ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร มาเลเซีย การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ราคา
ค่าสินค้าคงคลังในปัจจุบันของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ใน มาเลเซีย อยู่ที่ 10.609 ล้านล้าน MYR การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังใน มาเลเซีย เพิ่มขึ้นเป็น 10.609 ล้านล้าน MYR เมื่อวันที่ 1/12/2566 หลังจากที่มันอยู่ที่ 4.636 ล้านล้าน MYR เมื่อวันที่ 1/9/2566 ตั้งแต่ 1/3/2548 ถึง 1/3/2567 GDP เฉลี่ยใน มาเลเซีย อยู่ที่ 577.18 ล้าน MYR ค่าสูงสุดตลอดกาลถูกทำได้เมื่อวันที่ 1/6/2564 ด้วย 16.49 ล้านล้าน MYR ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อวันที่ 1/3/2552 ด้วย -10.59 ล้านล้าน MYR
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ·
แม็กซ์
การเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงเหลือ | |
---|---|
1/6/2548 | 2.68 ล้านล้าน MYR |
1/9/2548 | 5.5 ล้านล้าน MYR |
1/3/2549 | 3 ล้านล้าน MYR |
1/6/2549 | 5.95 ล้านล้าน MYR |
1/9/2549 | 1.22 ล้านล้าน MYR |
1/3/2550 | 5.81 ล้านล้าน MYR |
1/6/2550 | 4.29 ล้านล้าน MYR |
1/3/2551 | 663 ล้าน MYR |
1/6/2551 | 63 ล้าน MYR |
1/9/2551 | 672 ล้าน MYR |
1/9/2552 | 2.5 ล้านล้าน MYR |
1/6/2553 | 5.33 ล้านล้าน MYR |
1/9/2553 | 6.48 ล้านล้าน MYR |
1/12/2553 | 208 ล้าน MYR |
1/3/2554 | 3.42 ล้านล้าน MYR |
1/6/2554 | 3.23 ล้านล้าน MYR |
1/9/2554 | 2.63 ล้านล้าน MYR |
1/3/2555 | 2.99 ล้านล้าน MYR |
1/6/2555 | 706 ล้าน MYR |
1/9/2555 | 3.88 ล้านล้าน MYR |
1/3/2556 | 1.4 ล้านล้าน MYR |
1/6/2556 | 3.01 ล้านล้าน MYR |
1/6/2558 | 2.02 ล้านล้าน MYR |
1/3/2559 | 2.52 ล้านล้าน MYR |
1/12/2559 | 2.21 ล้านล้าน MYR |
1/3/2560 | 1.99 ล้านล้าน MYR |
1/12/2560 | 3.24 ล้านล้าน MYR |
1/6/2561 | 172 ล้าน MYR |
1/6/2563 | 10.22 ล้านล้าน MYR |
1/6/2564 | 16.49 ล้านล้าน MYR |
1/9/2564 | 2.95 ล้านล้าน MYR |
1/12/2564 | 3.29 ล้านล้าน MYR |
1/3/2565 | 7.24 ล้านล้าน MYR |
1/6/2565 | 12.04 ล้านล้าน MYR |
1/9/2565 | 3.84 ล้านล้าน MYR |
1/12/2565 | 985 ล้าน MYR |
1/3/2566 | 1.65 ล้านล้าน MYR |
1/6/2566 | 9.1 ล้านล้าน MYR |
1/9/2566 | 4.64 ล้านล้าน MYR |
1/12/2566 | 10.61 ล้านล้าน MYR |
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2566 | 10.609 ล้านล้าน MYR |
1/9/2566 | 4.636 ล้านล้าน MYR |
1/6/2566 | 9.097 ล้านล้าน MYR |
1/3/2566 | 1.649 ล้านล้าน MYR |
1/12/2565 | 985 ล้าน MYR |
1/9/2565 | 3.843 ล้านล้าน MYR |
1/6/2565 | 12.036 ล้านล้าน MYR |
1/3/2565 | 7.241 ล้านล้าน MYR |
1/12/2564 | 3.29 ล้านล้าน MYR |
1/9/2564 | 2.949 ล้านล้าน MYR |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇲🇾 การจดทะเบียนรถยนต์ | 129,678 Units | 130,831 Units | รายเดือน |
🇲🇾 การผลิตซีเมนต์ | 2.592 ล้าน Tonnes | 2.461 ล้าน Tonnes | รายเดือน |
🇲🇾 การผลิตในภาคการผลิต | 4.9 % | 1.3 % | รายเดือน |
🇲🇾 การผลิตรถยนต์ | 61,935 Units | 71,666 Units | รายเดือน |
🇲🇾 การผลิตเหมืองแร่ | 10 % | 4.9 % | รายเดือน |
🇲🇾 การผลิตอุตสาหกรรม | 6.1 % | 2.4 % | รายเดือน |
🇲🇾 การผลิตอุตสาหกรรมเดือนต่อเดือน | -7.6 % | 7.5 % | รายเดือน |
🇲🇾 ดัชนีการจับคู่ | 125.4 points | 125 points | รายเดือน |
🇲🇾 ตัวบ่งชี้ล่วงหน้า | 0.8 % | -0.5 % | รายเดือน |
🇲🇾 ผลิตภัณฑ์ PMI | 49.9 points | 50.2 points | รายเดือน |
🇲🇾 สภาวะธุรกิจ | 94.3 points | 89 points | ควอร์เตอร์ |
ในประเทศมาเลเซีย การเปลี่ยนแปลงของสินค้าคงคลังมักเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญสำหรับการแสดงผลการทำงานโดยรวมของเศรษฐกิจ
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง
การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลัง: การวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาคที่มีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เปรียบเสมือนการมองดูภาพรวมเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับระบบเศรษฐกิจทั้งหมดของประเทศ การศึกษาว่าเหตุใดสินค้าคงคลังถึงมีการเปลี่ยนแปลงและผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่มาตามมาดูเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจไม่ค่อยนึกถึง แต่จริง ๆ แล้วมันมีศักยภาพในการเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการทำนายและวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจมหภาคได้อย่างชัดเจน สินค้าคงคลังหมายถึงสินค้าที่ผลิตขึ้นแล้วแต่ยังไม่ถูกขาย ซึ่งรวมถึงสินค้าสำเร็จรูป วัตถุดิบ และงานระหว่างการผลิต การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังสามารถบ่งบอกถึงความคาดหวังของผู้ผลิตต่อความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต โดยการสงวนสินค้าจะเป็นการสะท้อนถึงการขึ้ดหวังว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งการวิเคาะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้มีความสัมพันธ์กันกับส่วนต่าง ๆ ของระบบเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง ประการที่หนึ่ง การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เมื่อผู้ผลิตเพิ่มการผลิตและเพิ่มสำรองสินค้าคงคลังในระยะเวลาที่เศรษฐกิจยังไม่ได้เติบโตมากนัก แสดงถึงความเชื่อว่ามีความต้องการเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้เรามองเห็นการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมและการจ้างงานในระยะยาว ขณะเดียวกัน หากผู้ผลิตลดการผลิตและลดสินค้าคงคลังลง นั่นอาจบ่งบอกถึงการขาดแคลนความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่าการเล่นลดลง นอกจากการเติบโตทางเศรษฐกิจแล้ว การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถมีผลต่อเสถียรภาพทางการเงิน หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคลดลง อาจนำไปสู่สถานการณ์ที่เรียกว่า 'สินค้าล้นตลาด' ซึ่งย่อมทำให้ผู้ผลิตปรับลดการผลิต เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจัดการและการเก็บสำรองสินค้าคงคลังที่มากเกินไป ในสถานการณ์นี้ เศรษฐกิจอาจเผชิญกับการเติบโตชะลอตัวและการจ้างงานลดลง อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสามารถใช้การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังเป็นหนึ่งในปัจจัยในการวิเคราะห์และตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน หากการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังบ่งบอกถึงเงื่อนไขที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การลดลงของความต้องการ ทางธนาคารกลางอาจพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยหรือนโยบายอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ คุณลักษณะที่เด่นชัดอีกอย่างของการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังคือมันสามารถสะท้อนถึงระดับการแข่งขันในตลาด หากสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเขตภาคการผลิตที่มีการแข่งขันสูงจนเกินไป ผู้ผลิตจะต้องเพิ่มการผลิตเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อกำไรและราคาในตลาดได้ นอกจากนี้ การแข่งขันที่รุนแรงอาจทำให้ผู้ผลิตต้องลดการสำรองสินค้าคงคลังเพื่อลดค่าใช้จ่าย ทำให้มีความเสี่ยงต่อความเพียงพอในการรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นเฉียบพลัน การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังมีผลต่อการนำเข้าและส่งออก การเพิ่มสินค้าคงคลังอาจทำให้มีความต้องการนำเข้าวัตถุดิบมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อดุลการค้าของประเทศ ขณะที่หากสินค้าคงคลังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แสดงว่าผู้ผลิตอาจพยายามลดการนำเข้าเพื่อลดค่าใช้จ่าย นอกจากนั้น การวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังยังสามารถใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนธุรกิจได้ ผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงในความต้องการของตลาดและจัดการทรัพยากรในมืออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ท้ายที่สุด การเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังไม่เพียงแต่เป็นดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญ แต่มันยังมีผลกระทบต่อหลากหลายองค์ประกอบของระบบเศรษฐกิจ การประกอบธุรกิจ และนโยบายแห่งชาติ การศึกษาและการติดตามการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังนี้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น และมีคุณค่ามากสำหรับผู้ที่ต้องการผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ที่ eulerpool เราขอนำเสนอข้อมูลการเปลี่ยนแปลงในสินค้าคงคลังที่มีคุณภาพ มีความแม่นยำ และละเอียด เพื่อให้คุณสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการวิเคราะห์และตัดสินใจต่อธุรกิจและนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าคุณต้องการข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพใหญ่และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ eulerpool คือคำตอบ ข้อมูลที่ทันสมัยและเชื่อถือได้เป็นสิ่งที่เรายืนยันนำเสนอให้แก่คุณ ขอบคุณที่ไว้วางใจให้เรานำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่เป็นมืออาชีพและเชื่อถือได้จาก eulerpool