ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇲🇾

มาเลเซีย การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ

ราคา

17.553 ล้านล้าน MYR
การเปลี่ยนแปลง +/-
+8.346 ล้านล้าน MYR
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
+62.38 %

มูลค่าปัจจุบันของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศใน มาเลเซีย คือ 17.553 ล้านล้าน MYR การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศใน มาเลเซีย เพิ่มขึ้นเป็น 17.553 ล้านล้าน MYR ในวันที่ 1/12/2566 หลังจากที่มันอยู่ที่ 9.207 ล้านล้าน MYR เมื่อวันที่ 1/9/2566 ตั้งแต่ 1/3/2548 ถึง 1/3/2567 GDP เฉลี่ยใน มาเลเซีย คือ 8.29 ล้านล้าน MYR มูลค่าสูงสุดตลอดกาลเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1/3/2565 ด้วย 27.81 ล้านล้าน MYR ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อวันที่ 1/12/2552 ด้วย -1.98 ล้านล้าน MYR

แหล่งที่มา: Department of Statistics, Malaysia

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ

  • แม็กซ์

การลงทุนตรงจากต่างประเทศ

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/12/256617.553 ล้านล้าน MYR
1/9/25669.207 ล้านล้าน MYR
1/6/25662.488 ล้านล้าน MYR
1/3/25669.155 ล้านล้าน MYR
1/12/256520.245 ล้านล้าน MYR
1/9/25659.589 ล้านล้าน MYR
1/6/256517.777 ล้านล้าน MYR
1/3/256527.807 ล้านล้าน MYR
1/12/256421.52 ล้านล้าน MYR
1/9/25648.345 ล้านล้าน MYR
1
2
3
4
5
...
8

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇲🇾
กระแสเงินทุน
-18.735 ล้านล้าน MYR-20.26 ล้านล้าน MYRควอร์เตอร์
🇲🇾
การผลิตน้ำมันดิบ
498 BBL/D/1K490 BBL/D/1Kรายเดือน
🇲🇾
การส่งออกเทียบปีต่อปี
7.3 %9 %รายเดือน
🇲🇾
เงื่อนไขการซื้อขาย
114 points115.2 pointsรายเดือน
🇲🇾
ดัชนีการก่อการร้าย
0.192 Points1.357 Pointsประจำปี
🇲🇾
ทองคำสำรอง
38.88 Tonnes38.88 Tonnesควอร์เตอร์
🇲🇾
นำเข้า
118.086 ล้านล้าน MYR106.954 ล้านล้าน MYRรายเดือน
🇲🇾
นำเข้า YoY
13.8 %15.5 %รายเดือน
🇲🇾
ยอดการค้า
10.136 ล้านล้าน MYR7.742 ล้านล้าน MYRรายเดือน
🇲🇾
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
16.195 ล้านล้าน MYR913 ล้าน MYRควอร์เตอร์
🇲🇾
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
2.323 ล้าน 1.706 ล้าน รายเดือน
🇲🇾
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
2.7 % of GDP3.1 % of GDPประจำปี
🇲🇾
รายได้จากการท่องเที่ยว
71.309 ล้านล้าน MYR28.228 ล้านล้าน MYRประจำปี
🇲🇾
ส่งออก
128.223 ล้านล้าน MYR114.695 ล้านล้าน MYRรายเดือน
🇲🇾
หนี้สินต่างประเทศ
1.243 ชีวภาพ. MYR1.252 ชีวภาพ. MYRควอร์เตอร์

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment หรือ FDI) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญในด้านเศรษฐกิจมหภาคที่มีบทบาทสำคัญต่อนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ในปัจจุบัน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีความหมายถึงการลงทุนโดยหน่วยงานหรือบุคคลจากประเทศหนึ่งเข้าไปลงทุนในกิจการของประเทศอื่น โดยมีการถือหุ้นหรือสิทธิ์ในการบริหารจัดการกิจการนั้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งต่างกับการลงทุนทางการเงินที่เน้นการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อหากำไรในระยะสั้น ปัจจัยที่ทำให้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมีความสำคัญมากในระบบเศรษฐกิจมหภาค ประเทศที่ได้รับการลงทุนจากต่างประเทศมักจะได้รับประโยชน์ทั้งในด้านการเพิ่มพูนทุนทรัพย์สิน การสร้างงานใหม่ การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการเพิ่มผลผลิต ผู้ลงทุนต่างประเทศมักจะมองหาสิ่งที่พวกเขาสามารถได้รับจากการลงทุน เช่น ผลตอบแทนที่สูงขึ้น การกระจายความเสี่ยง การเข้าถึงแหล่งทรัพยากร หรือการขยายตลาดใหม่ ซึ่งทุกปัจจัยเหล่านี้มีผลกับการตัดสินใจทางเศรษฐกิจในระดับมหภาค ในมุมมองของประเทศที่รับการลงทุน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศนั้นสามารถกระตุ้นให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ นักวิจัยและนักเศรษฐศาสตร์หลายคนชี้ว่า FDI สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ ผ่านการนำความรู้และเทคโนโลยีใหม่เข้ามาใช้ นอกจากนั้น การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศยังสามารถช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน โรงงาน และระบบสื่อสาร ซึ่งจะช่วยให้ภาคส่วนต่าง ๆ ของเศรษฐกิจสามารถขยับขยายและพัฒนาได้เร็วขึ้น อีกประเด็นที่สำคัญคือผลกระทบต่อการว่างงาน การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมักจะนำไปสู่การสร้างงานใหม่ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน เมื่อมีการสร้างงานใหม่ขึ้น ไม่เพียงแต่จะช่วยลดอัตราการว่างงาน แต่ยังช่วยให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น และก่อให้เกิดการใช้จ่ายภายในประเทศที่มากขึ้น การใช้จ่ายนี้เองจะนำไปสู่การหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพและสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอันยั่งยืน สำหรับประเทศไทย การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศถือเป็นแหล่งทุนที่สำคัญที่ช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตและพัฒนาต่อไปได้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีนโยบายที่เปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาอย่างรวดเร็ว รัฐบาลไทยได้มีการออกกฎหมายและนโยบายที่ส่งเสริมและสร้างความเอื้อต่อการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลดภาษี การให้สิทธิเข้าถึงทรัพยากรอย่างเป็นธรรม และการส่งเสริมการลงทุนในคลัสเตอร์ที่มีศักยภาพสูง นอกจากนี้ ยังมีการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zones หรือ SEZ) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการให้สิทธิพิเศษในการลงทุน เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ เขตเศรษฐกิจพิเศษเหล่านี้มักจะมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี และสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมให้บริการ การลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจในการเข้ามาลงทุนและสามารถลดความเสี่ยงในระดับหนึ่ง เมื่อพูดถึงปัจจัยที่ดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในประเทศไทย มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา ความเป็นกลางทางการเมือง ศักยภาพทางเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐานที่เติบโต และการเปิดเสรีทางการค้าเป็นเพียงบางส่วนของปัจจัยที่ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นจุดหมายการลงทุนที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม การมีนโยบายที่ชัดเจนและความโปร่งใสในการบริหารจัดการเป็นสิ่งที่จะไม่สามารถละเลยได้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในประเทศไทยไม่ได้มีเพียงแต่ผลบวกเท่านั้น ยังมีผลกระทบบางประการที่ต้องระมัดระวัง เช่น การเข้าไปควบคุมกิจการที่อาจจะผูกขาดตลาด หรือการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเกินกว่าความจำเป็น รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงจำเป็นที่จะต้องมีการควบคุมและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การลงทุนเหล่านี้มีประโยชน์สูงสุดแก่เศรษฐกิจและประชาชนในประเทศ นอกจากนี้ การพัฒนาเจ้าหน้าที่และบุคลากรที่มีความสามารถเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญในการรับมือกับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ การมีบุคลากรที่มีทักษะและความสามารถสูงจะทำให้ประเทศมีโอกาสในการเจรจาและบริหารจัดการการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีการพัฒนาทางทักษะที่คงอยู่และลดการพึ่งพาทรัพยากรจากต่างประเทศ สุดท้ายนี้ การมีข้อมูลครบถ้วนและเชื่อถือได้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการพิจารณาการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เว็บไซต์ eulerpool ของเราเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ในการนำเสนอข้อมูลด้านเศรษฐกิจมหภาค ทีมงานของเรามุ่งมั่นในการให้ข้อมูลที่ครบถ้วน และถูกต้องที่สุดเพื่อช่วยให้นักลงทุนและผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างง่ายดาย การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเป็นหนึ่งในเครื่องหมายที่จะบอกถึงสุขภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นการทำความเข้าใจและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อให้เราสามารถอยู่รอดและเติบโตในโลกเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว