ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇲🇾

มาเลเซีย ดุลการค้า

ราคา

7.742 ล้านล้าน MYR
การเปลี่ยนแปลง +/-
-4.978 ล้านล้าน MYR
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-48.65 %

มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน มาเลเซีย คือ 7.742 ล้านล้าน MYR ดุลการค้าใน มาเลเซีย ลดลงไปที่ 7.742 ล้านล้าน MYR ในวันที่ 1/4/2567 หลังจากที่เป็น 12.719 ล้านล้าน MYR ในวันที่ 1/3/2567 ตั้งแต่ 1/1/2513 ถึง 1/5/2567 ค่าเฉลี่ย GDP ใน มาเลเซีย คือ 4.75 ล้านล้าน MYR จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 1/9/2565 ด้วยค่า 31.84 ล้านล้าน MYR ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่ 1/4/2563 ด้วยค่า -4.46 ล้านล้าน MYR

แหล่งที่มา: Department of Statistics, Malaysia

ดุลการค้า

  • แม็กซ์

ยอดการค้า

ดุลการค้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/4/25677.742 ล้านล้าน MYR
1/3/256712.719 ล้านล้าน MYR
1/2/256711.241 ล้านล้าน MYR
1/1/256710.173 ล้านล้าน MYR
1/12/256611.749 ล้านล้าน MYR
1/11/256612.234 ล้านล้าน MYR
1/10/256612.904 ล้านล้าน MYR
1/9/256624.374 ล้านล้าน MYR
1/8/256617.18 ล้านล้าน MYR
1/7/256617.355 ล้านล้าน MYR
1
2
3
4
5
...
58

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇲🇾
กระแสเงินทุน
-18.735 ล้านล้าน MYR-20.26 ล้านล้าน MYRควอร์เตอร์
🇲🇾
การผลิตน้ำมันดิบ
498 BBL/D/1K490 BBL/D/1Kรายเดือน
🇲🇾
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
5.454 ล้านล้าน MYR17.553 ล้านล้าน MYRควอร์เตอร์
🇲🇾
การส่งออกเทียบปีต่อปี
7.3 %9 %รายเดือน
🇲🇾
เงื่อนไขการซื้อขาย
114 points115.2 pointsรายเดือน
🇲🇾
ดัชนีการก่อการร้าย
0.192 Points1.357 Pointsประจำปี
🇲🇾
ทองคำสำรอง
38.88 Tonnes38.88 Tonnesควอร์เตอร์
🇲🇾
นำเข้า
118.086 ล้านล้าน MYR106.954 ล้านล้าน MYRรายเดือน
🇲🇾
นำเข้า YoY
13.8 %15.5 %รายเดือน
🇲🇾
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
16.195 ล้านล้าน MYR913 ล้าน MYRควอร์เตอร์
🇲🇾
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
2.323 ล้าน 1.706 ล้าน รายเดือน
🇲🇾
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
2.7 % of GDP3.1 % of GDPประจำปี
🇲🇾
รายได้จากการท่องเที่ยว
71.309 ล้านล้าน MYR28.228 ล้านล้าน MYRประจำปี
🇲🇾
ส่งออก
128.223 ล้านล้าน MYR114.695 ล้านล้าน MYRรายเดือน
🇲🇾
หนี้สินต่างประเทศ
1.243 ชีวภาพ. MYR1.252 ชีวภาพ. MYRควอร์เตอร์

การค้าระหว่างประเทศมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจของมาเลเซีย ตั้งแต่ปี 1998 มาเลเซียได้รายงานยอดเกินดุลการค้าอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และไฟฟ้าในปี 2015 ยอดเกินดุลการค้าสูงสุดเกิดกับฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ยอดขาดดุลการค้าสูงสุดเกิดกับจีนและไต้หวัน

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร ดุลการค้า

ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว