ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ลิทัวเนีย ตัวคูณจีดีพี (GDP)
ราคา
ค่าปัจจุบันของตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน ลิทัวเนีย คือ 153.7 คะแนน ตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน ลิทัวเนีย ลดลงเหลือ 153.7 คะแนน ณ วันที่ 1/3/2567 หลังจากเคยเป็น 154.408 คะแนน ณ วันที่ 1/12/2566 จาก 1/3/2538 ถึง 1/6/2567 ค่าเฉลี่ยของตัวคูณจีดีพี (GDP) ใน ลิทัวเนีย คือ 100.04 คะแนน โดยค่าที่สูงสุดตลอดกาลได้ถูกบันทึกไว้ ณ วันที่ 1/6/2567 ด้วยค่า 159.8 คะแนน ขณะที่ค่าต่ำสุดได้ถูกบันทึกไว้ ณ วันที่ 1/3/2538 ด้วยค่า 66.79 คะแนน
ตัวคูณจีดีพี (GDP) ·
แม็กซ์
ตัวคูณ GDP | |
---|---|
1/3/2538 | 66.79 points |
1/6/2538 | 71.13 points |
1/9/2538 | 76.42 points |
1/12/2538 | 76.89 points |
1/3/2539 | 81.96 points |
1/6/2539 | 87.56 points |
1/9/2539 | 88.17 points |
1/12/2539 | 89.71 points |
1/3/2540 | 96.09 points |
1/6/2540 | 99.26 points |
1/9/2540 | 94.22 points |
1/12/2540 | 100.07 points |
1/3/2541 | 100.23 points |
1/6/2541 | 103.62 points |
1/9/2541 | 96.89 points |
1/12/2541 | 101.77 points |
1/3/2542 | 97.03 points |
1/6/2542 | 102.76 points |
1/9/2542 | 95.42 points |
1/12/2542 | 101.15 points |
1/3/2543 | 91.72 points |
1/6/2543 | 95.07 points |
1/9/2543 | 88.44 points |
1/12/2543 | 94.74 points |
1/3/2544 | 89.05 points |
1/6/2544 | 94.26 points |
1/9/2544 | 87.47 points |
1/12/2544 | 97.34 points |
1/3/2545 | 89.85 points |
1/6/2545 | 94.74 points |
1/9/2545 | 89.87 points |
1/12/2545 | 94.58 points |
1/3/2546 | 90.33 points |
1/6/2546 | 93.4 points |
1/9/2546 | 88.5 points |
1/12/2546 | 93.77 points |
1/3/2547 | 89.23 points |
1/6/2547 | 94.6 points |
1/9/2547 | 92.43 points |
1/12/2547 | 98.34 points |
1/3/2548 | 67.55 points |
1/6/2548 | 72.57 points |
1/9/2548 | 71.1 points |
1/12/2548 | 75.09 points |
1/3/2549 | 72.08 points |
1/6/2549 | 76.2 points |
1/9/2549 | 77.04 points |
1/12/2549 | 80.19 points |
1/3/2550 | 78.54 points |
1/6/2550 | 83.24 points |
1/9/2550 | 83.2 points |
1/12/2550 | 86.72 points |
1/3/2551 | 87.17 points |
1/6/2551 | 93.35 points |
1/9/2551 | 91.36 points |
1/12/2551 | 92.48 points |
1/3/2552 | 90.36 points |
1/6/2552 | 92.24 points |
1/9/2552 | 83.25 points |
1/12/2552 | 87.38 points |
1/3/2553 | 89.83 points |
1/6/2553 | 91.91 points |
1/9/2553 | 88.78 points |
1/12/2553 | 91.17 points |
1/3/2554 | 93.24 points |
1/6/2554 | 97.8 points |
1/9/2554 | 94.53 points |
1/12/2554 | 95.31 points |
1/3/2555 | 97.42 points |
1/6/2555 | 100.16 points |
1/9/2555 | 96.44 points |
1/12/2555 | 97.56 points |
1/3/2556 | 96.95 points |
1/6/2556 | 101.41 points |
1/9/2556 | 99.28 points |
1/12/2556 | 98.64 points |
1/3/2557 | 98.19 points |
1/6/2557 | 101.99 points |
1/9/2557 | 100.07 points |
1/12/2557 | 99.36 points |
1/3/2558 | 97.09 points |
1/6/2558 | 101.94 points |
1/9/2558 | 100.16 points |
1/12/2558 | 100.54 points |
1/3/2559 | 99.02 points |
1/6/2559 | 104.24 points |
1/9/2559 | 101.4 points |
1/12/2559 | 101.48 points |
1/3/2560 | 102.79 points |
1/6/2560 | 107.38 points |
1/9/2560 | 106.82 points |
1/12/2560 | 106.21 points |
1/3/2561 | 106.34 points |
1/6/2561 | 110.69 points |
1/9/2561 | 109.54 points |
1/12/2561 | 111.55 points |
1/3/2562 | 109.4 points |
1/6/2562 | 114.05 points |
1/9/2562 | 112.65 points |
1/12/2562 | 114.2 points |
1/3/2563 | 112.1 points |
1/6/2563 | 115.81 points |
1/9/2563 | 115.44 points |
1/12/2563 | 115.61 points |
1/3/2564 | 115.52 points |
1/6/2564 | 123.99 points |
1/9/2564 | 123.43 points |
1/12/2564 | 125.49 points |
1/3/2565 | 132.91 points |
1/6/2565 | 144.14 points |
1/9/2565 | 146.47 points |
1/12/2565 | 145.46 points |
1/3/2566 | 149.93 points |
1/6/2566 | 155.04 points |
1/9/2566 | 151.81 points |
1/12/2566 | 154.41 points |
1/3/2567 | 153.7 points |
ตัวคูณจีดีพี (GDP) ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/3/2567 | 153.7 คะแนน |
1/12/2566 | 154.408 คะแนน |
1/9/2566 | 151.81 คะแนน |
1/6/2566 | 155.043 คะแนน |
1/3/2566 | 149.926 คะแนน |
1/12/2565 | 145.461 คะแนน |
1/9/2565 | 146.467 คะแนน |
1/6/2565 | 144.143 คะแนน |
1/3/2565 | 132.91 คะแนน |
1/12/2564 | 125.486 คะแนน |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ตัวคูณจีดีพี (GDP)
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇱🇹 CPI Transport | 142.712 points | 141.284 points | รายเดือน |
🇱🇹 การเปลี่ยนแปลงราคาผู้ผลิต | -5.2 % | -2.9 % | รายเดือน |
🇱🇹 เงินเฟ้อด้านอาหาร | -1.1 % | -0.9 % | รายเดือน |
🇱🇹 ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) | 153.23 points | 152.75 points | รายเดือน |
🇱🇹 ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับเทียบแล้ว | 150.78 points | 150.25 points | รายเดือน |
🇱🇹 ดัชนีราคาผู้บริโภคที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายรอง | 156.719 points | 156.979 points | รายเดือน |
🇱🇹 ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน | 145.04 points | 144.55 points | รายเดือน |
🇱🇹 ต้นทุนการผลิต | 121 points | 120.3 points | รายเดือน |
🇱🇹 ราคานำเข้า | 90.5 points | 83.9 points | ควอร์เตอร์ |
🇱🇹 ราคาส่งออก | 109 points | 109.9 points | ควอร์เตอร์ |
🇱🇹 อัตราเงินเฟ้อ | 0.5 % | 0.7 % | รายเดือน |
🇱🇹 อัตราเงินเฟ้อ MoM | 0.3 % | -0.4 % | รายเดือน |
🇱🇹 อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากัน YoY | 0.4 % | 0.8 % | รายเดือน |
🇱🇹 อัตราเงินเฟ้อที่ปรับให้เข้ากันรายเดือน | 0.3 % | 0.3 % | รายเดือน |
🇱🇹 อัตราเงินเฟ้อผู้ผลิตรายเดือน | 0.5 % | 0.4 % | รายเดือน |
🇱🇹 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน | 3.3 % | 3.3 % | รายเดือน |
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇻ลัตเวีย
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร ตัวคูณจีดีพี (GDP)
GDP Deflator (ดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) เป็นหนึ่งในดัชนีที่สำคัญที่สุดที่ถูกใช้ในวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค เป็นตัวชี้วัดเชิงตัวเลขที่ช่วยให้เราสามารถประเมินแนวโน้มของราคาและราคาเงินเฟ้อได้ โดยการแยกปัจจัยที่เป็นปริมาณการผลิตออกจากปัจจัยที่เป็นการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้าและบริการ และวัดการเปลี่ยนแปลงราคาของทุกสินค้าภายในประเทศเรื่องนี้มีความหมายอย่างมากในการวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจมหภาค เนื่องจากสามารถช่วยให้ทางรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงนักลงทุนใช้ในการวิเคราะห์และคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในภาคการศึกษาเศรษฐศาสตร์ การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศส่วนใหญ่จะถูกมองว่าเป็นสัญญาณหนึ่งของเงินเฟ้อ เนื่องจากหากราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็จะมีผลกระทบต่อความสามารถในการซื้อสินค้าของผู้บริโภค และสร้างแรงกดดันให้กับธุรกิจในการกำหนดราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้น GDP Deflator นั้นไม่เหมือนกับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เนื่องจากมันไม่จำกัดแค่รายการของสินค้าหรือบริการที่ถูกกำหนดในตะกร้าสินค้า แต่จะคำนวณจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าทุกประเภทที่ถูกผลิตภายในประเทศดังนั้น มันจึงให้ภาพที่ครอบคลุมมากกว่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของราคาในเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังช่วยให้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านราคาในภาคการผลิต การบริโภค การลงทุน และการค้าระหว่างประเทศในภาพรวม การคำนวน GDP Deflator ทำนั้นเรียบง่ายในทางทฤษฎี โดยเศรษฐกิจที่เป็นตัวแทนของการคำนวณนี้แสดงผ่านสมการ GDP Deflator = (nGDP / rGDP) * 100 ซึ่ง nGDP (Nominal GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเรียลมูลค่าปัจจุบันที่ยังไม่ได้ ปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อ ส่วน rGDP (Real GDP) คือมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่ถูกปรับปรุงตามดัชนีเงินเฟ้อสมการนี้ทำให้เราสามารถแยกความแตกต่างระหว่างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงปริมาณการผลิตและการเปลี่ยนแปลงของระดับราคาสินค้าได้อย่างง่ายดาย ความสำคัญของ GDP Deflator นั้นไม่สามารถประมาทได้ แน่นอนเราสามารถนำดัชนีนี้มาใช้เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาวและระยะสั้น ตลอดจนการคาดการณ์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อในอนาคต โดยทั่วไปดัชนีนี้ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการเปรียบเทียบระดับราคาของแต่ละช่วงเวลาสร้างความชัดเจนในการวิเคราะห์ว่าสภาวะเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลามีแนวโน้มและสถานการณ์ที่เป็นอย่างไร นักเศรษฐศาสตร์ นักการเงิน รวมไปถึงนักลงทุน จะใช้ GDP Deflator เพื่อวิเคราะห์ถึงความเปลี่ยนแปลงของราคาในตลาดได้ดียิ่งขึ้นตัวอย่างเช่น นักลงทุนที่ต้องการวิเคราะห์การลงทุนในระยะยาวอาจจะมองหาสัญญาณที่แสดงถึงการเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้เนื่องจากมันสามารถบอกได้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะแข็งแรงขึ้นหรือมีความเสถียรและชัดเจนขึ้น แต่ในทางกลับกันหาก GDP Deflator ลดลง ก็อาจเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ถึงการลดลงของระดับราคาสินค้าและบริการ ซึ่งอาจทำให้มีผลกระทบทางลบในบางภาคส่วนของเศรษฐกิจ นอกจากนี้การวิเคราะห์ GDP Deflator ยังช่วยให้สามารถประเมินความสามารถในการบริโภคของประชาชนได้อย่างชัดเจนมากขึ้น การเพิ่มขึ้นของดัชนีนี้สามารถสื่อถึงว่าประชาชนอาจจะมีความสามารถในการบริโภคน้อยลงเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคา ซึ่งอาจนำไปสู่การลดลงของความต้องการสินค้าบางประเภท สิ่งนี้ยังมีผลกระทบต่อการวางแผนการผลิตและการบริหารจัดการของธุรกิจที่ต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มนี้ตามไปด้วย ในทำนองเดียวกัน GDP Deflator ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการวิเคราะห์และวางแผนในระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงิน เช่นการปรับอัตราดอกเบี้ย หรือการกำหนดนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณของรัฐบาลในการลงทุนในภาคส่วนต่างๆ จะต้องพิจารณาถึงดัชนีนี้อย่างถี่ถ้วนเพื่อให้การดำเนินนโยบายในแต่ละระดับมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้นๆ สุดท้ายนี้ การทำความเข้าใจดัชนี GDP Deflator และการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องยังจำเป็นต้องอาศัยความตั้งใจและความระมัดระวังในการประมวลผล เนื่องจากเศรษฐกิจเป็นระบบที่มีความซับซ้อนการวิเคราะห์ที่ถูกต้องและครบถ้วนมีความสำคัญอย่างมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจและการวางแผนที่ดีที่สุดสำหรับทุกภาคส่วนของสังคม เว็บไซต์ eulerpool ของเรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศพร้อมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุมและทันสมัย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญและใช้ในการวิเคราะห์เศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ