ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇲🇲

พม่า ดุลการค้า

ราคา

183.9 ล้าน USD
การเปลี่ยนแปลง +/-
+155 ล้าน USD
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+145.68 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน พม่า คือ 183.9 ล้าน USD ดุลการค้าใน พม่า เพิ่มขึ้นเป็น 183.9 ล้าน USD เมื่อ 1/7/2565 หลังจากที่เป็น 28.9 ล้าน USD เมื่อ 1/4/2565 จาก 1/10/2553 ถึง 1/6/2566 GDP เฉลี่ยใน พม่า คือ -163.99 ล้าน USD มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถึงเมื่อ 1/8/2554 โดยมีมูลค่า 593.3 ล้าน USD ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/7/2558 โดยมีมูลค่า -942.7 ล้าน USD

แหล่งที่มา: Central Statistics Organization, Myanmar

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/7/2565183.9 ล้าน USD
1/4/256528.9 ล้าน USD
1/3/256564.9 ล้าน USD
1/1/256588.5 ล้าน USD
1/12/256439.9 ล้าน USD
1/11/2564144.3 ล้าน USD
1/10/256491.3 ล้าน USD
1/9/2564130.8 ล้าน USD
1/7/256499.1 ล้าน USD
1/6/2564193 ล้าน USD
1
2
3
4
...
5

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇲🇲
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
13.598 ล้าน USD178.345 ล้าน USDควอร์เตอร์
🇲🇲
ดัชนีการก่อการร้าย
7.536 Points7.977 Pointsประจำปี
🇲🇲
ทองคำสำรอง
7.27 Tonnes7.27 Tonnesควอร์เตอร์
🇲🇲
นำเข้า
4.67 ล้านล้าน USD4.365 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์
🇲🇲
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
-1.08 ล้านล้าน USD-913.8 ล้าน USDประจำปี
🇲🇲
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
285,792 169,509 ควอร์เตอร์
🇲🇲
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
-4 % of GDP-1.3 % of GDPประจำปี
🇲🇲
ส่งออก
3.846 ล้านล้าน USD4.017 ล้านล้าน USDควอร์เตอร์

เมียนมาร์เคยค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นหลัก เนื่องจากสภาพการเมืองและโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ดี แต่การเปลี่ยนไปสู่ระบอบประชาธิปไตยมีแนวโน้มที่จะเปิดโอกาสให้เข้าถึงตลาดใหม่ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของเมียนมาร์ สินค้าส่งออกอื่น ๆ รวมถึงผัก ไม้ ปลา เสื้อผ้า ยางพารา และผลไม้ เมียนมาร์นำเข้าสินค้าหลัก ๆ คือ เชื้อเพลิง น้ำมันพืช ยานพาหนะ ผลิตภัณฑ์ยา อุปกรณ์ก่อสร้าง โพลิเมอร์ ยางรถยนต์ และเครื่องจักร คู่ค้าหลักของเมียนมาร์ได้แก่ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เยอรมนี และฮ่องกง.

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว