ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

23,8 % Ø-Performance der Fair-Value-Strategie seit 2003
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇳🇦

นามิเบีย ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จากการทำเหมืองแร่

ราคา

4.921 ล้านล้าน USD
การเปลี่ยนแปลง +/-
+772.7 ล้าน USD
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+17.04 %

มูลค่าปัจจุบันของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จากการทำเหมืองแร่ใน นามิเบีย คือ 4.921 ล้านล้าน USD ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จากการทำเหมืองแร่ใน นามิเบีย เพิ่มขึ้นเป็น 4.921 ล้านล้าน USD เมื่อ 1/12/2567 หลังจากที่เคยเป็น 4.148 ล้านล้าน USD เมื่อ 1/9/2567 ตั้งแต่ 1/3/2543 ถึง 1/12/2567 ค่าเฉลี่ยของการผลิตมวลรวมในประเทศ (GDP) ใน นามิเบีย อยู่ที่ 2.78 ล้านล้าน USD มูลค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อ 1/3/2567 โดยมีค่า 5.19 ล้านล้าน USD ขณะที่ค่าต่ำสุดที่บันทึกไว้เมื่อ 1/6/2544 โดยมีค่า 1.08 ล้านล้าน USD

แหล่งที่มา: Central Bureau of Statistics, Namibia

ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จากการทำเหมืองแร่

  • แม็กซ์

ผลิตภัณฑ์มวลรวมในภาคเหมืองแร่

ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จากการทำเหมืองแร่ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/12/25674.921 ล้านล้าน USD
1/9/25674.148 ล้านล้าน USD
1/6/25674.687 ล้านล้าน USD
1/3/25675.191 ล้านล้าน USD
1/12/25664.907 ล้านล้าน USD
1/9/25664.593 ล้านล้าน USD
1/6/25664.876 ล้านล้าน USD
1/3/25664.811 ล้านล้าน USD
1/12/25654.263 ล้านล้าน USD
1/9/25654.031 ล้านล้าน USD
1
2
3
4
5
...
10

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จากการทำเหมืองแร่

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇳🇦
BIP
12.35 ล้านล้าน USD12.57 ล้านล้าน USDประจำปี
🇳🇦
GDP จากบริษัทสาธารณูปโภค
1.091 ล้านล้าน USD1.024 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇳🇦
GDP จากภาคการขนส่ง
1.021 ล้านล้าน USD1.057 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇳🇦
การเติบโตของ BIP ตลอดทั้งปี
3.7 %4.4 %ประจำปี
🇳🇦
การลงทุนทางการเงินรวม
39.862 ล้านล้าน NAD43.282 ล้านล้าน NADประจำปี
🇳🇦
จีดีพีจากภาคเกษตรกรรม
1.79 ล้านล้าน USD1.184 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇳🇦
จีดีพีต่อหัว ที่ปรับเป็นความซื้อขายแลกเปลี่ยน
10,105.51 USD9,948.46 USDประจำปี
🇳🇦
จีดีพีที่ราคาคงที่
41.11 ล้านล้าน USD38.196 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇳🇦
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศต่อหัว
3,965.36 USD3,903.73 USDประจำปี
🇳🇦
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในภาคบริการ
4.272 ล้านล้าน USD3.642 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇳🇦
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในภาคบริการสาธารณะ
4.529 ล้านล้าน USD5.194 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇳🇦
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในสาขาการก่อสร้าง
514 ล้าน USD440.1 ล้าน USDควอร์เตอร์
🇳🇦
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในอุตสาหกรรมการผลิต
4.244 ล้านล้าน USD4.065 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇳🇦
รายได้มหาชนรวมแผ่นดิน
236.927 ล้านล้าน NAD217.932 ล้านล้าน NADประจำปี
🇳🇦
อัตราการเติบโตของ GDP
7.63 %-2.4 %ควอร์เตอร์
🇳🇦
อัตราการเติบโตของ GDP ประจำปี
3.1 %3.2 %ควอร์เตอร์

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน แอฟริกา

คืออะไร ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) จากการทำเหมืองแร่

ในการวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจในหมวดหมู่ "GDP จากการทำเหมือง" (Gross Domestic Product from Mining) ซึ่งถือเป็นแนวโน้มสำคัญที่สามารถสะท้อนสถานะการเงินและเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ การทำเหมืองมักจะมีการระบุถึงการขุดเกลือ ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน เหมืองแร่เหล็ก และทรัพยากรสำคัญอื่น ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้มักถูกนับเป็นส่วนหนึ่งของ GDP ของประเทศนั้น ๆ การทำเหมืองเป็นกิจกรรมที่มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยทั่วไปแล้ว, การขุดค้นและสกัดทรัพยากรธรรมชาติในปริมาณมากมักจะส่งผลโดยตรงต่อ GDP ของประเทศ การมีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และมีการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพสามารถเป็นแหล่งสร้างรายได้หลักของหลายประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่พัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมการทำเหมือง หนึ่งในเหตุผลที่การทำเหมืองมีอิทธิพลอย่างมากต่อ GDP ของประเทศคือการสร้างงานทำที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมนี้ ตั้งแต่การขุดค้นไปจนถึงการแปรรูปและจำหน่ายทรัพยากรธรรมชาติที่ได้ การทำเหมืองเสนอผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม และทำให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ความสามารถในการสร้างงานทำที่มีรายได้ดีทำให้ประชาชนมีเงินพอใช้จ่าย และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างหาก อีกทั้งความสำคัญของการทำเหมืองยังอยู่ที่การเป็นแหล่งรายได้สำหรับรัฐบาลผ่านการเก็บภาษีในรูปแบบต่างๆ เช่น ภาษีการขุดค้น ภาษีน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ภาษีสิทธิสำรวจ และอื่น ๆ รายได้จากภาษีเหล่านี้สามารถนำไปใช้เพื่อส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการบริการสังคมตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเป็นการต่อยอดอีกรอบหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมการทำเหมืองยังมีการขยายตัวที่ต้องการอินฟราสตรักเจอร์ที่เข้มแข็ง เช่น การคมนาคม ขนส่ง, ระบบไฟฟ้า และน้ำ ซึ่งอินฟราสตรักเจอร์เหล่านี้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาและเติบโตของประเทศ พร้อมทั้งยึดถือหลักการปฏิบัติในเชิงสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดความยั่งยืนและลดผลกระทบทางลบต่อธรรมชาติ สำหรับบางประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์อย่างเช่น รัสเซีย, แคนาดา, ออสเตรเลีย, และชิลี การทำเหมืองเป็นหนึ่งในเสาหลักที่ช่วยยกระดับ GDP ของประเทศและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การผลิตและส่งออกทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้นอกจากจะสร้างรายได้โดยตรงแล้ว ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในเวทีการค้าต่างประเทศ ซึ่งเป็นแรงดึงดูดการลงทุนจากภายนอก นอกจากสภาพเศรษฐกิจในระดับประเทศ การทำเหมืองยังมีบทบาทสำคัญในเวทีเศรษฐกิจโลก เรียกตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของความต้องการของทรัพยากรธรรมชาติส่วนใหญ่เกิดจากการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนา เช่น ประเทศจีน และอินเดีย ซึ่งต้องการทรัพยากรในการพัฒนาอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐานในประเทศตัวเอง การทำเหมืองมีส่วนเอื้อให้ GDP ของประเทศไทยคล้ายกับกลุ่มประเทศเหล่านี้ในการสร้างสรรค์รายได้จากการขายทรัพยากรออกไป นอกจากนี้ การวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับ "GDP จากการทำเหมือง" เป็นสิ่งสำคัญที่กลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ นักลงทุน และภาคธุรกิจต้องพิจารณาเพื่อเข้าใจการแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศและการวางแผนธุรกิจ ข้อมูลดังกล่าวช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนทางการเงิน การวางแผนโครงการ การทำเหมืองที่ยั่งยืนและการตลาดทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีกลยุทธ์ ในส่วนของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การทำเหมืองก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน เช่น ในประเทศไทย การทำเหมืองทองคำ การทำเหมืองถ่านหิน และการผลิตก๊าซธรรมชาติเป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถเป็นตัวชี้วัดกระแสการเติบโตของเศรษฐกิจไทยได้ ในด้านความยั่งยืน การทำเหมืองควรจะต้องพิจารณาถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง การจัดการสิ่งแวดล้อมและควบคุมกระบวนการทำเหมืองเป็นที่สำคัญเพื่อให้มั่นใจได้ว่าการทำเหมืองนั้นจะไม่สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติควรจะต้องมีความยั่งยืนและประหยัดเพื่อให้มีทรัพยากรสำหรับคนรุ่นถัดไป สุดท้ายนี้, เว็บไซต์ของเราที่ "eulerpool" เมื่อเผยแพร่ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ "GDP จากการทำเหมือง" เราหวังที่จะให้ผู้ใช้สามารถได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและครอบคลุม ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการวิเคราะห์และตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพในทุกมิติของเศรษฐกิจ ข้อมูลที่ครอบคลุมทั้งกระบวนการทำเหมือง ภาษี รายได้ การจ้างงาน และผลกระทบทางเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่ผู้ใช้สามารถพึ่งพาได้เพื่อเป็นแนวทางในการทำความเข้าใจเศรษฐกิจภาพรวมอย่างลึกซึ้งและแบบครบวงจร