ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
นอร์เวย์ หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ราคา
ค่า ปัจจุบันของ หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน นอร์เวย์ คือ 88.6 % of GDP หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ใน นอร์เวย์ เพิ่มขึ้นเป็น 88.6 % of GDP เมื่อ 1/9/2567 หลังจากที่เป็น 88.3 % of GDP เมื่อ 1/6/2567 จาก 1/3/2518 ถึง 1/9/2567, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศโดยเฉลี่ยใน นอร์เวย์ คือ 65.93 % of GDP จุดสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/12/2563 ด้วย 113.4 % of GDP ขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ 1/9/2518 ด้วย 39.5 % of GDP
หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ·
แม็กซ์
หนี้สินของครัวเรือนต่อ GDP | |
---|---|
1/3/2518 | 39.7 % of GDP |
1/6/2518 | 39.7 % of GDP |
1/9/2518 | 39.5 % of GDP |
1/12/2518 | 39.5 % of GDP |
1/3/2519 | 39.5 % of GDP |
1/6/2519 | 39.8 % of GDP |
1/9/2519 | 39.8 % of GDP |
1/12/2519 | 39.8 % of GDP |
1/3/2520 | 40.2 % of GDP |
1/6/2520 | 40.5 % of GDP |
1/9/2520 | 40.7 % of GDP |
1/12/2520 | 41.4 % of GDP |
1/3/2521 | 41.9 % of GDP |
1/6/2521 | 42.2 % of GDP |
1/9/2521 | 42.2 % of GDP |
1/12/2521 | 42.5 % of GDP |
1/3/2522 | 42.9 % of GDP |
1/6/2522 | 42.9 % of GDP |
1/9/2522 | 43.1 % of GDP |
1/12/2522 | 43.4 % of GDP |
1/3/2523 | 42.2 % of GDP |
1/6/2523 | 42.1 % of GDP |
1/9/2523 | 41.9 % of GDP |
1/12/2523 | 41.8 % of GDP |
1/3/2524 | 42.8 % of GDP |
1/6/2524 | 42.1 % of GDP |
1/9/2524 | 41.3 % of GDP |
1/12/2524 | 41.9 % of GDP |
1/3/2525 | 41.9 % of GDP |
1/6/2525 | 42.7 % of GDP |
1/9/2525 | 42.9 % of GDP |
1/12/2525 | 43.5 % of GDP |
1/3/2526 | 43.5 % of GDP |
1/6/2526 | 44.1 % of GDP |
1/9/2526 | 43.8 % of GDP |
1/12/2526 | 44.8 % of GDP |
1/3/2527 | 45.2 % of GDP |
1/6/2527 | 45.6 % of GDP |
1/9/2527 | 45.6 % of GDP |
1/12/2527 | 46.7 % of GDP |
1/3/2528 | 46.7 % of GDP |
1/6/2528 | 48 % of GDP |
1/9/2528 | 49 % of GDP |
1/12/2528 | 51.7 % of GDP |
1/3/2529 | 52.7 % of GDP |
1/6/2529 | 55.6 % of GDP |
1/9/2529 | 57.6 % of GDP |
1/12/2529 | 59.8 % of GDP |
1/3/2530 | 61.2 % of GDP |
1/6/2530 | 62 % of GDP |
1/9/2530 | 63.2 % of GDP |
1/12/2530 | 66.2 % of GDP |
1/3/2531 | 65.8 % of GDP |
1/6/2531 | 67.2 % of GDP |
1/9/2531 | 67.9 % of GDP |
1/12/2531 | 69.6 % of GDP |
1/3/2532 | 68.5 % of GDP |
1/6/2532 | 68.4 % of GDP |
1/9/2532 | 68.2 % of GDP |
1/12/2532 | 69.3 % of GDP |
1/3/2533 | 68.5 % of GDP |
1/6/2533 | 68.6 % of GDP |
1/9/2533 | 68 % of GDP |
1/12/2533 | 67.9 % of GDP |
1/3/2534 | 66.3 % of GDP |
1/6/2534 | 64.9 % of GDP |
1/9/2534 | 63.6 % of GDP |
1/12/2534 | 64.2 % of GDP |
1/3/2535 | 63.1 % of GDP |
1/6/2535 | 62.4 % of GDP |
1/9/2535 | 61.3 % of GDP |
1/12/2535 | 61.6 % of GDP |
1/3/2536 | 60.2 % of GDP |
1/6/2536 | 59.5 % of GDP |
1/9/2536 | 58.3 % of GDP |
1/12/2536 | 58 % of GDP |
1/3/2537 | 56.8 % of GDP |
1/6/2537 | 56.2 % of GDP |
1/9/2537 | 56.1 % of GDP |
1/12/2537 | 56 % of GDP |
1/3/2538 | 54.6 % of GDP |
1/6/2538 | 54.2 % of GDP |
1/9/2538 | 53.9 % of GDP |
1/12/2538 | 53.1 % of GDP |
1/3/2539 | 52.7 % of GDP |
1/6/2539 | 52.5 % of GDP |
1/9/2539 | 52.1 % of GDP |
1/12/2539 | 51.6 % of GDP |
1/3/2540 | 51.5 % of GDP |
1/6/2540 | 51.1 % of GDP |
1/9/2540 | 51.2 % of GDP |
1/12/2540 | 51.5 % of GDP |
1/3/2541 | 52 % of GDP |
1/6/2541 | 53 % of GDP |
1/9/2541 | 53.5 % of GDP |
1/12/2541 | 54 % of GDP |
1/3/2542 | 54.1 % of GDP |
1/6/2542 | 54.6 % of GDP |
1/9/2542 | 54.5 % of GDP |
1/12/2542 | 53.9 % of GDP |
1/3/2543 | 52.5 % of GDP |
1/6/2543 | 51.8 % of GDP |
1/9/2543 | 51.1 % of GDP |
1/12/2543 | 50.6 % of GDP |
1/3/2544 | 50.7 % of GDP |
1/6/2544 | 51.4 % of GDP |
1/9/2544 | 52.5 % of GDP |
1/12/2544 | 54.4 % of GDP |
1/3/2545 | 55.9 % of GDP |
1/6/2545 | 57.9 % of GDP |
1/9/2545 | 59.4 % of GDP |
1/12/2545 | 60.2 % of GDP |
1/3/2546 | 60.7 % of GDP |
1/6/2546 | 62.2 % of GDP |
1/9/2546 | 63.4 % of GDP |
1/12/2546 | 64.7 % of GDP |
1/3/2547 | 65.2 % of GDP |
1/6/2547 | 65.5 % of GDP |
1/9/2547 | 65.5 % of GDP |
1/12/2547 | 65.6 % of GDP |
1/3/2548 | 65.7 % of GDP |
1/6/2548 | 66.2 % of GDP |
1/9/2548 | 66.4 % of GDP |
1/12/2548 | 66.8 % of GDP |
1/3/2549 | 66.3 % of GDP |
1/6/2549 | 66.5 % of GDP |
1/9/2549 | 66.9 % of GDP |
1/12/2549 | 67.9 % of GDP |
1/3/2550 | 68.5 % of GDP |
1/6/2550 | 69.9 % of GDP |
1/9/2550 | 70.9 % of GDP |
1/12/2550 | 71.3 % of GDP |
1/3/2551 | 70.5 % of GDP |
1/6/2551 | 70 % of GDP |
1/9/2551 | 69.1 % of GDP |
1/12/2551 | 69.5 % of GDP |
1/3/2552 | 71.4 % of GDP |
1/6/2552 | 74.2 % of GDP |
1/9/2552 | 77 % of GDP |
1/12/2552 | 79.1 % of GDP |
1/3/2553 | 78.4 % of GDP |
1/6/2553 | 78.6 % of GDP |
1/9/2553 | 79.5 % of GDP |
1/12/2553 | 79.1 % of GDP |
1/3/2554 | 79 % of GDP |
1/6/2554 | 79.1 % of GDP |
1/9/2554 | 78.8 % of GDP |
1/12/2554 | 79 % of GDP |
1/3/2555 | 78.7 % of GDP |
1/6/2555 | 79 % of GDP |
1/9/2555 | 79.5 % of GDP |
1/12/2555 | 80.4 % of GDP |
1/3/2556 | 81.4 % of GDP |
1/6/2556 | 82.7 % of GDP |
1/9/2556 | 82.9 % of GDP |
1/12/2556 | 83.2 % of GDP |
1/3/2557 | 83.5 % of GDP |
1/6/2557 | 84.2 % of GDP |
1/9/2557 | 85.3 % of GDP |
1/12/2557 | 86.6 % of GDP |
1/3/2558 | 88 % of GDP |
1/6/2558 | 89.6 % of GDP |
1/9/2558 | 91 % of GDP |
1/12/2558 | 92.7 % of GDP |
1/3/2559 | 94.9 % of GDP |
1/6/2559 | 98 % of GDP |
1/9/2559 | 100.8 % of GDP |
1/12/2559 | 101.8 % of GDP |
1/3/2560 | 101.3 % of GDP |
1/6/2560 | 101.4 % of GDP |
1/9/2560 | 101.3 % of GDP |
1/12/2560 | 101.1 % of GDP |
1/3/2561 | 100.8 % of GDP |
1/6/2561 | 100.7 % of GDP |
1/9/2561 | 99.8 % of GDP |
1/12/2561 | 98.9 % of GDP |
1/3/2562 | 99 % of GDP |
1/6/2562 | 100.4 % of GDP |
1/9/2562 | 102.2 % of GDP |
1/12/2562 | 103.3 % of GDP |
1/3/2563 | 104.4 % of GDP |
1/6/2563 | 108.5 % of GDP |
1/9/2563 | 111.2 % of GDP |
1/12/2563 | 113.4 % of GDP |
1/3/2564 | 113 % of GDP |
1/6/2564 | 109.3 % of GDP |
1/9/2564 | 103.7 % of GDP |
1/12/2564 | 95.9 % of GDP |
1/3/2565 | 88.3 % of GDP |
1/6/2565 | 82.2 % of GDP |
1/9/2565 | 75.5 % of GDP |
1/12/2565 | 74.8 % of GDP |
1/3/2566 | 75.8 % of GDP |
1/6/2566 | 78.6 % of GDP |
1/9/2566 | 85.1 % of GDP |
1/12/2566 | 86.9 % of GDP |
1/3/2567 | 88 % of GDP |
1/6/2567 | 88.3 % of GDP |
1/9/2567 | 88.6 % of GDP |
หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/9/2567 | 88.6 % of GDP |
1/6/2567 | 88.3 % of GDP |
1/3/2567 | 88 % of GDP |
1/12/2566 | 86.9 % of GDP |
1/9/2566 | 85.1 % of GDP |
1/6/2566 | 78.6 % of GDP |
1/3/2566 | 75.8 % of GDP |
1/12/2565 | 74.8 % of GDP |
1/9/2565 | 75.5 % of GDP |
1/6/2565 | 82.2 % of GDP |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇳🇴 การใช้จ่ายของผู้บริโภค | 466.229 ล้านล้าน NOK | 466.403 ล้านล้าน NOK | ควอร์เตอร์ |
🇳🇴 การออมส่วนบุคคล | 8.3 % | 7.4 % | ควอร์เตอร์ |
🇳🇴 ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค | -7.5 points | -12.4 points | ควอร์เตอร์ |
🇳🇴 ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน | 6.4 % | -0.8 % | รายเดือน |
🇳🇴 ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน MoM | 1.5 % | -1.1 % | รายเดือน |
🇳🇴 ยอดขายปลีกเดือนต่อเดือnego | -0.1 % | 1.1 % | รายเดือน |
🇳🇴 ยอดขายปลีกประจำปี | 2.2 % | 2.8 % | รายเดือน |
🇳🇴 ราคาน้ำมันเบนซิน | 1.93 USD/Liter | 1.9 USD/Liter | รายเดือน |
🇳🇴 รายได้ส่วนบุคคลที่ใช้ได้ | 357.335 ล้านล้าน NOK | 355.52 ล้านล้าน NOK | ควอร์เตอร์ |
🇳🇴 สินเชื่อบุคคล | 4.472 ชีวภาพ. NOK | 4.467 ชีวภาพ. NOK | รายเดือน |
🇳🇴 อัตราส่วนหนี้สินของครัวเรือนต่อรายได้ | 210.38 % | 206.25 % | ประจำปี |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร หนี้ครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP (Households Debt to GDP) เป็นดัชนีทางเศรษฐกิจที่สำคัญซึ่งใช้ในการวิเคราะห์ระดับหนี้สินของครัวเรือนในแต่ละประเทศเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP หนี้สินครัวเรือนหมายถึงการติดหนี้ทั้งหลายของครัวเรือนเช่นการกู้ยืมเพื่อซื้อบ้าน การกู้ยืมเพื่อการบริโภค และบัตรเครดิต เปรียบเทียบกับผลผลิตทั้งหมดในเชิงเศรษฐกิจของประเทศหนึ่งๆ ในภาพรวม การเพิ่มขึ้นของหนี้สินครัวเรือนเมื่อเทียบกับ GDP อาจเป็นสัญญาณของหลายสิ่งหลายอย่างทั้งดีและไม่ดี สำหรับประเด็นดี การมีหนี้สินในระดับที่เหมาะสมสามารถเสริมสร้างเศรษฐกิจด้วยการสร้างโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าทุน เช่น บ้านและรถยนต์ หรือการบริโภคในรูปแบบต่างๆ ซึ่งสามารถช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ อย่างไรก็ตาม การมีหนี้สินครัวเรือนสูงเมื่อเทียบกับ GDP อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโดยรวม ความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชนอาจลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสถาบันการเงินและการบริโภคสาธารณะ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลให้ความเสี่ยงในการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เนื่องจากครัวเรือนมีภาระหนี้สินที่สูงเกินไป การวิเคราะห์หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ประการแรกคือระดับรายได้ของครัวเรือน หากรายได้ของครัวเรือนสูง การมีหนี้สินที่สูงก็อาจไม่เป็นปัญหาเท่าไร ประการที่สองคืออัตราดอกเบี้ย การกู้ยืมเงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำอาจทำให้ภาระหนี้สินของครัวเรือนดูไม่สูงเท่าที่คิด แต่หากอัตราดอกเบี้ยมีการปรับขึ้นภาระการชำระหนี้ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนั้นยังมีปัจจัยด้านความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ เช่น การจ้างงานและความเสถียรของตลาดแรงงาน หากตลาดแรงงานมีเสถียรภาพสูงและอัตราการว่างงานต่ำ ครัวเรือนจะมีความสามารถในการชำระหนี้มากขึ้น ซึ่งทำให้หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ไม่เป็นปัญหามากนัก ในทางกลับกัน หากเศรษฐกิจชะลอตัวหรือมีความไม่แน่นอนสูง ครัวเรือนอาจพบว่าการชำระหนี้เป็นภาระหนักขึ้น ภายในบริบทของประเทศไทย ข้อมูลเรื่องหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ถือเป็นข้อมูลที่สำคัญและต้องติดตามอย่างใกล้ชิด การเพิ่มขึ้นของหนี้สินครัวเรือนในอดีตแสดงให้เห็นถึงความต้องการการบริโภคและการกู้ยืมเพื่อการลงทุนในสินทรัพย์ทุน เช่นที่อยู่อาศัย แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเป็นสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงหากครัวเรือนไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด หนี้สินครัวเรือนที่สูงอาจทำให้ครัวเรือนลดทอนการบริโภค ซึ่งอาจส่งผลลบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ด้วยเหตุนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องมีมาตรการติดตามและควบคุมระดับหนี้สินครัวเรือนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ การดำเนินนโยบายทางการเงิน เช่น การกำหนดอัตราดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้ได้เพื่อลดภาระการชำระหนี้ของครัวเรือน และส่งเสริมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อีกหนึ่งมุมมองที่น่าสนใจคือการวิเคราะห์หนี้สินครัวเรือนในเชิงภูมิภาค การเปรียบเทียบหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ในแต่ละภูมิภาคสามารถเปิดเผยถึงแนวโน้มและปัจจัยเฉพาะที่มีผลต่อการกู้ยืม เช่น ค่าครองชีพและมูลค่าทรัพย์สินในแต่ละภูมิภาคที่แตกต่างกัน ในยุคดิจิทัล การเข้าถึงข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงลึกกลายเป็นเรื่องที่สะดวกสบายและรวดเร็วมากขึ้น เว็บไซต์เช่น eulerpool ซึ่งเชี่ยวชาญในการให้ข้อมูลทางแมโครเศรษฐกิจ สามารถช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาคได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ การที่ข้อมูลนี้สามารถถูกวิเคราะห์และนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจได้ง่ายจะช่วยให้ผู้ประกอบการ นักลงทุน และผู้กำหนดนโยบายทางเศรษฐกิจสามารถทำการตัดสินใจที่มีพื้นฐานจากข้อมูลที่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ การมีความรู้และการเข้าใจในแนวโน้มของหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนการเงินและการลงทุนในระดับบุคคล การทำความเข้าใจถึงระดับหนี้สินของครัวเรือนในประเทศจะช่วยให้บุคคลสามารถประเมินความเสี่ยงและวางแผนการเงินได้ดีขึ้น โดยสรุป หนี้สินครัวเรือนต่อ GDP เป็นดัชนีที่มีผลกระทบสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย การติดตามระดับหนี้สินครัวเรือน การวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลกระทบ และการใช้นโยบายทางการเงินที่เหมาะสมเป็นองค์ประกอบสำคัญในการรักษาเสถียรภาพและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ดังนั้น การเข้าถึงข้อมูลและการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและทันสมัยเช่นข้อมูลที่นำเสนอโดย eulerpool จะเป็นเครื่องมือที่จำเป็นในการตัดสินใจเชิงเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ