ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร พม่า ดุลการค้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน พม่า คือ 183.9 ล้าน USD ดุลการค้าใน พม่า เพิ่มขึ้นเป็น 183.9 ล้าน USD เมื่อ 1/7/2565 หลังจากที่เป็น 28.9 ล้าน USD เมื่อ 1/4/2565 จาก 1/10/2553 ถึง 1/6/2566 GDP เฉลี่ยใน พม่า คือ -163.99 ล้าน USD มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถึงเมื่อ 1/8/2554 โดยมีมูลค่า 593.3 ล้าน USD ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/7/2558 โดยมีมูลค่า -942.7 ล้าน USD
ดุลการค้า ·
แม็กซ์
ยอดการค้า | |
---|---|
1/10/2553 | 300.3 ล้าน USD |
1/11/2553 | 451.7 ล้าน USD |
1/12/2553 | 350.3 ล้าน USD |
1/1/2554 | 398.5 ล้าน USD |
1/4/2554 | 147.8 ล้าน USD |
1/7/2554 | 435.9 ล้าน USD |
1/8/2554 | 593.3 ล้าน USD |
1/9/2554 | 263.6 ล้าน USD |
1/10/2554 | 125.7 ล้าน USD |
1/12/2554 | 33.9 ล้าน USD |
1/2/2555 | 231.5 ล้าน USD |
1/4/2555 | 86.7 ล้าน USD |
1/5/2555 | 59.7 ล้าน USD |
1/6/2555 | 144.6 ล้าน USD |
1/7/2555 | 72.6 ล้าน USD |
1/9/2555 | 85.3 ล้าน USD |
1/2/2556 | 29.9 ล้าน USD |
1/3/2556 | 181.7 ล้าน USD |
1/7/2556 | 84.6 ล้าน USD |
1/8/2556 | 145.7 ล้าน USD |
1/9/2556 | 148.1 ล้าน USD |
1/12/2556 | 396.3 ล้าน USD |
1/8/2557 | 84 ล้าน USD |
1/9/2560 | 267.6 ล้าน USD |
1/7/2561 | 199.8 ล้าน USD |
1/1/2562 | 19 ล้าน USD |
1/3/2562 | 243.7 ล้าน USD |
1/7/2562 | 1.5 ล้าน USD |
1/8/2562 | 28.4 ล้าน USD |
1/10/2562 | 600,000 USD |
1/11/2562 | 234.64 ล้าน USD |
1/4/2563 | 244.7 ล้าน USD |
1/7/2563 | 157.1 ล้าน USD |
1/8/2563 | 8.2 ล้าน USD |
1/9/2563 | 115.1 ล้าน USD |
1/11/2563 | 72.5 ล้าน USD |
1/12/2563 | 114 ล้าน USD |
1/2/2564 | 296.4 ล้าน USD |
1/3/2564 | 196.7 ล้าน USD |
1/4/2564 | 38.4 ล้าน USD |
1/6/2564 | 193 ล้าน USD |
1/7/2564 | 99.1 ล้าน USD |
1/9/2564 | 130.8 ล้าน USD |
1/10/2564 | 91.3 ล้าน USD |
1/11/2564 | 144.3 ล้าน USD |
1/12/2564 | 39.9 ล้าน USD |
1/1/2565 | 88.5 ล้าน USD |
1/3/2565 | 64.9 ล้าน USD |
1/4/2565 | 28.9 ล้าน USD |
1/7/2565 | 183.9 ล้าน USD |
ดุลการค้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/7/2565 | 183.9 ล้าน USD |
1/4/2565 | 28.9 ล้าน USD |
1/3/2565 | 64.9 ล้าน USD |
1/1/2565 | 88.5 ล้าน USD |
1/12/2564 | 39.9 ล้าน USD |
1/11/2564 | 144.3 ล้าน USD |
1/10/2564 | 91.3 ล้าน USD |
1/9/2564 | 130.8 ล้าน USD |
1/7/2564 | 99.1 ล้าน USD |
1/6/2564 | 193 ล้าน USD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇲🇲 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | 13.598 ล้าน USD | 178.345 ล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇲🇲 ดัชนีการก่อการร้าย | 7.536 Points | 7.977 Points | ประจำปี |
🇲🇲 ทองคำสำรอง | 7.27 Tonnes | 7.27 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇲🇲 นำเข้า | 4.67 ล้านล้าน USD | 4.365 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
🇲🇲 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | -1.08 ล้านล้าน USD | -913.8 ล้าน USD | ประจำปี |
🇲🇲 ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า | 285,792 | 169,509 | ควอร์เตอร์ |
🇲🇲 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | -4 % of GDP | -1.3 % of GDP | ประจำปี |
🇲🇲 ส่งออก | 3.846 ล้านล้าน USD | 4.017 ล้านล้าน USD | ควอร์เตอร์ |
เมียนมาร์เคยค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นหลัก เนื่องจากสภาพการเมืองและโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ดี แต่การเปลี่ยนไปสู่ระบอบประชาธิปไตยมีแนวโน้มที่จะเปิดโอกาสให้เข้าถึงตลาดใหม่ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของเมียนมาร์ สินค้าส่งออกอื่น ๆ รวมถึงผัก ไม้ ปลา เสื้อผ้า ยางพารา และผลไม้ เมียนมาร์นำเข้าสินค้าหลัก ๆ คือ เชื้อเพลิง น้ำมันพืช ยานพาหนะ ผลิตภัณฑ์ยา อุปกรณ์ก่อสร้าง โพลิเมอร์ ยางรถยนต์ และเครื่องจักร คู่ค้าหลักของเมียนมาร์ได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เยอรมนี และฮ่องกง.
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร ดุลการค้า
ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว