ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร มาเลเซีย การใช้จ่ายของรัฐบาล
ราคา
ในปัจจุบันค่าของการใช้จ่ายของรัฐบาลในมาเลเซียคือ64.524 ล้านล้านMYR การใช้จ่ายของรัฐบาลในมาเลเซียเพิ่มขึ้นเป็น64.524 ล้านล้านMYRเมื่อ1/12/2566หลังจากที่มันคือ49.921 ล้านล้านMYRเมื่อ1/9/2566 จาก1/3/2548ถึง1/3/2567 GDP เฉลี่ยในมาเลเซียคือ33.88 ล้านล้านMYR มูลค่าสูงสุดที่เคยอยู่ในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นเมื่อ1/12/2566ที่มีมูลค่า64.52 ล้านล้านMYR ในขณะที่ค่าต่ำสุดเคยถูกบันทึกไว้เมื่อ1/3/2548ที่มีมูลค่า12.42 ล้านล้านMYR
การใช้จ่ายของรัฐบาล ·
แม็กซ์
รัฐบาลใช้จ่าย | |
---|---|
1/3/2548 | 12.42 ล้านล้าน MYR |
1/6/2548 | 13.37 ล้านล้าน MYR |
1/9/2548 | 14.92 ล้านล้าน MYR |
1/12/2548 | 21.66 ล้านล้าน MYR |
1/3/2549 | 12.63 ล้านล้าน MYR |
1/6/2549 | 14.04 ล้านล้าน MYR |
1/9/2549 | 16.37 ล้านล้าน MYR |
1/12/2549 | 22.76 ล้านล้าน MYR |
1/3/2550 | 13.55 ล้านล้าน MYR |
1/6/2550 | 15.51 ล้านล้าน MYR |
1/9/2550 | 17.38 ล้านล้าน MYR |
1/12/2550 | 23.71 ล้านล้าน MYR |
1/3/2551 | 14.91 ล้านล้าน MYR |
1/6/2551 | 16.33 ล้านล้าน MYR |
1/9/2551 | 17.98 ล้านล้าน MYR |
1/12/2551 | 25.75 ล้านล้าน MYR |
1/3/2552 | 15.41 ล้านล้าน MYR |
1/6/2552 | 17.02 ล้านล้าน MYR |
1/9/2552 | 19.85 ล้านล้าน MYR |
1/12/2552 | 26.4 ล้านล้าน MYR |
1/3/2553 | 21.66 ล้านล้าน MYR |
1/6/2553 | 23.77 ล้านล้าน MYR |
1/9/2553 | 23.45 ล้านล้าน MYR |
1/12/2553 | 34.47 ล้านล้าน MYR |
1/3/2554 | 23.59 ล้านล้าน MYR |
1/6/2554 | 24.74 ล้านล้าน MYR |
1/9/2554 | 27.95 ล้านล้าน MYR |
1/12/2554 | 41.71 ล้านล้าน MYR |
1/3/2555 | 26.07 ล้านล้าน MYR |
1/6/2555 | 27.5 ล้านล้าน MYR |
1/9/2555 | 28.8 ล้านล้าน MYR |
1/12/2555 | 42.02 ล้านล้าน MYR |
1/3/2556 | 26.11 ล้านล้าน MYR |
1/6/2556 | 30.48 ล้านล้าน MYR |
1/9/2556 | 30.71 ล้านล้าน MYR |
1/12/2556 | 44.31 ล้านล้าน MYR |
1/3/2557 | 29.24 ล้านล้าน MYR |
1/6/2557 | 30.44 ล้านล้าน MYR |
1/9/2557 | 32.27 ล้านล้าน MYR |
1/12/2557 | 45.41 ล้านล้าน MYR |
1/3/2558 | 32.73 ล้านล้าน MYR |
1/6/2558 | 34.97 ล้านล้าน MYR |
1/9/2558 | 35.91 ล้านล้าน MYR |
1/12/2558 | 50.41 ล้านล้าน MYR |
1/3/2559 | 33.64 ล้านล้าน MYR |
1/6/2559 | 36.92 ล้านล้าน MYR |
1/9/2559 | 36.72 ล้านล้าน MYR |
1/12/2559 | 48.37 ล้านล้าน MYR |
1/3/2560 | 36.25 ล้านล้าน MYR |
1/6/2560 | 38.21 ล้านล้าน MYR |
1/9/2560 | 38.26 ล้านล้าน MYR |
1/12/2560 | 51.74 ล้านล้าน MYR |
1/3/2561 | 36.4 ล้านล้าน MYR |
1/6/2561 | 39.45 ล้านล้าน MYR |
1/9/2561 | 40.27 ล้านล้าน MYR |
1/12/2561 | 53.92 ล้านล้าน MYR |
1/3/2562 | 38.56 ล้านล้าน MYR |
1/6/2562 | 39.46 ล้านล้าน MYR |
1/9/2562 | 40.41 ล้านล้าน MYR |
1/12/2562 | 54.23 ล้านล้าน MYR |
1/3/2563 | 40.62 ล้านล้าน MYR |
1/6/2563 | 39.71 ล้านล้าน MYR |
1/9/2563 | 43.59 ล้านล้าน MYR |
1/12/2563 | 55.8 ล้านล้าน MYR |
1/3/2564 | 43.16 ล้านล้าน MYR |
1/6/2564 | 43.93 ล้านล้าน MYR |
1/9/2564 | 44.36 ล้านล้าน MYR |
1/12/2564 | 58.77 ล้านล้าน MYR |
1/3/2565 | 46.27 ล้านล้าน MYR |
1/6/2565 | 45.27 ล้านล้าน MYR |
1/9/2565 | 47.39 ล้านล้าน MYR |
1/12/2565 | 60.99 ล้านล้าน MYR |
1/3/2566 | 45.36 ล้านล้าน MYR |
1/6/2566 | 46.75 ล้านล้าน MYR |
1/9/2566 | 49.92 ล้านล้าน MYR |
1/12/2566 | 64.52 ล้านล้าน MYR |
การใช้จ่ายของรัฐบาล ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2566 | 64.524 ล้านล้าน MYR |
1/9/2566 | 49.921 ล้านล้าน MYR |
1/6/2566 | 46.75 ล้านล้าน MYR |
1/3/2566 | 45.36 ล้านล้าน MYR |
1/12/2565 | 60.991 ล้านล้าน MYR |
1/9/2565 | 47.387 ล้านล้าน MYR |
1/6/2565 | 45.271 ล้านล้าน MYR |
1/3/2565 | 46.274 ล้านล้าน MYR |
1/12/2564 | 58.766 ล้านล้าน MYR |
1/9/2564 | 44.363 ล้านล้าน MYR |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การใช้จ่ายของรัฐบาล
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇲🇾 การใช้จ่ายทางทหาร | 3.899 ล้านล้าน USD | 3.674 ล้านล้าน USD | ประจำปี |
🇲🇾 งบประมาณของรัฐ | -5 % of GDP | -5.6 % of GDP | ประจำปี |
🇲🇾 ดัชนีการทุจริต | 50 Points | 47 Points | ประจำปี |
🇲🇾 มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล | -9.073 ล้านล้าน MYR | 8.135 ล้านล้าน MYR | ควอร์เตอร์ |
🇲🇾 รัฐบาลใช้จ่าย | 97.735 ล้านล้าน MYR | 69.72 ล้านล้าน MYR | ควอร์เตอร์ |
🇲🇾 รายได้ของรัฐ | 88.662 ล้านล้าน MYR | 77.856 ล้านล้าน MYR | ควอร์เตอร์ |
🇲🇾 หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ | 61.1 % of GDP | 63.4 % of GDP | ประจำปี |
🇲🇾 อันดับคอร์รัปชั่น | 57 | 61 | ประจำปี |
การใช้จ่ายของรัฐบาลหมายถึงการใช้จ่ายของภาครัฐในการซื้อสินค้าบริการและเป็นส่วนสำคัญของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) นโยบายการใช้จ่ายของรัฐบาลเช่น การกำหนดเป้าหมายงบประมาณ การปรับภาษี การเพิ่มการใช้จ่ายของรัฐ และงานสาธารณะ เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากในการส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇼คูเวต
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร การใช้จ่ายของรัฐบาล
การใช้จ่ายของรัฐบาล: ภาพรวมทางเศรษฐศาสตร์มหภาค เว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลเชิงลึกทางเศรษฐศาสตร์มหภาคที่เตรียมความรู้และข้อมูลการวิเคราะห์ที่แม่นยำสำหรับผู้เยี่ยมชมทุกระดับ ในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจที่ซับซ้อน สิ่งที่สำคัญมากคือการมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้จ่ายของรัฐบาล ที่ผ่านมา การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นหนึ่งในกลไกที่สำคัญที่สุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจและควบคุมสภาวะเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพ การใช้จ่ายของรัฐบาล หมายถึง เงินที่รัฐบาลทำการใช้ในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างสาธารณูปโภค การสนับสนุนสาธารณสุข การศึกษา การวิจัยและพัฒนา รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลังหรือการใช้เงินทุนสำรอง หนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการใช้จ่ายของรัฐบาลคือรายได้ของรัฐบาล ซึ่งหลักๆ มาจากการเก็บภาษี การขายสินทรัพย์รัฐบาล และการกู้ยืมเงิน เมื่อรัฐบาลมีรายได้มาก รัฐบาลสามารถใช้จ่ายมากขึ้น เช่นกัน เมื่อมีสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ การกู้ยืมเงินก็เป็นวิธีหนึ่งที่รัฐบาลใช้เพื่อกระตุ้นการลงทุนและการใช้จ่ายในภาคส่วนต่างๆ ในภาพรวมทางเศรษฐศาสตร์มหภาค การใช้จ่ายของรัฐบาลมีผลกระทบที่กว้างขวางและซับซ้อนในหลายด้าน ด้านหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงในประสิทธิภาพการผลิต (productivity) ของประเทศ การใช้จ่ายในโครงการโครงสร้างพื้นฐานเช่น ถนน ทางด่วน สะพาน หรือสนามบิน สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าและลดต้นทุน ทำให้เกิดการเจริญเติบโตในระยะยาว นอกจากนี้ การใช้จ่ายในด้านการศึกษาและการฝึกอบรมยังเป็นการลงทุนที่ยั่งยืนในทุนมนุษย์ ทำให้ประชากรมีความสามารถมากขึ้น ซึ่งมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานและการผลิตของภาคแรงงานในอนาคต การเพิ่มการลงทุนในด้านสาธารณสุขก็จะเป็นการลดต้นทุนทางสังคมและเศรษฐกิจในระยะยาว เนื่องจากผลสุขภาพของประชากรดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายที่มากเกินไปยังทำให้เกิดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้เช่นเดียวกัน หากรัฐบาลใช้จ่ายเกินกว่าปริมาณที่ควรจะเป็น อาจทำให้เกิดการขาดดุลงบประมาณ (budget deficits) ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและระดับหนี้สาธารณะ อีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลคือ การใช้จ่ายของรัฐบาลยังส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ เมื่อรัฐบาลใช้จ่ายมากขึ้น ความต้องการสินค้าหรือบริการต่างๆ จะเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาอาจปรับตัวสูงขึ้น มีผลทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นได้ การควบคุมและจัดการการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจกับการควบคุมเงินเฟ้อ นโยบายการคลัง (fiscal policy) เป็นเครื่องมือหนึ่งที่รัฐบาลใช้ในการควบคุมการใช้จ่าย การบริหารนโยบายการคลังที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนได้ รัฐบาลสามารถเพิ่มหรือลดภาษี ปรับเปลี่ยนระดับของการใช้จ่ายในการลงทุนในโครงการต่างๆ เพื่อปรับปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจตามความจำเป็นในสถานการณ์ที่ต่างกัน องค์กรทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) หรือ ธนาคารโลก (World Bank) มักมีคำแนะนำในด้านการใช้จ่ายของรัฐบาลและนโยบายการคลัง เพื่อให้ประเทศต่างๆ มีการบริหารการเงินที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในยุคปัจจุบัน การใช้จ่ายของรัฐบาลไม่ได้มาแค่ในรูปแบบของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานหรือการให้บริการสาธารณะเพียงอย่างเดียว การวิจัยและพัฒนาในด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ และการสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อการนวัตกรรมยังเป็นสิ่งที่รัฐบาลมองเห็นความสำคัญเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต นอกจากนี้ ความตื่นตัวต่อสิ่งแวดล้อมยังเป็นเรื่องที่รัฐบาลหลายประเทศให้ความสำคัญ การลงทุนในโครงการพลังงานสะอาดหรือการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว (green economy) เป็นแนวทางหนึ่งที่รัฐบาลหลายประเทศสนใจทำ แม้ว่าการใช้จ่ายของรัฐบาลจะมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การมีการใช้จ่ายอย่างเป็นระบบและมียุทธศาสตร์เป็นสิ่งที่จำเป็น ถ้ารัฐบาลใช้จ่ายเงินไม่ดีพอ การเงินของประเทศอาจเสี่ยงต่อการเกิดวิกฤติ การศึกษาและความเข้าใจในเชิงลึกเกี่ยวกับปัจจัยและผลกระทบของการใช้จ่ายของรัฐบาลจะทำให้สามารถวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในสรุป การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารเศรษฐกิจมหภาค มีผลกระทบทั้งในด้านการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพการผลิต ระดับชีวิตของประชาชน ตลอดจนความคุมค่าของเงินเฟ้อ การมีข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเป็นสิ่งจำเป็นในการวิเคราะห์และวางแผน ซึ่งทางเว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้คุณมีความรู้และเครื่องมือในการประเมินและติดตามการใช้จ่ายของรัฐบาลอย่างมืออาชีพ