ทำการลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ
เริ่มต้นที่ 2 ยูโร คูเวต ดุลการค้า
ราคา
มูลค่าปัจจุบันของดุลการค้าใน คูเวต คือ 3.834 ล้านล้าน KWD ดุลการค้าใน คูเวต เพิ่มขึ้นเป็น 3.834 ล้านล้าน KWD เมื่อ 1/9/2566 หลังจากที่เป็น 3.245 ล้านล้าน KWD เมื่อ 1/6/2566 จาก 1/12/2536 ถึง 1/12/2566 GDP เฉลี่ยใน คูเวต คือ 2.25 ล้านล้าน KWD มูลค่าสูงสุดตลอดกาลถึงเมื่อ 1/3/2555 โดยมีมูลค่า 7.07 ล้านล้าน KWD ในขณะที่มูลค่าต่ำสุดถูกบันทึกไว้เมื่อ 1/6/2541 โดยมีมูลค่า 25.3 ล้าน KWD
ดุลการค้า ·
แม็กซ์
ยอดการค้า | |
---|---|
1/12/2536 | 272.1 ล้าน KWD |
1/3/2537 | 197.5 ล้าน KWD |
1/6/2537 | 363.6 ล้าน KWD |
1/9/2537 | 449.8 ล้าน KWD |
1/12/2537 | 343.3 ล้าน KWD |
1/3/2538 | 340.3 ล้าน KWD |
1/6/2538 | 354.6 ล้าน KWD |
1/9/2538 | 428.4 ล้าน KWD |
1/12/2538 | 368.1 ล้าน KWD |
1/3/2539 | 436.5 ล้าน KWD |
1/6/2539 | 434.6 ล้าน KWD |
1/9/2539 | 489.1 ล้าน KWD |
1/12/2539 | 590.7 ล้าน KWD |
1/3/2540 | 560.2 ล้าน KWD |
1/6/2540 | 427.8 ล้าน KWD |
1/9/2540 | 431.9 ล้าน KWD |
1/12/2540 | 392.9 ล้าน KWD |
1/3/2541 | 190.1 ล้าน KWD |
1/6/2541 | 25.3 ล้าน KWD |
1/9/2541 | 43.5 ล้าน KWD |
1/12/2541 | 26.6 ล้าน KWD |
1/3/2542 | 55.9 ล้าน KWD |
1/6/2542 | 203.6 ล้าน KWD |
1/9/2542 | 502.8 ล้าน KWD |
1/12/2542 | 638.6 ล้าน KWD |
1/3/2543 | 848.8 ล้าน KWD |
1/6/2543 | 878.7 ล้าน KWD |
1/9/2543 | 1 ล้านล้าน KWD |
1/12/2543 | 1.04 ล้านล้าน KWD |
1/3/2544 | 760.8 ล้าน KWD |
1/6/2544 | 796.5 ล้าน KWD |
1/9/2544 | 666.5 ล้าน KWD |
1/12/2544 | 332.6 ล้าน KWD |
1/3/2545 | 365.5 ล้าน KWD |
1/6/2545 | 576.1 ล้าน KWD |
1/9/2545 | 531.4 ล้าน KWD |
1/12/2545 | 457.5 ล้าน KWD |
1/3/2546 | 960.7 ล้าน KWD |
1/6/2546 | 659 ล้าน KWD |
1/9/2546 | 618.1 ล้าน KWD |
1/12/2546 | 650.2 ล้าน KWD |
1/3/2547 | 752.9 ล้าน KWD |
1/6/2547 | 914.5 ล้าน KWD |
1/9/2547 | 1.48 ล้านล้าน KWD |
1/12/2547 | 1.56 ล้านล้าน KWD |
1/3/2548 | 1.03 ล้านล้าน KWD |
1/6/2548 | 2.19 ล้านล้าน KWD |
1/9/2548 | 2.77 ล้านล้าน KWD |
1/12/2548 | 2.5 ล้านล้าน KWD |
1/3/2549 | 2.91 ล้านล้าน KWD |
1/6/2549 | 2.97 ล้านล้าน KWD |
1/9/2549 | 3.07 ล้านล้าน KWD |
1/12/2549 | 2.48 ล้านล้าน KWD |
1/3/2550 | 2.43 ล้านล้าน KWD |
1/6/2550 | 2.73 ล้านล้าน KWD |
1/9/2550 | 2.99 ล้านล้าน KWD |
1/12/2550 | 3.75 ล้านล้าน KWD |
1/3/2551 | 4.18 ล้านล้าน KWD |
1/6/2551 | 5.52 ล้านล้าน KWD |
1/9/2551 | 5.46 ล้านล้าน KWD |
1/12/2551 | 1.53 ล้านล้าน KWD |
1/3/2552 | 1.23 ล้านล้าน KWD |
1/6/2552 | 2.06 ล้านล้าน KWD |
1/9/2552 | 2.83 ล้านล้าน KWD |
1/12/2552 | 3.24 ล้านล้าน KWD |
1/3/2553 | 3.07 ล้านล้าน KWD |
1/6/2553 | 3.29 ล้านล้าน KWD |
1/9/2553 | 2.86 ล้านล้าน KWD |
1/12/2553 | 3.47 ล้านล้าน KWD |
1/3/2554 | 4.45 ล้านล้าน KWD |
1/6/2554 | 5.45 ล้านล้าน KWD |
1/9/2554 | 5.56 ล้านล้าน KWD |
1/12/2554 | 5.79 ล้านล้าน KWD |
1/3/2555 | 7.07 ล้านล้าน KWD |
1/6/2555 | 6.14 ล้านล้าน KWD |
1/9/2555 | 6.18 ล้านล้าน KWD |
1/12/2555 | 6.27 ล้านล้าน KWD |
1/3/2556 | 5.87 ล้านล้าน KWD |
1/6/2556 | 6.17 ล้านล้าน KWD |
1/9/2556 | 6.28 ล้านล้าน KWD |
1/12/2556 | 6.03 ล้านล้าน KWD |
1/3/2557 | 5.72 ล้านล้าน KWD |
1/6/2557 | 5.75 ล้านล้าน KWD |
1/9/2557 | 5.35 ล้านล้าน KWD |
1/12/2557 | 3.35 ล้านล้าน KWD |
1/3/2558 | 1.74 ล้านล้าน KWD |
1/6/2558 | 2.4 ล้านล้าน KWD |
1/9/2558 | 1.74 ล้านล้าน KWD |
1/12/2558 | 1.08 ล้านล้าน KWD |
1/3/2559 | 391.3 ล้าน KWD |
1/6/2559 | 1.2 ล้านล้าน KWD |
1/9/2559 | 1.38 ล้านล้าน KWD |
1/12/2559 | 1.69 ล้านล้าน KWD |
1/3/2560 | 1.61 ล้านล้าน KWD |
1/6/2560 | 1.46 ล้านล้าน KWD |
1/9/2560 | 1.61 ล้านล้าน KWD |
1/12/2560 | 1.94 ล้านล้าน KWD |
1/3/2561 | 2.32 ล้านล้าน KWD |
1/6/2561 | 2.66 ล้านล้าน KWD |
1/9/2561 | 3.14 ล้านล้าน KWD |
1/12/2561 | 2.79 ล้านล้าน KWD |
1/3/2562 | 2.38 ล้านล้าน KWD |
1/6/2562 | 2.67 ล้านล้าน KWD |
1/9/2562 | 2.24 ล้านล้าน KWD |
1/12/2562 | 2.08 ล้านล้าน KWD |
1/3/2563 | 1.76 ล้านล้าน KWD |
1/6/2563 | 90.1 ล้าน KWD |
1/9/2563 | 1.09 ล้านล้าน KWD |
1/12/2563 | 838.1 ล้าน KWD |
1/3/2564 | 1.62 ล้านล้าน KWD |
1/6/2564 | 2.65 ล้านล้าน KWD |
1/9/2564 | 1.65 ล้านล้าน KWD |
1/12/2564 | 3.51 ล้านล้าน KWD |
1/3/2565 | 4.79 ล้านล้าน KWD |
1/6/2565 | 5.89 ล้านล้าน KWD |
1/9/2565 | 5.52 ล้านล้าน KWD |
1/12/2565 | 3.82 ล้านล้าน KWD |
1/3/2566 | 3.64 ล้านล้าน KWD |
1/6/2566 | 3.24 ล้านล้าน KWD |
1/9/2566 | 3.83 ล้านล้าน KWD |
ดุลการค้า ประวัติศาสตร์
วันที่ | มูลค่า |
---|---|
1/9/2566 | 3.834 ล้านล้าน KWD |
1/6/2566 | 3.245 ล้านล้าน KWD |
1/3/2566 | 3.638 ล้านล้าน KWD |
1/12/2565 | 3.823 ล้านล้าน KWD |
1/9/2565 | 5.524 ล้านล้าน KWD |
1/6/2565 | 5.889 ล้านล้าน KWD |
1/3/2565 | 4.793 ล้านล้าน KWD |
1/12/2564 | 3.507 ล้านล้าน KWD |
1/9/2564 | 1.647 ล้านล้าน KWD |
1/6/2564 | 2.649 ล้านล้าน KWD |
ค่าเฉพาะทางมหภาคที่คล้ายกันกับ ดุลการค้า
ชื่อ | ปัจจุบัน | ก่อนหน้า | ความถี่ |
---|---|---|---|
🇰🇼 กระแสเงินทุน | -15.58 ล้านล้าน KWD | -19.523 ล้านล้าน KWD | ประจำปี |
🇰🇼 การผลิตน้ำมันดิบ | 2,413 BBL/D/1K | 2,413 BBL/D/1K | รายเดือน |
🇰🇼 การลงทุนตรงจากต่างประเทศ | 165.6 ล้าน KWD | 60.4 ล้าน KWD | ควอร์เตอร์ |
🇰🇼 การโอนเงิน | 887.5 ล้าน KWD | 867.1 ล้าน KWD | ควอร์เตอร์ |
🇰🇼 ดัชนีการก่อการร้าย | 0 Points | 0 Points | ประจำปี |
🇰🇼 ทองคำสำรอง | 78.97 Tonnes | 78.97 Tonnes | ควอร์เตอร์ |
🇰🇼 นำเข้า | 2.685 ล้านล้าน KWD | 2.853 ล้านล้าน KWD | ควอร์เตอร์ |
🇰🇼 ยอดเงินคงเหลือในบัญชีเดินสะพัด | 4.116 ล้านล้าน KWD | 4.182 ล้านล้าน KWD | ควอร์เตอร์ |
🇰🇼 ยอดนักท่องเที่ยวขาเข้า | 1.606 ล้าน | 2.161 ล้าน | ประจำปี |
🇰🇼 ยอดบัญชีเดินสะพัดเทียบกับ GDP | 30.3 % of GDP | 36 % of GDP | ประจำปี |
🇰🇼 รายได้จากการท่องเที่ยว | 1.687 ล้านล้าน USD | 708 ล้าน USD | ประจำปี |
🇰🇼 ส่งออก | 6.44 ล้านล้าน KWD | 6.641 ล้านล้าน KWD | ควอร์เตอร์ |
คูเวตบันทึกการค้าเกินดุลตั้งแต่ปี 1993 โดยมีการขนส่งน้ำมันเป็นหลัก (95 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมด) การนำเข้าสำคัญประกอบด้วย: เครื่องจักร เครื่องใช้กล เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ไฟฟ้า; อุปกรณ์ขนส่งและเหล็กพื้นฐานและบทความที่เกี่ยวข้อง คู่ค้าที่สำคัญคือ: จีน (10 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกทั้งหมด และ 10 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้า), เกาหลีใต้ (18 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออก และ 7 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้า) และสหรัฐอเมริกา (8 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออก และ 12 เปอร์เซ็นต์ของการนำเข้า) อื่น ๆ รวมถึง: อินเดีย, ญี่ปุ่น และ ซาอุดีอาระเบีย
หน้ามาโครสำหรับประเทศอื่นๆใน เอเชีย
- 🇨🇳ประเทศจีน
- 🇮🇳อินเดีย
- 🇮🇩อินโดนีเซีย
- 🇯🇵ญี่ปุ่น
- 🇸🇦ซาอุดิอาระเบีย
- 🇸🇬สิงคโปร์
- 🇰🇷เกาหลีใต้
- 🇹🇷ตุรกี
- 🇦🇫อัฟกานิสถาน
- 🇦🇲อาร์เมเนีย
- 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
- 🇧🇭บาห์เรน
- 🇧🇩บังกลาเทศ
- 🇧🇹ภูฏาน
- 🇧🇳บรูไน
- 🇰🇭กัมพูชา
- 🇹🇱ติมอร์-เลสเต
- 🇬🇪จอร์เจีย
- 🇭🇰ฮ่องกง
- 🇮🇷อิหร่าน
- 🇮🇶อิรัก
- 🇮🇱อิสราเอล
- 🇯🇴จอร์แดน
- 🇰🇿คาซัคสถาน
- 🇰🇬คีร์กีซสถาน
- 🇱🇦ลาว
- 🇱🇧เลบานอน
- 🇲🇴มาเก๊า
- 🇲🇾มาเลเซีย
- 🇲🇻มัลดีฟส์
- 🇲🇳มองโกเลีย
- 🇲🇲พม่า
- 🇳🇵เนปาล
- 🇰🇵เกาหลีเหนือ
- 🇴🇲โอมาน
- 🇵🇰ปากีสถาน
- 🇵🇸ปาเลสไตน์
- 🇵🇭ฟิลิปปินส์
- 🇶🇦กาตาร์
- 🇱🇰ศรีลังกา
- 🇸🇾ซีเรีย
- 🇹🇼ไต้หวัน
- 🇹🇯ทาจิกิสถาน
- 🇹🇭ไทย
- 🇹🇲ตุรกี
- 🇦🇪สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- 🇺🇿อุซเบกิสถาน
- 🇻🇳เวียดนาม
- 🇾🇪เยเมน
คืออะไร ดุลการค้า
ความสมดุลทางการค้าหรือ Balance of Trade (BoT) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการประเมินสุขภาพทางเศรษฐกิจของประเทศและชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก กระแสเงินเข้าและออกผ่านการซื้อขายสินค้าและบริการระหว่างประเทศนั้นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสมดุลทางการค้าของประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ สำหรับเว็บไซต์ Eulerpool ซึ่งเน้นไปที่การแสดงข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคในเชิงลึก บทความนี้จะนำเสนอความเข้าใจเกี่ยวกับความสมดุลทางการค้าในประเทศไทยและการวิเคราะห์องค์ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการคนี้ในรายละเอียด ความสมดุลทางการค้า หรือ Balance of Trade นั้นเป็นการคำนวณผลต่างของมูลค่าสินค้าและบริการที่ประเทศหนึ่งส่งออก (exports) กับมูลค่าของสินค้าและบริการที่ประเทศนั้นนำเข้า (imports) การมีความสมดุลทางการค้าเป็นบวก (trade surplus) หมายถึงประเทศนั้นส่งออกมากกว่านำเข้า ในขณะที่การมีความสมดุลทางการค้าเป็นลบ (trade deficit) หมายถึงประเทศนั้นนำเข้ามากกว่าส่งออก ซึ่งสามารถมีผลกระทบทางเศรษฐกิจทั้งในด้านดีและด้านเสียขึ้นอยู่กับสถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทย ผลกระทบจากความสมดุลทางการค้านั้นมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น สินค้าและบริการที่มีความต้องการสูงในตลาดโลกสามารถก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแก่ประเทศผ่านการส่งออก ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของเงินทูลหรือ foreign reserves การมีตะกร้าสินค้าที่หลากหลาย การมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการที่คุณภาพสูงสามารถช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอกเช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าและศุลกากรของประเทศที่เป็นคู่ค้าหลัก, การเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา, และการเปลี่ยนแปลงในภาวะเศรษฐกิจโลกก็มีผลกระทบสำคัญต่อความสมดุลทางการค้า ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของภาษีศุลกากรจากประเทศคู่ค้าอาจทำให้สินค้าส่งออกของไทยมีราคาสูงขึ้นและลดความสามารถในการแข่งขันได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อราคาของสินค้าและบริการที่มีการซื้อขายระหว่างประเทศได้ ส่งผลต่อความต้องการสินค้านำเข้าส่งออก ในเชิงนโยบาย ความสมดุลทางการค้าเป็นปัจจัยที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และนโยบายการค้า การส่งเสริมการส่งออกเป็นหนึ่งในมาตรการที่สามารถใช้ในการปรับปรุงความสมดุลทางการค้า ได้ผ่านทางการให้เงินสนับสนุน และสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่นเส้นทางคมนาคมและท่าเรือเพื่อให้กระบวนการส่งออกสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ในด้านการนำเข้า แนวทางการปรับปรุงความสมดุลทางการค้าอาจรวมถึงการพิจารณากำหนดอัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าที่มีลักษณะสามารถผลิตได้ในประเทศ, การส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศเพื่อทดแทนการนำเข้า หรือการควบคุมการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อเศรษฐกิจในระยะยาว ไม่เพียงเท่านี้ ความสมดุลทางการค้ายังสามารถเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในขณะบางครั้ง ความสมดุลทางการค้าที่เป็นบวกสามารถช่วยหนุนให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นมีความมั่นคงมากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบว่าประเทศนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องพึ่งพาการนำเข้ามากน้อยเพียงใด และนำไปสู่การกำหนดนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งในภาคการส่งออกให้มีผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืนต่อเศรษฐกิจ ในการประเมินและจัดการกับความสมดุลทางการค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การมีข้อมูลเศรษฐกิจที่ครบถ้วนและถูกต้องสามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องนโยบายต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางเว็บไซต์ Eulerpool ของเรามีการนำเสนอข้อมูลเศรษฐกิจในรูปแบบที่ง่ายต่อการวิเคราะห์และทำความเข้าใจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งานที่ต้องการศึกษาหรือวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคอย่างละเอียด สรุป คือ ความสมดุลทางการค้าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินสุขภาพเศรษฐกิจของประเทศ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันสามารถช่วยให้สามารถวางแผนและกำหนดนโยบายการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก การทำความเข้าใจถึงความท้าทายและโอกาสในการจัดการกับความสมดุลทางการค้าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว