ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร ลัตเวีย การใช้จ่ายของรัฐบาล
ราคา
ในปัจจุบันค่าของการใช้จ่ายของรัฐบาลในลัตเวียคือ1.726 ล้านล้านEUR การใช้จ่ายของรัฐบาลในลัตเวียเพิ่มขึ้นเป็น1.726 ล้านล้านEURเมื่อ1/12/2566หลังจากที่มันคือ1.401 ล้านล้านEURเมื่อ1/9/2566 จาก1/3/2538ถึง1/3/2567 GDP เฉลี่ยในลัตเวียคือ1.1 ล้านล้านEUR มูลค่าสูงสุดที่เคยอยู่ในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นเมื่อ1/12/2566ที่มีมูลค่า1.73 ล้านล้านEUR ในขณะที่ค่าต่ำสุดเคยถูกบันทึกไว้เมื่อ1/9/2539ที่มีมูลค่า749.74 ล้านEUR
การใช้จ่ายของรัฐบาล ·
แม็กซ์
รัฐบาลใช้จ่าย | |
---|---|
1/3/2538 | 864.21 ล้าน EUR |
1/6/2538 | 807.54 ล้าน EUR |
1/9/2538 | 780.95 ล้าน EUR |
1/12/2538 | 959.02 ล้าน EUR |
1/3/2539 | 767.82 ล้าน EUR |
1/6/2539 | 793.53 ล้าน EUR |
1/9/2539 | 749.74 ล้าน EUR |
1/12/2539 | 919.69 ล้าน EUR |
1/3/2540 | 779.12 ล้าน EUR |
1/6/2540 | 757.38 ล้าน EUR |
1/9/2540 | 762.32 ล้าน EUR |
1/12/2540 | 1.05 ล้านล้าน EUR |
1/3/2541 | 814.5 ล้าน EUR |
1/6/2541 | 893.56 ล้าน EUR |
1/9/2541 | 907.61 ล้าน EUR |
1/12/2541 | 1.13 ล้านล้าน EUR |
1/3/2542 | 812.61 ล้าน EUR |
1/6/2542 | 968.47 ล้าน EUR |
1/9/2542 | 916.16 ล้าน EUR |
1/12/2542 | 1.07 ล้านล้าน EUR |
1/3/2543 | 766.44 ล้าน EUR |
1/6/2543 | 936.96 ล้าน EUR |
1/9/2543 | 843.73 ล้าน EUR |
1/12/2543 | 1.1 ล้านล้าน EUR |
1/3/2544 | 824.96 ล้าน EUR |
1/6/2544 | 970.39 ล้าน EUR |
1/9/2544 | 890.11 ล้าน EUR |
1/12/2544 | 1.14 ล้านล้าน EUR |
1/3/2545 | 857.65 ล้าน EUR |
1/6/2545 | 1.01 ล้านล้าน EUR |
1/9/2545 | 937.11 ล้าน EUR |
1/12/2545 | 1.18 ล้านล้าน EUR |
1/3/2546 | 899.3 ล้าน EUR |
1/6/2546 | 1.08 ล้านล้าน EUR |
1/9/2546 | 959.34 ล้าน EUR |
1/12/2546 | 1.21 ล้านล้าน EUR |
1/3/2547 | 928.67 ล้าน EUR |
1/6/2547 | 1.1 ล้านล้าน EUR |
1/9/2547 | 996.3 ล้าน EUR |
1/12/2547 | 1.22 ล้านล้าน EUR |
1/3/2548 | 997.06 ล้าน EUR |
1/6/2548 | 1.06 ล้านล้าน EUR |
1/9/2548 | 1.04 ล้านล้าน EUR |
1/12/2548 | 1.3 ล้านล้าน EUR |
1/3/2549 | 1.03 ล้านล้าน EUR |
1/6/2549 | 1.12 ล้านล้าน EUR |
1/9/2549 | 1.07 ล้านล้าน EUR |
1/12/2549 | 1.44 ล้านล้าน EUR |
1/3/2550 | 1.09 ล้านล้าน EUR |
1/6/2550 | 1.17 ล้านล้าน EUR |
1/9/2550 | 1.16 ล้านล้าน EUR |
1/12/2550 | 1.4 ล้านล้าน EUR |
1/3/2551 | 1.11 ล้านล้าน EUR |
1/6/2551 | 1.22 ล้านล้าน EUR |
1/9/2551 | 1.19 ล้านล้าน EUR |
1/12/2551 | 1.4 ล้านล้าน EUR |
1/3/2552 | 1.16 ล้านล้าน EUR |
1/6/2552 | 1.18 ล้านล้าน EUR |
1/9/2552 | 931.4 ล้าน EUR |
1/12/2552 | 1.14 ล้านล้าน EUR |
1/3/2553 | 935.26 ล้าน EUR |
1/6/2553 | 1.03 ล้านล้าน EUR |
1/9/2553 | 911.72 ล้าน EUR |
1/12/2553 | 1.18 ล้านล้าน EUR |
1/3/2554 | 955.57 ล้าน EUR |
1/6/2554 | 1.04 ล้านล้าน EUR |
1/9/2554 | 950.3 ล้าน EUR |
1/12/2554 | 1.17 ล้านล้าน EUR |
1/3/2555 | 873.28 ล้าน EUR |
1/6/2555 | 1.11 ล้านล้าน EUR |
1/9/2555 | 954.83 ล้าน EUR |
1/12/2555 | 1.22 ล้านล้าน EUR |
1/3/2556 | 914.82 ล้าน EUR |
1/6/2556 | 1.1 ล้านล้าน EUR |
1/9/2556 | 976.33 ล้าน EUR |
1/12/2556 | 1.22 ล้านล้าน EUR |
1/3/2557 | 955.29 ล้าน EUR |
1/6/2557 | 1.15 ล้านล้าน EUR |
1/9/2557 | 998.81 ล้าน EUR |
1/12/2557 | 1.27 ล้านล้าน EUR |
1/3/2558 | 972.54 ล้าน EUR |
1/6/2558 | 1.17 ล้านล้าน EUR |
1/9/2558 | 1.02 ล้านล้าน EUR |
1/12/2558 | 1.28 ล้านล้าน EUR |
1/3/2559 | 985.37 ล้าน EUR |
1/6/2559 | 1.19 ล้านล้าน EUR |
1/9/2559 | 1.03 ล้านล้าน EUR |
1/12/2559 | 1.33 ล้านล้าน EUR |
1/3/2560 | 1.01 ล้านล้าน EUR |
1/6/2560 | 1.24 ล้านล้าน EUR |
1/9/2560 | 1.07 ล้านล้าน EUR |
1/12/2560 | 1.38 ล้านล้าน EUR |
1/3/2561 | 1.04 ล้านล้าน EUR |
1/6/2561 | 1.26 ล้านล้าน EUR |
1/9/2561 | 1.08 ล้านล้าน EUR |
1/12/2561 | 1.4 ล้านล้าน EUR |
1/3/2562 | 1.09 ล้านล้าน EUR |
1/6/2562 | 1.32 ล้านล้าน EUR |
1/9/2562 | 1.15 ล้านล้าน EUR |
1/12/2562 | 1.47 ล้านล้าน EUR |
1/3/2563 | 1.12 ล้านล้าน EUR |
1/6/2563 | 1.34 ล้านล้าน EUR |
1/9/2563 | 1.18 ล้านล้าน EUR |
1/12/2563 | 1.51 ล้านล้าน EUR |
1/3/2564 | 1.13 ล้านล้าน EUR |
1/6/2564 | 1.4 ล้านล้าน EUR |
1/9/2564 | 1.27 ล้านล้าน EUR |
1/12/2564 | 1.53 ล้านล้าน EUR |
1/3/2565 | 1.13 ล้านล้าน EUR |
1/6/2565 | 1.44 ล้านล้าน EUR |
1/9/2565 | 1.3 ล้านล้าน EUR |
1/12/2565 | 1.61 ล้านล้าน EUR |
1/3/2566 | 1.21 ล้านล้าน EUR |
1/6/2566 | 1.53 ล้านล้าน EUR |
1/9/2566 | 1.4 ล้านล้าน EUR |
1/12/2566 | 1.73 ล้านล้าน EUR |
การใช้จ่ายของรัฐบาล ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/12/2566 | 1.726 ล้านล้าน EUR |
1/9/2566 | 1.401 ล้านล้าน EUR |
1/6/2566 | 1.526 ล้านล้าน EUR |
1/3/2566 | 1.21 ล้านล้าน EUR |
1/12/2565 | 1.605 ล้านล้าน EUR |
1/9/2565 | 1.301 ล้านล้าน EUR |
1/6/2565 | 1.44 ล้านล้าน EUR |
1/3/2565 | 1.132 ล้านล้าน EUR |
1/12/2564 | 1.527 ล้านล้าน EUR |
1/9/2564 | 1.268 ล้านล้าน EUR |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ การใช้จ่ายของรัฐบาล
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇱🇻 การใช้จ่ายทางทหาร | 1.045 ล้านล้าน USD | 856.1 ล้าน USD | ประจำปี |
🇱🇻 ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลต่อ GDP | 41 % of GDP | 40.9 % of GDP | ประจำปี |
🇱🇻 คำขอลี้ภัย | 60 persons | 20 persons | รายเดือน |
🇱🇻 งบประมาณของรัฐ | -2.2 % of GDP | -4.6 % of GDP | ประจำปี |
🇱🇻 ดัชนีการทุจริต | 60 Points | 59 Points | ประจำปี |
🇱🇻 มูลค่าของงบประมาณรัฐบาล | -113.615 ชีวภาพ. EUR | 146.817 ชีวภาพ. EUR | รายเดือน |
🇱🇻 รัฐบาลใช้จ่าย | 1.699 ล้านล้าน EUR | 1.409 ล้านล้าน EUR | รายเดือน |
🇱🇻 รายได้ของรัฐ | 1.976 ล้านล้าน EUR | 1.787 ล้านล้าน EUR | รายเดือน |
🇱🇻 หนี้สาธารณะ | 17.581 ล้านล้าน EUR | 16.827 ล้านล้าน EUR | ควอร์เตอร์ |
🇱🇻 หนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ | 43.6 % of GDP | 41.8 % of GDP | ประจำปี |
🇱🇻 อันดับคอร์รัปชั่น | 36 | 39 | ประจำปี |
การใช้จ่ายของรัฐบาลหมายถึงการใช้จ่ายสาธารณะในสินค้าและบริการและเป็นองค์ประกอบหลักของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) นโยบายการใช้จ่ายของรัฐบาลเช่น การตั้งเป้าหมายงบประมาณ การปรับการเก็บภาษี การเพิ่มการใช้จ่ายสาธารณะ และงานสาธารณะ เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน ยุโรป
- 🇦🇱อัลเบเนีย
- 🇦🇹ออสเตรีย
- 🇧🇾เบลารุส
- 🇧🇪เบลเยียม
- 🇧🇦บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา
- 🇧🇬บัลแกเรีย
- 🇭🇷โครเอเชีย
- 🇨🇾ไซปรัส
- 🇨🇿สาธารณรัฐเช็ก
- 🇩🇰เดนมาร์ก
- 🇪🇪เอสโตเนีย
- 🇫🇴หมู่เกาะแฟโรe
- 🇫🇮ฟินแลนด์
- 🇫🇷ฝรั่งเศส
- 🇩🇪เยอรมัน
- 🇬🇷กรีซ
- 🇭🇺ฮังการี
- 🇮🇸เกาะ
- 🇮🇪ไอร์แลนด์
- 🇮🇹อิตาลี
- 🇽🇰โคโซโว
- 🇱🇮ลิกเตนสไตน์
- 🇱🇹ลิทัวเนีย
- 🇱🇺ลักเซมเบิร์ก
- 🇲🇰นอร์ทมาซิโดเนีย
- 🇲🇹มอลตา
- 🇲🇩โมลดอฟา
- 🇲🇨โมนาโก
- 🇲🇪มอนเตเนโกร
- 🇳🇱เนเธอร์แลนด์
- 🇳🇴นอร์เวย์
- 🇵🇱โปแลนด์
- 🇵🇹โปรตุเกส
- 🇷🇴โรมาเนีย
- 🇷🇺รัสเซีย
- 🇷🇸เซอร์เบีย
- 🇸🇰สโลวะเกีย
- 🇸🇮สโลวีเนีย
- 🇪🇸สเปน
- 🇸🇪สวีเดน
- 🇨🇭สวิตเซอร์แลนด์
- 🇺🇦ยูเครน
- 🇬🇧สหราชอาณาจักร
- 🇦🇩อันดอร์รา
คืออะไร การใช้จ่ายของรัฐบาล
การใช้จ่ายของรัฐบาล: ภาพรวมทางเศรษฐศาสตร์มหภาค เว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลเชิงลึกทางเศรษฐศาสตร์มหภาคที่เตรียมความรู้และข้อมูลการวิเคราะห์ที่แม่นยำสำหรับผู้เยี่ยมชมทุกระดับ ในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบเศรษฐกิจที่ซับซ้อน สิ่งที่สำคัญมากคือการมีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้จ่ายของรัฐบาล ที่ผ่านมา การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นหนึ่งในกลไกที่สำคัญที่สุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจและควบคุมสภาวะเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพ การใช้จ่ายของรัฐบาล หมายถึง เงินที่รัฐบาลทำการใช้ในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างสาธารณูปโภค การสนับสนุนสาธารณสุข การศึกษา การวิจัยและพัฒนา รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการคลังหรือการใช้เงินทุนสำรอง หนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการใช้จ่ายของรัฐบาลคือรายได้ของรัฐบาล ซึ่งหลักๆ มาจากการเก็บภาษี การขายสินทรัพย์รัฐบาล และการกู้ยืมเงิน เมื่อรัฐบาลมีรายได้มาก รัฐบาลสามารถใช้จ่ายมากขึ้น เช่นกัน เมื่อมีสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ การกู้ยืมเงินก็เป็นวิธีหนึ่งที่รัฐบาลใช้เพื่อกระตุ้นการลงทุนและการใช้จ่ายในภาคส่วนต่างๆ ในภาพรวมทางเศรษฐศาสตร์มหภาค การใช้จ่ายของรัฐบาลมีผลกระทบที่กว้างขวางและซับซ้อนในหลายด้าน ด้านหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงในประสิทธิภาพการผลิต (productivity) ของประเทศ การใช้จ่ายในโครงการโครงสร้างพื้นฐานเช่น ถนน ทางด่วน สะพาน หรือสนามบิน สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้าและลดต้นทุน ทำให้เกิดการเจริญเติบโตในระยะยาว นอกจากนี้ การใช้จ่ายในด้านการศึกษาและการฝึกอบรมยังเป็นการลงทุนที่ยั่งยืนในทุนมนุษย์ ทำให้ประชากรมีความสามารถมากขึ้น ซึ่งมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานและการผลิตของภาคแรงงานในอนาคต การเพิ่มการลงทุนในด้านสาธารณสุขก็จะเป็นการลดต้นทุนทางสังคมและเศรษฐกิจในระยะยาว เนื่องจากผลสุขภาพของประชากรดีขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้จ่ายที่มากเกินไปยังทำให้เกิดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้เช่นเดียวกัน หากรัฐบาลใช้จ่ายเกินกว่าปริมาณที่ควรจะเป็น อาจทำให้เกิดการขาดดุลงบประมาณ (budget deficits) ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและระดับหนี้สาธารณะ อีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลคือ การใช้จ่ายของรัฐบาลยังส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ เมื่อรัฐบาลใช้จ่ายมากขึ้น ความต้องการสินค้าหรือบริการต่างๆ จะเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาอาจปรับตัวสูงขึ้น มีผลทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นได้ การควบคุมและจัดการการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาสมดุลระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจกับการควบคุมเงินเฟ้อ นโยบายการคลัง (fiscal policy) เป็นเครื่องมือหนึ่งที่รัฐบาลใช้ในการควบคุมการใช้จ่าย การบริหารนโยบายการคลังที่มีประสิทธิภาพสามารถช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนได้ รัฐบาลสามารถเพิ่มหรือลดภาษี ปรับเปลี่ยนระดับของการใช้จ่ายในการลงทุนในโครงการต่างๆ เพื่อปรับปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจตามความจำเป็นในสถานการณ์ที่ต่างกัน องค์กรทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เช่น กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) หรือ ธนาคารโลก (World Bank) มักมีคำแนะนำในด้านการใช้จ่ายของรัฐบาลและนโยบายการคลัง เพื่อให้ประเทศต่างๆ มีการบริหารการเงินที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในยุคปัจจุบัน การใช้จ่ายของรัฐบาลไม่ได้มาแค่ในรูปแบบของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานหรือการให้บริการสาธารณะเพียงอย่างเดียว การวิจัยและพัฒนาในด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ และการสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อการนวัตกรรมยังเป็นสิ่งที่รัฐบาลมองเห็นความสำคัญเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต นอกจากนี้ ความตื่นตัวต่อสิ่งแวดล้อมยังเป็นเรื่องที่รัฐบาลหลายประเทศให้ความสำคัญ การลงทุนในโครงการพลังงานสะอาดหรือการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว (green economy) เป็นแนวทางหนึ่งที่รัฐบาลหลายประเทศสนใจทำ แม้ว่าการใช้จ่ายของรัฐบาลจะมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่การมีการใช้จ่ายอย่างเป็นระบบและมียุทธศาสตร์เป็นสิ่งที่จำเป็น ถ้ารัฐบาลใช้จ่ายเงินไม่ดีพอ การเงินของประเทศอาจเสี่ยงต่อการเกิดวิกฤติ การศึกษาและความเข้าใจในเชิงลึกเกี่ยวกับปัจจัยและผลกระทบของการใช้จ่ายของรัฐบาลจะทำให้สามารถวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ในสรุป การใช้จ่ายของรัฐบาลเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารเศรษฐกิจมหภาค มีผลกระทบทั้งในด้านการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ประสิทธิภาพการผลิต ระดับชีวิตของประชาชน ตลอดจนความคุมค่าของเงินเฟ้อ การมีข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัยเป็นสิ่งจำเป็นในการวิเคราะห์และวางแผน ซึ่งทางเว็บไซต์ Eulerpool เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้คุณมีความรู้และเครื่องมือในการประเมินและติดตามการใช้จ่ายของรัฐบาลอย่างมืออาชีพ