ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ

เริ่มต้นที่ 2 ยูโร
Analyse
โปรไฟล์
🇱🇹

ลิทัวเนีย การนำเข้า

ราคา

3.516 ล้านล้าน EUR
การเปลี่ยนแปลง +/-
-53.4 ล้าน EUR
เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง
-1.51 %

มูลค่าปัจจุบันของการนำเข้าในลิทัวเนียคือ3.516 ล้านล้านEUR การนำเข้าในลิทัวเนียลดลงมาที่3.516 ล้านล้านEURเมื่อวันที่1/5/2567 หลังจากที่เคยอยู่ที่3.569 ล้านล้านEURเมื่อวันที่1/4/2567 จากช่วง1/1/2537ถึง1/6/2567, GDP เฉลี่ยในลิทัวเนียอยู่ที่1.62 ล้านล้านEUR ค่าอยู่ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์เกิดขึ้นเมื่อ1/9/2565ด้วย5.21 ล้านล้านEUR, ในขณะที่ค่าที่ต่ำที่สุดถูกบันทึกไว้เมื่อ1/10/2537ด้วย153.2 ล้านEUR

แหล่งที่มา: Statistics Lithuania

การนำเข้า

  • แม็กซ์

นำเข้า

การนำเข้า ประวัติศาสตร์

วันที่มูลค่า
1/5/25673.516 ล้านล้าน EUR
1/4/25673.569 ล้านล้าน EUR
1/3/25673.411 ล้านล้าน EUR
1/2/25673.292 ล้านล้าน EUR
1/1/25673.392 ล้านล้าน EUR
1/12/25663.188 ล้านล้าน EUR
1/11/25663.93 ล้านล้าน EUR
1/10/25663.917 ล้านล้าน EUR
1/9/25663.701 ล้านล้าน EUR
1/8/25663.614 ล้านล้าน EUR
1
2
3
4
5
...
37

ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การนำเข้า

ชื่อปัจจุบันก่อนหน้าความถี่
🇱🇹
กระแสเงินทุน
361.1 ล้าน EUR318.79 ล้าน EURรายเดือน
🇱🇹
การลงทุนตรงจากต่างประเทศ
-67.44 ล้าน EUR743.08 ล้าน EURควอร์เตอร์
🇱🇹
การโอนเงิน
192.14 ล้าน EUR222.05 ล้าน EURควอร์เตอร์
🇱🇹
ดัชนีการก่อการร้าย
0.059 Points0.508 Pointsประจำปี
🇱🇹
ทองคำสำรอง
5.82 Tonnes5.82 Tonnesควอร์เตอร์
🇱🇹
นำเข้าก๊าซธรรมชาติ
12,035 Terajoule9,707 Terajouleรายเดือน
🇱🇹
ยอดการค้า
409.9 ล้าน EUR-286 ล้าน EURรายเดือน
🇱🇹
ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด
282.1 ล้าน EUR-30.7 ล้าน EURรายเดือน
🇱🇹
ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า
296,600 507,800 ควอร์เตอร์
🇱🇹
ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP
1.9 % of GDP-5.5 % of GDPประจำปี
🇱🇹
รายได้จากการท่องเที่ยว
197.7 ล้าน EUR389.2 ล้าน EURควอร์เตอร์
🇱🇹
ส่งออก
3.212 ล้านล้าน EUR3.092 ล้านล้าน EURรายเดือน
🇱🇹
หนี้สาธารณะต่างประเทศต่อจีดีพี
71 % of GDP68 % of GDPควอร์เตอร์
🇱🇹
หนี้สินต่างประเทศ
49.233 ล้านล้าน EUR47.498 ล้านล้าน EURควอร์เตอร์

ลิทัวเนียมีการนำเข้าสินค้าหลักได้แก่: ผลิตภัณฑ์แร่ธาตุ (ร้อยละ 19 ของการนำเข้าทั้งหมด); เครื่องจักรและเครื่องใช้ไฟฟ้า (ร้อยละ 18); สารเคมี (ร้อยละ 12); ยานพาหนะ (ร้อยละ 9); โลหะพื้นฐาน (ร้อยละ 6); พลาสติกและยาง (ร้อยละ 6); และผลิตภัณฑ์อาหาร, เครื่องดื่มและยาสูบ (ร้อยละ 6) โดยมีพันธมิตรการนำเข้าสำคัญคือ รัสเซีย (ร้อยละ 14 ของการนำเข้าทั้งหมด), ลัตเวีย (ร้อยละ 12), โปแลนด์ (ร้อยละ 11) และเยอรมนี (ร้อยละ 8)

หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป

คืออะไร การนำเข้า

การนำเข้า การนำเข้าถือเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งของเศรษฐกิจมหภาค และเป็นแรงขับเคลื่อนที่มีผลกระทบสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจในระดับประเทศ การนำเข้าหมายถึงการที่ประเทศหนึ่งมีการซื้อสินค้าหรือบริการจากต่างประเทศเพื่อนำมาใช้ในการผลิตหรือจำหน่ายต่อ การนำเข้ามีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากสามารถเติมเต็มความต้องการของตลาดภายในประเทศที่ขาดแคลน หรือไม่ได้ผลิตขึ้นในประเทศนั้นๆ การนำเข้ามีผลกระทบที่หลายหลายต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งในทางบวกและทางลบ ทางด้านบวก การนำเข้าสามารถช่วยให้ประชาชนมีการเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพดีขึ้น เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีส่วนช่วยในการยกระดับมาตรฐานการครองชีพ เทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยให้การผลิตของประเทศเกิดการพัฒนาและสามารถแข่งขันในระดับสากลได้ ในทางกลับกัน การนำเข้าก็อาจมีผลกระทบทางลบ เช่น การทำให้เกิดการเสริมสร้างภาระทางการเงินภายนอกของประเทศมากขึ้น หรือส่งผลกระทบให้เกิดการขาดดุลทางการค้า สินค้าภายในประเทศอาจไม่ได้รับการสนับสนุนหรือได้รับการพัฒนาที่เพียงพอหากพึ่งพาการนำเข้ามากเกินไป สำหรับประเทศไทย สินค้านำเข้ามีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสินค้าทุน (capital goods) ที่ใช้ในการผลิต อุปกรณ์เทคโนโลยี เครื่องจักรต่างๆ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค (consumer goods) เช่นอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าแฟชั่น และสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ การนำเข้าเหล่านี้สามารถช่วยยกระดับมาตรฐานของการผลิตในประเทศได้ การนำเข้ายังสามารถชี้วัดถึงสุขภาพของเศรษฐกิจของประเทศได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น เมื่อระดับการนำเข้าสูงมากๆ อาจบ่งบอกถึงการที่ภาคธุรกิจต้องการขยายการผลิต ซึ่งจะใช้วัตถุดิบนำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิต อย่างไรก็ตาม ก็อาจต้องพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ ร่วมด้วย เช่น ภาวะทางการเงินภายนอก ค่าเงิน อัตราภาษีศุลกากร และนโยบายการค้าต่างประเทศ ที่ eulerpool เว็บไซต์ของเรามุ่งมั่นในการจัดเตรียมข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและแม่นยำที่สุด เพื่อที่จะช่วยให้นักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ นักวิจัย หรือผู้ที่สนใจในข้อมูลด้านเศรษฐกิจสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจ เว็บไซต์ของเราจะมีการอัปเดตข้อมูลการนำเข้าของประเทศไทยอย่างเป็นระบบ ทั้งในแง่มูลค่าการนำเข้า ปริมาณการนำเข้า และประเภทสินค้านำเข้า ในปัจจุบัน ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นระหว่างประเทศต่างๆ ได้ทำให้การนำเข้าเป็นปัจจัยที่ไม่อาจมองข้ามได้ การเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจหรือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายการค้าในประเทศใดประเทศหนึ่ง สามารถส่งผลกระทบต่อการนำเข้าของประเทศอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็ว การเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มของการนำเข้าจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ตัวอย่างหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาษีศุลกากร ซึ่งสามารถส่งผลต่อปริมาณสินค้าที่นำเข้าได้โดยตรง การที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการนำเข้าในบางภาคส่วนหรือสินค้าบางประเภทโดยเฉพาะก็จะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนนั้น การนำเข้ายังมีบทบาทสำคัญในด้านของการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ ประเทศที่ยังมีการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างไม่เต็มที่อาจต้องพึ่งพาการนำเข้าวัตถุดิบ เทคโนโลยี หรือเครื่องจักรจากต่างประเทศ การนำเข้าเหล่านี้จะช่วยให้กระบวนการผลิตภายในประเทศเติบโตมากขึ้น และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ สำหรับประเทศไทย การนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศเป็นส่วนสำคัญในการสร้างสินค้าส่งออกที่มีคุณภาพสูง ซึ่งช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ขณะเดียวกัน ภาวะเศรษฐกิจโลกและความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศก็มีผลกระทบต่อการนำเข้าเช่นกัน การเกิดสงครามการค้า หรือการเปลี่ยนแปลงในนโยบายของประเทศคู่ค้า อาจทำให้การนำเข้าสินค้าจากประเทศนั้นๆ ประสบปัญหา สิ่งนี้ทำให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนต้องมีการวางแผนและพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการพึ่งพาการนำเข้าจากประเทศใดประเทศหนึ่ง การทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีความยั่งยืนในระยะยาวจำเป็นต้องมีการจัดการและควบคุมการนำเข้าอย่างมีประสิทธิภาพ การสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าจะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพการผลิตของประเทศและเพิ่มความแข็งแกร่งในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ สรุปแล้ว การนำเข้าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำเนินเศรษฐกิจของประเทศ สามารถสร้างโอกาสในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการผลิตภายในประเทศ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างการนำเข้าและการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศ eulerpool ของเรายังคงยึดมั่นในการจัดเตรียมข้อมูลที่มีคุณภาพและทันสมัย เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์และสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจทางเศรษฐกิจได้ต่อไป