | รายเดือน |
🇵🇱 การสั่งซื้อใหม่ | 98.6 points | 90.1 points | รายเดือน |
🇵🇱 การอนุมัติรถยนต์ไฟฟ้า | 1,291 Units | 1,264 Units | รายเดือน |
🇵🇱 กำไรของบริษัท | 74.469 ล้านล้าน PLN | 340.875 ล้านล้าน PLN | ควอร์เตอร์ |
🇵🇱 ผลิตภัณฑ์ PMI | 45 points | 45 points | รายเดือน |
🇵🇱 ยอดการจดทะเบียนรถยนต์ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น YoY | 13.2 % | 25.1 % | รายเดือน |
🇵🇱 สภาวะธุรกิจ | -6.2 points | -6.9 points | รายเดือน |
🇵🇱 อัตราการใช้กำลังการผลิต | 76.4 % | 78 % | ควอร์เตอร์ |
ในประเทศโปแลนด์ การเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงคลังมักเป็นตัวชี้วัดล่วงหน้าที่สำคัญสำหรับประสิทธิภาพโดยรวมของเศรษฐกิจ
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง: การวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคที่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เปรียบเสมือนการมองดูภาพรวมเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับระบบเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศ การศึกษาว่าเหตุใดสินค้าคงคลังถึงมีการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่มาตามมาดูเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจไม่ค่อยนึกถึง แต่จริง ๆ แล้วมันมีศักยภาพในการเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการทำนายและวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจมหภาคได้อย่างชัดเจน สินค้าคงคลังหมายถึงสินค้าที่ผลิตขึ้นแล้วแต่ยังไม่ถูกขาย ซึ่งรวมถึงสินค้าสำเร็จรูป วัตถุดิบ และงานระหว่างการผลิต การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังสามารถบ่งบอกถึงความคาดหวังของผู้ผลิตต่อความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต โดยการสงวนสินค้าจะเป็นการสะท้อนถึงการขึ้ดหวังว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งการวิเคาะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้มีความสัมพันธ์กันกับส่วนต่าง ๆ ของระบบเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง ประการที่หนึ่ง การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อผู้ผลิตเพิ่มการผลิตและเพิ่มสำรองสินค้าคงคลังในระยะเวลาที่เศรษฐกิจยังไม่ได้เติบโตมากนัก แสดงถึงความเชื่อว่ามีความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้เรามองเห็นการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมและการจ้างงานในระยะยาว ขณะเดียวกัน หากผู้ผลิตลดการผลิตและลดสินค้าคงคลังลง นั่นอาจบ่งบอกถึงการขาดแคลนความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าการเล่นลดลง นอกจากการเติบโตทางเศรษฐกิจแล้ว การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถมีผลต่อเสถียรภาพทางการเงิน หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคลดลง อาจนำไปสู่สถานการณ์ที่เรียกว่า 'สินค้าล้นตลาด' ซึ่งย่อมทำให้ผู้ผลิตปรับลดการผลิต เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจัดการและการเก็บสำรองสินค้าคงคลังที่มากเกินไป ในสถานการณ์นี้ เศรษฐกิจอาจเผชิญกับการเติบโตชะลอตัวและการจ้างงานลดลง อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสามารถใช้การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยในการวิเคราะห์และตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน หากการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังบ่งบอกถึงเงื่อนไขที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การลดลงของความต้องการ ทางธนาคารกลางอาจพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยหรือนโยบายอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ คุณลักษณะที่เด่นชัดอีกอย่างของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังคือมันสามารถสะท้อนถึงระดับการแข่งขันในตลาด หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเขตภาคการผลิตที่มีการแข่งขันสูงจนเกินไป ผู้ผลิตจะต้องเพิ่มการผลิตเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อกำไรและราคาในตลาดได้ นอกจากนี้ การแข่งขันที่รุนแรงอาจทำให้ผู้ผลิตต้องลดการสำรองสินค้าคงคลังเพื่อลดค่าใช้จ่าย ทำให้มีความเสี่ยงต่อความเพียงพอในการรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นเฉียบพลัน การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังมีผลต่อการนำเข้าและส่งออก การเพิ่มสินค้าคงคลังอาจทำให้มีความต้องการนำเข้าวัตถุดิบมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อดุลการค้าของประเทศ ขณะที่หากสินค้าคงคลังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แสดงว่าผู้ผลิตอาจพยายามลดการนำเข้าเพื่อลดค่าใช้จ่าย นอกจากนั้น การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนธุรกิจได้ ผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงในความต้องการของตลาดและจัดการทรัพยากรในมืออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ท้ายที่สุด การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังไม่เพียงแต่เป็นดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญ แต่มันยังมีผลกระทบต่อหลากหลายองค์ประกอบของระบบเศรษฐกิจ การประกอบธุรกิจ และนโยบายแห่งชาติ การศึกษาและการติดตามการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และมีคุณค่ามากสำหรับผู้ที่ต้องการผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ eulerpool เราขอนำเสนอข้อมูลการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังที่มีคุณภาพ มีความแม่นยำ และละเอียด เพื่อให้คุณสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการวิเคราะห์และตัดสินใจต่อธุรกิจและนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคุณต้องการข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพใหญ่และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ eulerpool คือคำตอบ ข้อมูลที่ทันสมัยและเชื่อถือได้เป็นสิ่งที่เรายืนยันนำเสนอให้แก่คุณ ขอบคุณที่ไว้วางใจให้เรานำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นมืออาชีพและเชื่อถือได้จาก eulerpool