ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ปากีสถาน ดุลการค้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน ปากีสถาน คือ 6.457 ล้านล้าน PKR ดุลการค้าใน ปากีสถาน เพิ่มขึ้นเป็น 6.457 ล้านล้าน PKR เมื่อ 1/6/2546 หลังจากที่เป็น 4.603 ล้านล้าน PKR เมื่อ 1/5/2546 จาก 1/1/2500 ถึง 1/6/2567 GDP เฉลี่ยใน ปากีสถาน คือ -76.99 ล้านล้าน PKR มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถึงเมื่อ 1/6/2546 โดยมีมูลค่า 6.46 ล้านล้าน PKR ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/6/2565 โดยมีมูลค่า -1.01 ชีวภาพ. PKR
ดุลการค้า ·
แม็กซ์
ยอดการค้า | |
---|---|
1/1/2500 | 58 ล้าน PKR |
1/2/2500 | 26 ล้าน PKR |
1/3/2500 | 16 ล้าน PKR |
1/12/2500 | 6 ล้าน PKR |
1/1/2501 | 26 ล้าน PKR |
1/3/2501 | 21 ล้าน PKR |
1/10/2501 | 11 ล้าน PKR |
1/5/2502 | 29 ล้าน PKR |
1/10/2502 | 39 ล้าน PKR |
1/1/2504 | 31 ล้าน PKR |
1/1/2515 | 25.2 ล้าน PKR |
1/2/2515 | 149.3 ล้าน PKR |
1/4/2515 | 32.7 ล้าน PKR |
1/5/2515 | 83.4 ล้าน PKR |
1/6/2515 | 61.2 ล้าน PKR |
1/11/2515 | 30.8 ล้าน PKR |
1/12/2515 | 118.6 ล้าน PKR |
1/1/2516 | 6.5 ล้าน PKR |
1/2/2516 | 111.6 ล้าน PKR |
1/4/2516 | 227.1 ล้าน PKR |
1/5/2516 | 279.4 ล้าน PKR |
1/6/2516 | 141.3 ล้าน PKR |
1/11/2516 | 156.4 ล้าน PKR |
1/5/2517 | 207.4 ล้าน PKR |
1/6/2534 | 2.73 ล้านล้าน PKR |
1/12/2536 | 587 ล้าน PKR |
1/3/2541 | 1.72 ล้านล้าน PKR |
1/4/2541 | 1.5 ล้านล้าน PKR |
1/5/2541 | 309.4 ล้าน PKR |
1/12/2543 | 391.5 ล้าน PKR |
1/6/2544 | 1.8 ล้านล้าน PKR |
1/9/2544 | 1.65 ล้านล้าน PKR |
1/12/2544 | 879.5 ล้าน PKR |
1/5/2546 | 4.6 ล้านล้าน PKR |
1/6/2546 | 6.46 ล้านล้าน PKR |
ดุลการค้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/6/2546 | 6.457 ล้านล้าน PKR |
1/5/2546 | 4.603 ล้านล้าน PKR |
1/12/2544 | 879.5 ล้าน PKR |
1/9/2544 | 1.648 ล้านล้าน PKR |
1/6/2544 | 1.799 ล้านล้าน PKR |
1/12/2543 | 391.5 ล้าน PKR |
1/5/2541 | 309.4 ล้าน PKR |
1/4/2541 | 1.503 ล้านล้าน PKR |
1/3/2541 | 1.72 ล้านล้าน PKR |
1/12/2536 | 587 ล้าน PKR |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇵🇰 กระแสเงินทุน | -642 ล้าน USD | -3.546 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇵🇰 การผลิตน้ำมันดิบ | 83 BBL/D/1K | 83 BBL/D/1K | รายเดือน |
🇵🇰 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | 358.8 ล้าน USD | 258 ล้าน USD | รายเดือน |
🇵🇰 การโอนเงิน | 3.2 ล้านล้าน USD | 2.812 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇵🇰 เงื่อนไขการซื้อขาย | 68.87 points | 64.17 points | ควอร์เตอร์ |
🇵🇰 ดัชนีการก่อการร้าย | 7.916 Points | 8.16 Points | ประจำปี |
🇵🇰 ทองคำสำรอง | 64.66 Tonnes | 64.66 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇵🇰 นำเข้า | 1.371 ชีวภาพ. PKR | 1.366 ชีวภาพ. PKR | รายเดือน |
🇵🇰 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | 205 ล้าน USD | -1.029 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇵🇰 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | -0.7 % of GDP | -4.7 % of GDP | ประจำปี |
🇵🇰 ส่งออก | 704.808 ล้านล้าน PKR | 777.787 ล้านล้าน PKR | รายเดือน |
🇵🇰 หนี้สินต่างประเทศ | 131.159 ล้านล้าน USD | 129.742 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
ปากีสถานมีการขาดดุลการค้าที่ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2003 เป็นหลักเนื่องจากการนำเข้าพลังงานที่สูง ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา จีนได้กลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของปากีสถานแทนที่สหรัฐอเมริกา ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การขาดดุลการค้าที่ใหญ่ที่สุดได้มีการบันทึกไว้กับจีน, อินเดีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ซาอุดีอาระเบีย, คูเวต และมาเลเซีย ปากีสถานมีการเกินดุลการค้ากับสหรัฐอเมริกา, อัฟกานิสถาน, เยอรมนี และสหราชอาณาจักร
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร ดุลการค้า
ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว