ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร มองโกเลีย ดุลการค้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน มองโกเลีย คือ 274.7 ล้าน USD ดุลการค้าใน มองโกเลีย ลดลงไปที่ 274.7 ล้าน USD ในวันที่ 1/4/2567 หลังจากที่เป็น 657.2 ล้าน USD ในวันที่ 1/3/2567 ตั้งแต่ 1/1/2540 ถึง 1/5/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน มองโกเลีย คือ 49.24 ล้าน USD จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/3/2566 ด้วยค่า 776.3 ล้าน USD ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/7/2555 ด้วยค่า -369.8 ล้าน USD
ดุลการค้า ·
แม็กซ์
ยอดการค้า | |
---|---|
1/1/2540 | 7.5 ล้าน USD |
1/2/2540 | 3.6 ล้าน USD |
1/3/2540 | 20.3 ล้าน USD |
1/4/2540 | 3.3 ล้าน USD |
1/5/2540 | 19.5 ล้าน USD |
1/9/2540 | 19 ล้าน USD |
1/10/2540 | 12.2 ล้าน USD |
1/12/2540 | 42 ล้าน USD |
1/1/2541 | 700,000 USD |
1/6/2541 | 7.6 ล้าน USD |
1/7/2541 | 2 ล้าน USD |
1/9/2541 | 16.1 ล้าน USD |
1/12/2541 | 2.8 ล้าน USD |
1/1/2542 | 800,000 USD |
1/8/2542 | 21.6 ล้าน USD |
1/10/2542 | 9.6 ล้าน USD |
1/6/2543 | 20.3 ล้าน USD |
1/10/2543 | 800,000 USD |
1/9/2544 | 6 ล้าน USD |
1/10/2544 | 900,000 USD |
1/11/2544 | 61.6 ล้าน USD |
1/1/2545 | 7.4 ล้าน USD |
1/2/2545 | 1.3 ล้าน USD |
1/10/2545 | 800,000 USD |
1/11/2545 | 900,000 USD |
1/1/2546 | 2.4 ล้าน USD |
1/12/2546 | 19.4 ล้าน USD |
1/8/2547 | 4.8 ล้าน USD |
1/12/2547 | 64 ล้าน USD |
1/9/2548 | 17.2 ล้าน USD |
1/12/2548 | 22.1 ล้าน USD |
1/2/2549 | 4 ล้าน USD |
1/3/2549 | 10.1 ล้าน USD |
1/5/2549 | 3.4 ล้าน USD |
1/6/2549 | 24.5 ล้าน USD |
1/7/2549 | 6.2 ล้าน USD |
1/9/2549 | 55.1 ล้าน USD |
1/11/2549 | 38.6 ล้าน USD |
1/12/2549 | 19 ล้าน USD |
1/1/2550 | 57 ล้าน USD |
1/2/2550 | 4.9 ล้าน USD |
1/5/2550 | 8.2 ล้าน USD |
1/1/2551 | 17.6 ล้าน USD |
1/2/2551 | 39.7 ล้าน USD |
1/1/2552 | 50.9 ล้าน USD |
1/1/2553 | 31.5 ล้าน USD |
1/5/2553 | 33.3 ล้าน USD |
1/6/2553 | 12.6 ล้าน USD |
1/12/2553 | 28.9 ล้าน USD |
1/5/2556 | 296.4 ล้าน USD |
1/3/2557 | 10.2 ล้าน USD |
1/6/2557 | 54.2 ล้าน USD |
1/8/2557 | 184.6 ล้าน USD |
1/10/2557 | 131.8 ล้าน USD |
1/11/2557 | 228.9 ล้าน USD |
1/12/2557 | 180 ล้าน USD |
1/1/2558 | 225.4 ล้าน USD |
1/2/2558 | 65.5 ล้าน USD |
1/3/2558 | 85.1 ล้าน USD |
1/4/2558 | 42 ล้าน USD |
1/5/2558 | 4.4 ล้าน USD |
1/6/2558 | 109.1 ล้าน USD |
1/7/2558 | 72.6 ล้าน USD |
1/8/2558 | 100.7 ล้าน USD |
1/10/2558 | 78.7 ล้าน USD |
1/12/2558 | 124 ล้าน USD |
1/1/2559 | 130 ล้าน USD |
1/2/2559 | 131.2 ล้าน USD |
1/3/2559 | 98.7 ล้าน USD |
1/4/2559 | 124.7 ล้าน USD |
1/5/2559 | 117.6 ล้าน USD |
1/6/2559 | 91.2 ล้าน USD |
1/7/2559 | 15.2 ล้าน USD |
1/8/2559 | 110.9 ล้าน USD |
1/9/2559 | 65 ล้าน USD |
1/10/2559 | 72.9 ล้าน USD |
1/11/2559 | 239.3 ล้าน USD |
1/12/2559 | 361.6 ล้าน USD |
1/1/2560 | 151.4 ล้าน USD |
1/2/2560 | 182.9 ล้าน USD |
1/3/2560 | 189.4 ล้าน USD |
1/4/2560 | 258.2 ล้าน USD |
1/5/2560 | 228.6 ล้าน USD |
1/6/2560 | 164.7 ล้าน USD |
1/7/2560 | 8.5 ล้าน USD |
1/8/2560 | 164.5 ล้าน USD |
1/9/2560 | 104 ล้าน USD |
1/10/2560 | 231.5 ล้าน USD |
1/11/2560 | 98.2 ล้าน USD |
1/12/2560 | 83.4 ล้าน USD |
1/1/2561 | 62.7 ล้าน USD |
1/2/2561 | 49.7 ล้าน USD |
1/3/2561 | 239.6 ล้าน USD |
1/4/2561 | 191.5 ล้าน USD |
1/5/2561 | 163 ล้าน USD |
1/6/2561 | 115.9 ล้าน USD |
1/7/2561 | 28.8 ล้าน USD |
1/8/2561 | 18.2 ล้าน USD |
1/9/2561 | 62.5 ล้าน USD |
1/10/2561 | 137.5 ล้าน USD |
1/11/2561 | 40 ล้าน USD |
1/12/2561 | 27.5 ล้าน USD |
1/1/2562 | 103.3 ล้าน USD |
1/2/2562 | 152.8 ล้าน USD |
1/3/2562 | 229.8 ล้าน USD |
1/4/2562 | 259.8 ล้าน USD |
1/5/2562 | 202.6 ล้าน USD |
1/6/2562 | 96.9 ล้าน USD |
1/7/2562 | 19.1 ล้าน USD |
1/8/2562 | 231.6 ล้าน USD |
1/9/2562 | 51.4 ล้าน USD |
1/10/2562 | 116.9 ล้าน USD |
1/11/2562 | 7.7 ล้าน USD |
1/12/2562 | 20.4 ล้าน USD |
1/2/2563 | 35 ล้าน USD |
1/5/2563 | 226.6 ล้าน USD |
1/6/2563 | 354.2 ล้าน USD |
1/7/2563 | 478.6 ล้าน USD |
1/8/2563 | 179 ล้าน USD |
1/9/2563 | 193.3 ล้าน USD |
1/10/2563 | 330.2 ล้าน USD |
1/11/2563 | 419.4 ล้าน USD |
1/12/2563 | 308.9 ล้าน USD |
1/1/2564 | 180.8 ล้าน USD |
1/2/2564 | 233.7 ล้าน USD |
1/3/2564 | 62.5 ล้าน USD |
1/4/2564 | 58.9 ล้าน USD |
1/5/2564 | 183.8 ล้าน USD |
1/6/2564 | 91.6 ล้าน USD |
1/7/2564 | 52 ล้าน USD |
1/8/2564 | 244.6 ล้าน USD |
1/9/2564 | 148.6 ล้าน USD |
1/10/2564 | 592 ล้าน USD |
1/11/2564 | 758.4 ล้าน USD |
1/2/2565 | 156.4 ล้าน USD |
1/3/2565 | 76 ล้าน USD |
1/4/2565 | 231.9 ล้าน USD |
1/5/2565 | 498.8 ล้าน USD |
1/6/2565 | 415.1 ล้าน USD |
1/7/2565 | 341.3 ล้าน USD |
1/8/2565 | 438.7 ล้าน USD |
1/9/2565 | 426.9 ล้าน USD |
1/10/2565 | 365 ล้าน USD |
1/11/2565 | 343.1 ล้าน USD |
1/12/2565 | 558.3 ล้าน USD |
1/1/2566 | 391.1 ล้าน USD |
1/2/2566 | 659.4 ล้าน USD |
1/3/2566 | 776.3 ล้าน USD |
1/4/2566 | 598.7 ล้าน USD |
1/5/2566 | 392.9 ล้าน USD |
1/6/2566 | 461.8 ล้าน USD |
1/7/2566 | 395.1 ล้าน USD |
1/8/2566 | 383.6 ล้าน USD |
1/9/2566 | 490.2 ล้าน USD |
1/10/2566 | 370 ล้าน USD |
1/11/2566 | 518.4 ล้าน USD |
1/12/2566 | 494.5 ล้าน USD |
1/1/2567 | 332 ล้าน USD |
1/2/2567 | 252.4 ล้าน USD |
1/3/2567 | 657.2 ล้าน USD |
1/4/2567 | 274.7 ล้าน USD |
ดุลการค้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/4/2567 | 274.7 ล้าน USD |
1/3/2567 | 657.2 ล้าน USD |
1/2/2567 | 252.4 ล้าน USD |
1/1/2567 | 332 ล้าน USD |
1/12/2566 | 494.5 ล้าน USD |
1/11/2566 | 518.4 ล้าน USD |
1/10/2566 | 370 ล้าน USD |
1/9/2566 | 490.2 ล้าน USD |
1/8/2566 | 383.6 ล้าน USD |
1/7/2566 | 395.1 ล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇲🇳 กระแสเงินทุน | 60.88 ล้าน USD | 45.55 ล้าน USD | รายเดือน |
🇲🇳 การผลิตน้ำมันดิบ | 15 BBL/D/1K | 15 BBL/D/1K | รายเดือน |
🇲🇳 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | 30.587 ล้านล้าน USD | 29.752 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇲🇳 การโอนเงิน | 13.81 ล้าน USD | 5.23 ล้าน USD | รายเดือน |
🇲🇳 ดัชนีการก่อการร้าย | 0 Points | 0 Points | ประจำปี |
🇲🇳 ทองคำสำรอง | 6.03 Tonnes | 6.61 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇲🇳 นำเข้า | 968.9 ล้าน USD | 1.012 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇲🇳 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | -232.11 ล้าน USD | 226.36 ล้าน USD | รายเดือน |
🇲🇳 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | -10.9 % of GDP | -13.4 % of GDP | ประจำปี |
🇲🇳 ส่งออก | 1.419 ล้านล้าน USD | 1.287 ล้านล้าน USD | รายเดือน |
🇲🇳 หนี้สินต่างประเทศ | 34.57 ล้านล้าน USD | 33.991 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
ประเทศมองโกเลียส่งออกผลิตภัณฑ์แร่ (เช่น ทองแดง, ถ่านหิน, โมลิบดีนัม, ดีบุก, ทังสเตน, และทองคำ), หินธรรมชาติหรือหินสังเคราะห์, เครื่องประดับ, แคชเมียร์, ผลิตภัณฑ์จากสัตว์, หนังและหนังสัตว์ ประเทศที่เป็นคู่ค้าหลักของมองโกเลียในการส่งออกคือประเทศจีน (89% ของการส่งออกทั้งหมด) ประเทศอื่น ๆ ที่เป็นคู่ค้าคือ แคนาดา และรัสเซีย มองโกเลียนำเข้าผลิตภัณฑ์แร่, เครื่องจักร, อุปกรณ์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องบันทึก, เครื่องรับโทรทัศน์และชิ้นส่วน, ยานพาหนะ, ผลิตภัณฑ์อาหาร และโลหะพื้นฐาน คู่ค้าหลักในการนำเข้าของมองโกเลียคือรัสเซีย (22% ของทั้งหมด) และจีน (26%) ประเทศอื่น ๆ ที่เป็นคู่ค้าได้แก่ ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร ดุลการค้า
ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว