ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇳🇬

ไนจีเรีย อัตราเงินเฟ้อ

ราคา

33.69 %
การเปลี่ยนแปลง +/-
+0.49 %
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+1.47 %

ค่า อัตราเงินเฟ้อ ปัจจุบันใน ไนจีเรีย คือ 33.69 %. อัตราเงินเฟ้อ ใน ไนจีเรีย เพิ่มขึ้นเป็น 33.69 % เมื่อ 1/4/2567 หลังจากที่เคยเป็น 33.2 % เมื่อ 1/3/2567. จาก 1/1/2539 ถึง 1/5/2567, GDP เฉลี่ยใน ไนจีเรีย คือ 13.56 %. ค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/1/2539 ที่ 47.56 % ขณะที่ค่าต่ำสุดเกิดขึ้นเมื่อ 1/1/2543 ที่ -2.49 %.

แหล่งที่มา: National Bureau of Statistics, Nigeria

อัตราเงินเฟ้อ

  • แม็กซ์

อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/256733.69 %
1/3/256733.2 %
1/2/256731.7 %
1/1/256729.9 %
1/12/256628.92 %
1/11/256628.2 %
1/10/256627.33 %
1/9/256626.72 %
1/8/256625.8 %
1/7/256624.08 %
1
2
3
4
5
...
34

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ อัตราเงินเฟ้อ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇳🇬
CPI Transport
606.4 points592.3 pointsรายเดือน
🇳🇬
เงินเฟ้อด้านอาหาร
40.66 %40.53 %รายเดือน
🇳🇬
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
733.4 points718 pointsรายเดือน
🇳🇬
ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง
583.9 points572 pointsรายเดือน
🇳🇬
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน
576.9 points565.8 pointsรายเดือน
🇳🇬
ตัวคูณ GDP
302.7 points311.99 pointsควอร์เตอร์
🇳🇬
อัตราเงินเฟ้อ MoM
2.14 %2.29 %รายเดือน
🇳🇬
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน
27.04 %26.8 %รายเดือน

ในประเทศไนจีเรีย ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) วัดการเปลี่ยนแปลงราคาของสินค้าและบริการ 740 รายการที่ผู้คนใช้ในชีวิตประจำวันในช่วงเวลาหนึ่ง ดัชนีนี้มีน้ำหนักตามการใช้จ่ายของครัวเรือนทั้งในเขตเมืองและชนบทใน 36 รัฐ หมวดหมู่ที่สำคัญที่สุดใน CPI คือ: อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (52% ของน้ำหนักรวม) ที่อยู่อาศัย, น้ำ, ไฟฟ้า, แก๊ส และเชื้อเพลิงอื่นๆ (17%), เสื้อผ้าและรองเท้า (8%) การขนส่งมีสัดส่วน 7% และการบำรุงรักษาอุปกรณ์ครัวเรือนและเครื่องใช้มีสัดส่วน 5% หมวดหมู่อื่นๆ รวมถึง: การศึกษา (4%); สุขภาพ (3%); สินค้าและบริการเบ็ดเตล็ด (2%); ร้านอาหารและโรงแรม (1%); เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ยาสูบ และโคล่า (1%); การบันเทิงและวัฒนธรรม (1%); และการสื่อสาร (1%)

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน แอฟริกา

คืออะไร อัตราเงินเฟ้อ

อัตราเงินเฟ้อ (Inflation Rate) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในภาพรวมของเศรษฐกิจ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นบ่งบอกว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆมีค่าลดลงทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อลดลงบ่งบอกถึงการเพิ่มขึ้นของค่าความมั่นคงของเงิน ซึ่งมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประชาชนในทิศทางที่ดีขึ้น ในบริบทของเศรษฐศาสตร์มหภาค อัตราเงินเฟ้อได้รับความสนใจจากทั้งภาครัฐบาล ภาคธุรกิจ นักเศรษฐศาสตร์ และประชาชนทั่วไป อัตราเงินเฟ้อสามารถส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การวางแผนการลงทุน การกำหนดค่าแรง และการวางแผนการบริโภค ภาครัฐบาลมีบทบาทสำคัญในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ โดยใช้มาตรการทางการเงินและการคลัง เช่น การตั้งอัตราดอกเบี้ย การปรับเปลี่ยนภาษี และการใช้โครงการส่งเสริมการลงทุน เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป การควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นความท้าทายของนโยบายการเงินที่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการกำหนดนโยบาย ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการเพิ่มของราคาสินค้าและบริการ ทางเศรษฐกิจพบว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสามารถทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน และการบริโภคในระยะยาว สิ่งนี้สามารถนำไปสู่เศรษฐกิจถดถอยหากไม่สามารถควบคุมได้อย่างเหมาะสม ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำเกินไป หรือแม้แต่อัตราเงินฝืด (deflation) ก็สามารถส่งผลกระทบทางลบที่คล้ายคลึงกัน เพราะอาจทำให้การบริโภคและการลงทุนลดลงเนื่องจากการคาดหมายของประชาชนว่า ราคาสินค้าและบริการจะลดลงในอนาคต ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ การวัดอัตราเงินเฟ้อมักใช้มาตรวัดที่เรียกว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index, CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index, PPI) ซึ่งทั้งสองดัชนีนี้ใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าและบริการในเศรษฐกิจ CPI มักใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคซื้อ ส่วน PPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้ผลิตขาย ส่วนประกอบสำคัญของอัตราเงินเฟ้อคือ มาตรการด้านอุปสงค์และอุปทาน อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ถ้าอุปทานไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่วนประกอบอีกอย่างคือ การเปลี่ยนแปลงของต้นทุนการผลิต เช่น ราคาน้ำมัน วัตถุดิบ และค่าแรง ที่เพิ่มขึ้นหรือมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน จะส่งผลต่อราคาอย่างแน่นอน สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool เราให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและแม่นยำ การติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจทางเศรษฐกิจอย่างมีข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอ ทีมงานของเรายังมีการปรับปรุงข้อมูลอย่างต่อเนื่องและทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ใช้งานจะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน ในภาพรวม การทำความเข้าใจและการติดตามอัตราเงินเฟ้อมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจทางเศรษฐกิจ ทั้งในระดับบุคคลและระดับมหภาค การติดตามและการวิเคราะห์ข้อมูลอัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องจะทำให้เราสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีข้อมูลและการวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเตรียมความพร้อมรับมือกับความท้าทายและโอกาสที่เกิดขึ้นในอนาคต ไม่เพียงแค่ในส่วนของการบริโภคและการลงทุน แต่ยังรวมถึงการตั้งนโยบายทางเศรษฐกิจในระดับชาติ ดังนั้น Eulerpool จึงเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจมหภาครวมถึงการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งและละเอียดที่สุด เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจ