ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇵🇰

ปากีสถาน ดุลการค้า

ราคา

6.457 ล้านล้าน PKR
การเปลี่ยนแปลง +/-
+1.854 ล้านล้าน PKR
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+33.53 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน ปากีสถาน คือ 6.457 ล้านล้าน PKR ดุลการค้าใน ปากีสถาน เพิ่มขึ้นเป็น 6.457 ล้านล้าน PKR เมื่อ 1/6/2546 หลังจากที่เป็น 4.603 ล้านล้าน PKR เมื่อ 1/5/2546 จาก 1/1/2500 ถึง 1/6/2567 GDP เฉลี่ยใน ปากีสถาน คือ -76.99 ล้านล้าน PKR มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถึงเมื่อ 1/6/2546 โดยมีมูลค่า 6.46 ล้านล้าน PKR ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/6/2565 โดยมีมูลค่า -1.01 ชีวภาพ. PKR

แหล่งที่มา: Pakistan Bureau of Statistics

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/6/25466.457 ล้านล้าน PKR
1/5/25464.603 ล้านล้าน PKR
1/12/2544879.5 ล้าน PKR
1/9/25441.648 ล้านล้าน PKR
1/6/25441.799 ล้านล้าน PKR
1/12/2543391.5 ล้าน PKR
1/5/2541309.4 ล้าน PKR
1/4/25411.503 ล้านล้าน PKR
1/3/25411.72 ล้านล้าน PKR
1/12/2536587 ล้าน PKR
1
2
3
4

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇵🇰
กระแสเงินทุน
-642 ล้าน USD-3.546 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇵🇰
การผลิตน้ำมันดิบ
83 BBL/D/1K83 BBL/D/1Kรายเดือน
🇵🇰
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
358.8 ล้าน USD258 ล้าน USDรายเดือน
🇵🇰
การโอนเงิน
3.2 ล้านล้าน USD2.812 ล้านล้าน USDรายเดือน
🇵🇰
เงื่อนไขการซื้อขาย
68.87 points64.17 pointsควอร์เตอร์
🇵🇰
ดัชนีการก่อการร้าย
7.916 Points8.16 Pointsประจำปี
🇵🇰
ทองคำสำรอง
64.66 Tonnes64.66 Tonnesควอร์เตอร์
🇵🇰
นำเข้า
1.371 ชีวภาพ. PKR1.366 ชีวภาพ. PKRรายเดือน
🇵🇰
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
205 ล้าน USD-1.029 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇵🇰
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
-0.7 % of GDP-4.7 % of GDPประจำปี
🇵🇰
ส่งออก
704.808 ล้านล้าน PKR777.787 ล้านล้าน PKRรายเดือน
🇵🇰
หนี้สินต่างประเทศ
131.159 ล้านล้าน USD129.742 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์

ปากีสถานมีการขาดดุลการค้าที่ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2003 เป็นหลักเนื่องจากการนำเข้าพลังงานที่สูง ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา จีนได้กลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของปากีสถานแทนที่สหรัฐอเมริกา ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การขาดดุลการค้าที่ใหญ่ที่สุดได้มีการบันทึกไว้กับจีน, อินเดีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ซาอุดีอาระเบีย, คูเวต และมาเลเซีย ปากีสถานมีการเกินดุลการค้ากับสหรัฐอเมริกา, อัฟกานิสถาน, เยอรมนี และสหราชอาณาจักร

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว