Terminal Access

ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

Bloomberg Fair Value
20M Securities
50Y History
10Y Estimates
8.000+ News Daily
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇲🇾

มาเลเซีย คนว่างงาน

ราคา

533,800
การเปลี่ยนแปลง +/-
-10,500
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-1.95 %

ค่าปัจจุบันของคนว่างงานในมาเลเซียคือ533,800 คนว่างงานในมาเลเซียลดลงเหลือ533,800ในวันที่1/1/2568 หลังจากที่เคยอยู่ที่544,300ในวันที่1/12/2567 จากวันที่1/12/2528ถึง1/1/2568 ค่าเฉลี่ยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ในมาเลเซียคือ496,554.29 ค่าสูงสุดตลอดกาลถูกบันทึกในวันที่1/5/2563ด้วย826,100 ในขณะที่ค่าต่ำสุดถูกบันทึกในวันที่1/12/2539ด้วย210,500

แหล่งที่มา: Department of Statistics, Malaysia

คนว่างงาน

  • แม็กซ์

ผู้ที่ไม่มีงานทำ

คนว่างงาน ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/1/2568533,800
1/12/2567544,300
1/11/2567546,700
1/10/2567551,400
1/9/2567555,300
1/8/2567568,500
1/7/2567563,700
1/6/2567565,300
1/5/2567566,100
1/4/2567566,400
1
2
3
4
5
...
21

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ คนว่างงาน

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇲🇾
ขั้นต่ำเงินเดือน
1,700 MYR/Month1,500 MYR/Monthประจำปี
🇲🇾
ค่าจ้าง
2,900 MYR/Month3,212 MYR/Monthประจำปี
🇲🇾
ค่าจ้างในการผลิต
3,540 MYR/Month3,706 MYR/Monthรายเดือน
🇲🇾
ตำแหน่งงานที่เปิดรับ
396,037 381,161 ควอร์เตอร์
🇲🇾
ประชากร
34.1 ล้าน 33.4 ล้าน ประจำปี
🇲🇾
ผู้มีงานทำ
16.68 ล้าน 16.78 ล้าน รายเดือน
🇲🇾
อัตราการเข้าซื้อ
70.6 %70.6 %รายเดือน
🇲🇾
อัตราการว่างงาน
3.1 %3.1 %รายเดือน
🇲🇾
อายุเกษียณของผู้หญิง
60 Years60 Yearsประจำปี
🇲🇾
อายุเกษียณผู้ชาย
60 Years60 Yearsประจำปี

ในมาเลเซีย ผู้ว่างงานคือบุคคลที่ไม่มีงานทำและกำลังหางานอย่างจริงจัง

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย

คืออะไร คนว่างงาน

เว็บไซต์ Eulerpool: หนึ่งในแหล่งข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่น่าเชื่อถือที่สุด วันนี้เราขอนำเสนอหัวข้อที่สำคัญมากในหมวดหมู่เศรษฐกิจมหภาค "ผู้ว่างงาน" ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญในการวิเคราะห์และทำความเข้าใจเสถียรภาพและการตอบสนองของเศรษฐกิจของประเทศ ในบทความนี้เราจะเจาะลึกความหมายของผู้ว่างงาน ปัจจัยที่ส่งผลต่อการว่างงาน และผลกระทบที่ตามมากับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย ผู้ว่างงานหรือ Unemployed Persons หมายถึงบุคคลที่อยู่ในช่วงวัยทำงานและกำลังมองหางานแต่ยังไม่ได้รับการจ้างงาน ในบริบทของเศรษฐกิจมหภาค การวิเคราะห์จำนวนผู้ว่างงานมีความสำคัญมากเพราะมันสามารถสะท้อนถึงสุขภาพของเศรษฐกิจได้ หนึ่งในปัจจัยที่สามารถส่งผลต่อตัวเลขผู้ว่างงานก็คือการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Economic Growth) เมื่อเศรษฐกิจเติบโต องค์กรและธุรกิจต่างๆมีแนวโน้มที่จะขยายตัวและสร้างงานใหม่ๆ แต่ในทางกลับกัน ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวหรือถดถอย อัตราการว่างงานมักจะเพิ่มขึ้นเพราะธุรกิจมีแนวโน้มที่จะลดจำนวนพนักงาน นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเชิงโครงสร้าง (Structural Factors) และปัจจัยเชิงฤดูกาล (Seasonal Factors) ที่สามารถส่งผลต่อตัวเลขผู้ว่างงาน ความไม่สมดุลระหว่างทักษะที่มีในตลาดแรงงานกับความต้องการทักษะของนายจ้างก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่สำคัญ อาทิเช่น ในกรณีที่เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามามีบทบาทในธุรกิจ คนที่ไม่มีทักษะที่ตรงกับเทคโนโลยีใหม่อาจจะมีโอกาสถูกเลิกจ้างและตกงานได้ อีกทั้ง ปัจจัยเชิงฤดูกาล เช่น งานตามฤดูกาลในภาคการเกษตรหรือการท่องเที่ยวมักส่งผลกระทบต่อตัวเลขผู้ว่างงานทั้งในทางบวกและทางลบ เมื่อพูดถึงผู้ว่างงานในประเทศไทย ตัวเลขที่ได้จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (National Statistical Office) และข้อมูลจากกระทรวงแรงงานแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มและบริบทที่ควรคำนึงถึง อาทิเช่น แนวโน้มของการว่างงานในกลุ่มเยาวชน (Youth Unemployment) การว่างงานในกลุ่มวัยกลางคนหรือกลุ่มที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป การว่างงานในภาคเกษตรกรรม และอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถสะท้อนถึงปัญหาที่หลากหลายและต้องการการจัดการที่แตกต่างกันไป การว่างงานมีผลกระทบที่สำคัญต่อเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ในระยะสั้น การว่างงานที่เพิ่มขึ้นสามารถนำไปสู่การลดลงของกำลังซื้อ ซึ่งในที่สุดอาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดสินค้าและบริการ ผู้คนที่ไม่มีงานทำก็จะไม่มีกำไรหรือรายได้ที่จะใช้จ่าย การบริโภคจึงลดลง ส่งผลให้ธุรกิจลดการผลิตและบางทีก็ต้องลดจำนวนพนักงานอีก เราเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “วงจรลบ” (Negative Feedback Loop) ที่ยากจะฝ่าฟันในภาวะเศรษฐกิจวิกฤต ในระยะยาวการว่างงานยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและโอกาสทางเศรษฐกิจของประชาชน บุคคลที่ว่างงานเป็นเวลานานอาจเสียโอกาสในการพัฒนาทักษะใหม่หรือไม่สามารถกลับเข้าสู่ตลาดแรงงานที่ต้องการทักษะใหม่ๆ ได้ ทำให้เกิดการสูญเสียทุนมนุษย์ (Human Capital) ของประเทศ ภาครัฐและองค์กรต่างๆ มีบทบาทสำคัญในการจัดการปัญหาการว่างงาน รัฐบาลสามารถใช้วิธีการที่หลากหลาย เช่น นโยบายการเงิน (Monetary Policy) และนโยบายการคลัง (Fiscal Policy) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มโอกาสการจ้างงาน การให้การฝึกอบรมและการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานก็เป็นอีกทางหนึ่งที่สามารถลดการว่างงานได้ นอกจากนี้ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนและธุรกิจก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน สรุปแล้ว การว่างงานเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อนและต้องการการจัดการในหลายมิติ ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และประชาชนทั่วไปจำเป็นต้องทำงานร่วมกันเพื่อสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืน ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคเกี่ยวกับผู้ว่างงานที่มีคุณภาพและความน่าเชื่อถือจะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและการตัดสินใจที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนนโยบายของรัฐบาล หรือการตัดสินใจในการลงทุนของภาคเอกชน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมและการวิเคราะห์ที่มีรายละเอียดลึกขึ้น ผู้สนใจสามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ Eulerpool ของเรา ที่จะทำให้คุณได้รับข้อมูลที่มีคุณภาพและสามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ