ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ลักเซมเบิร์ก กระแสเงินทุน
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินทุนในลักเซมเบิร์กคือ1.357 ล้านล้านEUR กระแสเงินทุนในลักเซมเบิร์กลดลงเหลือ1.357 ล้านล้านEURเมื่อวันที่1/12/2566 หลังจากที่เคยเป็น1.713 ล้านล้านEURเมื่อวันที่1/9/2566 ตั้งแต่1/3/2545ถึง1/3/2567 GDP เฉลี่ยในลักเซมเบิร์กอยู่ที่802.01 ล้านEUR โดยทำสถิติสูงสุดเมื่อ1/6/2564กับ4.54 ล้านล้านEUR ขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกเมื่อ1/12/2562กับ-1.91 ล้านล้านEUR
กระแสเงินทุน ·
แม็กซ์
กระแสเงินทุน | |
---|---|
1/3/2545 | 1.07 ล้านล้าน EUR |
1/6/2545 | 903.04 ล้าน EUR |
1/3/2546 | 189.2 ล้าน EUR |
1/9/2546 | 855.19 ล้าน EUR |
1/12/2546 | 801.44 ล้าน EUR |
1/3/2547 | 893.36 ล้าน EUR |
1/9/2547 | 377.75 ล้าน EUR |
1/12/2547 | 773.58 ล้าน EUR |
1/3/2548 | 2.84 ล้านล้าน EUR |
1/9/2548 | 883.74 ล้าน EUR |
1/12/2548 | 293.93 ล้าน EUR |
1/3/2549 | 565.23 ล้าน EUR |
1/6/2549 | 66.73 ล้าน EUR |
1/9/2549 | 927.79 ล้าน EUR |
1/12/2549 | 345.54 ล้าน EUR |
1/3/2550 | 427.5 ล้าน EUR |
1/6/2550 | 446.44 ล้าน EUR |
1/9/2550 | 771.18 ล้าน EUR |
1/12/2550 | 508.72 ล้าน EUR |
1/3/2551 | 808.17 ล้าน EUR |
1/6/2551 | 395.81 ล้าน EUR |
1/9/2551 | 646.2 ล้าน EUR |
1/12/2551 | 157.05 ล้าน EUR |
1/3/2552 | 860.71 ล้าน EUR |
1/6/2552 | 948.82 ล้าน EUR |
1/9/2552 | 538.98 ล้าน EUR |
1/3/2553 | 896.07 ล้าน EUR |
1/6/2553 | 183.03 ล้าน EUR |
1/9/2553 | 839.69 ล้าน EUR |
1/12/2553 | 277.49 ล้าน EUR |
1/3/2554 | 670.36 ล้าน EUR |
1/6/2554 | 459.39 ล้าน EUR |
1/9/2554 | 620.22 ล้าน EUR |
1/12/2554 | 718.2 ล้าน EUR |
1/3/2555 | 1.98 ล้านล้าน EUR |
1/9/2555 | 2.09 ล้านล้าน EUR |
1/9/2556 | 1.27 ล้านล้าน EUR |
1/12/2556 | 1.92 ล้านล้าน EUR |
1/6/2557 | 761.82 ล้าน EUR |
1/9/2557 | 1.57 ล้านล้าน EUR |
1/6/2558 | 658.88 ล้าน EUR |
1/9/2558 | 2.73 ล้านล้าน EUR |
1/6/2559 | 144.83 ล้าน EUR |
1/9/2559 | 930 ล้าน EUR |
1/12/2559 | 1.33 ล้านล้าน EUR |
1/3/2560 | 1.62 ล้านล้าน EUR |
1/6/2560 | 458.96 ล้าน EUR |
1/12/2560 | 816.09 ล้าน EUR |
1/3/2561 | 1.05 ล้านล้าน EUR |
1/6/2561 | 2.57 ล้านล้าน EUR |
1/9/2561 | 1.98 ล้านล้าน EUR |
1/12/2561 | 1.66 ล้านล้าน EUR |
1/3/2562 | 2.15 ล้านล้าน EUR |
1/6/2562 | 3.44 ล้านล้าน EUR |
1/9/2562 | 1.7 ล้านล้าน EUR |
1/3/2563 | 271.68 ล้าน EUR |
1/6/2563 | 1.97 ล้านล้าน EUR |
1/9/2563 | 1.38 ล้านล้าน EUR |
1/12/2563 | 1.78 ล้านล้าน EUR |
1/3/2564 | 770.38 ล้าน EUR |
1/6/2564 | 4.54 ล้านล้าน EUR |
1/9/2564 | 911.05 ล้าน EUR |
1/12/2564 | 956.73 ล้าน EUR |
1/3/2565 | 394.15 ล้าน EUR |
1/6/2565 | 2.27 ล้านล้าน EUR |
1/9/2565 | 3.21 ล้านล้าน EUR |
1/12/2565 | 382.86 ล้าน EUR |
1/3/2566 | 218.33 ล้าน EUR |
1/6/2566 | 1.59 ล้านล้าน EUR |
1/9/2566 | 1.71 ล้านล้าน EUR |
1/12/2566 | 1.36 ล้านล้าน EUR |
กระแสเงินทุน ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2566 | 1.357 ล้านล้าน EUR |
1/9/2566 | 1.713 ล้านล้าน EUR |
1/6/2566 | 1.589 ล้านล้าน EUR |
1/3/2566 | 218.33 ล้าน EUR |
1/12/2565 | 382.86 ล้าน EUR |
1/9/2565 | 3.205 ล้านล้าน EUR |
1/6/2565 | 2.273 ล้านล้าน EUR |
1/3/2565 | 394.15 ล้าน EUR |
1/12/2564 | 956.73 ล้าน EUR |
1/9/2564 | 911.05 ล้าน EUR |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ กระแสเงินทุน
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇱🇺 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | -122.111 ล้านล้าน EUR | -17.976 ล้านล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
🇱🇺 ทองคำสำรอง | 2.24 Tonnes | 2.24 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇱🇺 นำเข้า | 1.93 ล้านล้าน EUR | 2 ล้านล้าน EUR | รายเดือน |
🇱🇺 นำเข้าก๊าซธรรมชาติ | 1,306.278 Terajoule | 1,507.512 Terajoule | รายเดือน |
🇱🇺 ยอดการค้า | -610 ล้าน EUR | -690 ล้าน EUR | รายเดือน |
🇱🇺 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | 1.717 ล้านล้าน EUR | 1.465 ล้านล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
🇱🇺 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | 6.8 % of GDP | 7.7 % of GDP | ประจำปี |
🇱🇺 ส่งออก | 1.32 ล้านล้าน EUR | 1.31 ล้านล้าน EUR | รายเดือน |
🇱🇺 หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี | 4,391 % of GDP | 4,321 % of GDP | ควอร์เตอร์ |
🇱🇺 หนี้สินต่างประเทศ | 452.147 ล้านล้าน EUR | 437.869 ล้านล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร กระแสเงินทุน
กระแสเงินทุนเป็นหมวดหมู่สำคัญที่มีบทบาทอยู่ในเศรษฐกิจมหภาค นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนให้ความสำคัญเพราะกระแสเงินทุนมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเสถียรภาพและการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ในแต่ละประเทศ การเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของกระแสเงินทุนสามารถช่วยให้รัฐบาลและผู้นำทางเศรษฐกิจวางแผนและดำเนินนโยบายที่เหมาะสมเพื่อค้าและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ การศึกษากระแสเงินทุนสามารถแยกย่อยได้หลายประเภท ซึ่งหลักๆ จะเป็นเงินทุนขาเข้าและเงินทุนขาออก เงินทุนขาเข้าหมายถึงเงินที่ไหลเข้ามาในประเทศจากต่างประเทศ อาจจะมาในรูปแบบการลงทุนโดยตรง การลงทุนในหลักทรัพย์ หรือการให้สินเชื่อ การไหลเข้าของเงินทุนขาเข้านี้สามารถช่วยสร้างงานเพิ่มขึ้น เพิ่มทุน และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศได้ เงินทุนขาออกหมายถึงเงินที่ไหลออกจากประเทศไปยังต่างประเทศ ในกรณีที่มีเงินทุนขาออกมากเกินไป อาจทำให้ค่าเงินของประเทศอ่อนค่าลง และอาจทำให้เกิดปัญหาเงินทุนสำรองระหว่างประเทศลดลง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของประเทศนั้นลดน้อยลง ปัจจัยที่มีผลต่อกระแสเงินทุนสามารถแยกย่อยได้เป็นหลายหมวดหมู่ อาทิเช่น ปัจจัยภายในประเทศ ได้แก่ เสถียรภาพทางการเมือง นโยบายการเงินและการคลัง สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ อัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยนที่มีเสถียรภาพ ส่วนปัจจัยภายนอกประเทศได้แก่ เศรษฐกิจโลก, การเคลื่อนไหวของตลาดทุน, อัตราดอกเบี้ยระหว่างประเทศ และความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างประเทศ กระแสเงินทุนที่เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว ซึ่งมักจะเป็นทุนระยะสั้นนั้นสามารถสร้างความผันผวนให้กับเศรษฐกิจได้มากกว่าทุนระยะยาวที่มักจะมีเสถียรภาพกว่า เมื่อกระแสเงินทุนหมุนเวียนเข้าสู่ประเทศ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มักจะเป็นที่ต้องการเพราะเป็นการลงทุนเพื่อการผลิตหรือการขยายธุรกิจที่มีความยั่งยืน ในทางกลับกัน การไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้น เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์ การเก็งกำไรในค่าเงิน สามารถสร้างความเสี่ยงและความผันผวนให้กับระบบการเงินของประเทศ ในยุคปัจจุบันที่ตลาดการเงินมีการเชื่อมต่อกันอย่างเข้มข้น กระแสเงินทุนข้ามประเทศสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสาร การเข้าใจและติดตามกระแสเงินทุนอย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการ นักลงทุน และรัฐบาล ความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยในการบริหารจัดการกระแสเงินทุน ประเด็นนี้สำคัญมากโดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก การทำความเข้าใจและประสานงานกันระหว่างประเทศสามารถช่วยลดความเสี่ยงและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกรูปแบบหนึ่งของการไหลของกระแสเงินทุนที่น่าสนใจคือระบบเงินทุนไหลเข้าและออกในระดับรัฐและองค์กรขนาดใหญ่ เช่น การออกพันธบัตรโดยรัฐหรือองค์กรข้ามชาติ การศึกษาและวิเคราะห์แนวโน้มของการรับจ่ายเงินในระดับนี้ช่วยให้เราเข้าใจภาพรวมและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้ละเอียดมากขึ้น นอกจากการศึกษาผ่านตัวเลขและสถิติ การตีความและวิเคราะห์กระแสเงินทุนในเชิงข้อความบอกเล่าสามารถลดความซับซ้อนของข้อมูลที่ซับซ้อน ทำให้ผู้ที่ไม่มีพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์สามารถเข้าใจ และนำไปใช้ประโยชน์ได้ บ่อยครั้งที่กระแสเงินทุนมีความสัมพันธ์กับตลาดทุนและตลาดเงิน ทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง ย่อมมีผลกระทบต่อตลาดอีกด้าน เช่น การเปลี่ยนแปลงนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางในประเทศใดประเทศหนึ่ง ย่อมทำให้มีการเคลื่อนย้ายของเงินทุนทั้งขาเข้าและขาออกในประเทศนั้น ตัวอย่างเช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐอเมริกาอาจจะสร้างแรงดึงดูดให้กับเงินทุนไหลออกจากประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าไปยังสหรัฐ ในเว็บไซต์ eulerpool ของเรา เราให้ความสำคัญกับการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับกระแสเงินทุนอย่างเป็นระบบ และเป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์และทำความเข้าใจกระแสเงินทุนได้อย่างง่ายดาย ข้อมูลเหล่านี้จะถูกปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจในปัจจุบันเสมือนจริง ทั้งนี้ ความสามารถในการตามติดและวิเคราะห์กระแสเงินทุนอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เราทุกคนสามารถเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสและความท้าทายทางเศรษฐกิจในอนาคต ไม่ว่าเราจะเป็นนักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ หรือนักวางแผนทางนโยบาย การเข้าใจกระแสเงินทุนและการสามารถใช้ข้อมูลนี้อย่างมีประสิทธิภาพคือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จทางเศรษฐกิจในระยะยาว